Motel Mist : เช็คอินเข้าโรงแรมที่บรรจุคนจากโลกอื่น

ผ่านเทศกาลหนังมาแล้วตั้งมากมายสำหรับ Motel Mist โรงแรมต่างดาว ทั้งที่เนเธอร์แลนด์
แอฟริกาใต้ เม็กซิโก ฮังการี โครเอเชีย โปแลนด์ เยอรมนี และเดนมาร์ก แต่เมื่อบินกลับมาฉายรอบ Sneak preview ที่บ้านเกิดเมืองนอนในช่วงเดือนพฤศจิกายนไปแค่เพียงวันเดียว
วันต่อมากลับมีประกาศเลื่อนฉายไปซะอย่างงั้น แต่โชคดี เมื่อท้ายที่สุดหนังที่กำลังเป็นที่พูดถึงเรื่องนี้
ได้ฤกษ์ลงโรงฉายในเดือนธันวาคม โดยไม่ถูกตัดทอนเนื้อหาออกไปแม้แต่นิดเดียว

เราอาจรู้จัก คุ่น-ปราบดา หยุ่น ในฐานะของนักเขียนมือดี
และคนเขียนบทภาพยนตร์มือฉมัง แต่ในฐานะผู้กำกับภาพยนตร์ เขาคือหน้าใหม่ที่เพิ่งเข้ามารับบทบาทงานด้านการกำกับเป็นครั้งแรก
ทำให้เราได้รับรสชาติสดใหม่จากหนัง เพราะมีลูกเล่นพิสดาร และมีลูกบ้าพลังของคนทำหนังใส่ลงไปอยู่มาก
จนกระทั่งดูหนังจบ เรายอมรับว่าหนังของเขาทำให้เราอึ้งกิมกี่อยู่ไม่น้อยในความแหวกแนวของหนัง
คุ่นทำหนังได้ไม่เลวเลย แต่บอกไว้ก่อนว่าอย่าคาดหวังว่าทุกอย่างจะเป็นเหมือนในตัวอย่าง

เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นภายในเวลาหนึ่งวัน
(แต่กลับรู้สึกว่าจังหวะของหนังทำให้เหตุการณ์ดูเยิ่นเย้อเสียจนผิดปกติ) ณ โรงแรมม่านรูดชื่อ Motel Mistress เล่าเรื่องหลักๆ
เกี่ยวกับผู้ร่วมชะตากรรมในโรงแรมแห่งนี้จำนวน 5 คน ได้แก่ ตุล (รับบทโดย วสุพล เกรียงประภากิจ) อดีตดาราที่เคยดังในวัยเด็ก ผู้เข้าใจว่าตัวเองเป็นร่างทรงสื่อสารมนุษย์ต่างดาวและเชื่อว่ามนุษย์ต่าวดาวจะพาตัวเขาไป ซึ่งแม่ของตุลได้ออกสื่อเพื่อตามหาลูกชายของตัวเองและคิดว่าตุลนั้นมีอาการจิตไม่ปกติ, ไลล่า สาวไซด์ไลน์วัยมัธยมปลายผู้ลึกลับ
เงียบขรึมและแสนเศร้า, วิคกี้ เพื่อนสาวตัวแสบของไลล่า, ทศ เด็กหนุ่มผู้คุมโรงแรมม่านรูดที่หัวใจเต็มไปด้วยความฝัน และ โสภณ เสี่ยที่มีรสนิยมทางเพศสุดแสนแปลกประหลาด
ตัวละครทั้งห้านี้ต้องมาพัวพันกันแบบมึนๆ งงๆ เพราะไม่ได้ปูภูมิหลังของตัวละคร และต้นสายปลายเหตุที่พวกเขาต้องมาเจอกันเท่าที่ควร
อีกทั้งลักษณะการแสดงออกที่กำกวมของตัวละครทำให้คนดูต้องตีความต่ออยู่หลายข้อ
จะมีแต่เรื่องของฝั่งตุลเท่านั้นที่ทำให้ตัวละครดูมีที่มาที่ไปที่สุด แต่น่าเสียดายที่เนื้อหาส่วนนี้กลับไม่ถูกให้น้ำหนักมากเท่าที่ควรนัก

เส้นเรื่องหลักที่เรามองเห็นมี 3 เส้น
ระหว่างเรื่องที่เกิดในห้องของเสี่ยผู้กำลังจะเผด็จศึกเด็กสาว
ห้องของตุลที่กำลังสื่อสารข้อความบางอย่างกับมนุษย์ต่างดาว และทศที่อยู่ระหว่างห้องของเสี่ยโสภณกับตุล
ผู้มีหน้าที่ตั้งกล้องแอบถ่ายเสี่ยโสภณกับเด็กสาว

หนังเรื่องนี้กำลังพูดถึงคนชายขอบที่มีพฤติกรรมเบี่ยงเบน
คนแปลกประหลาดที่มีการกระทำผิดไปจากธรรมเนียมของสังคม
ม่านรูดจึงเป็นเหมือนที่หลบซ่อนและกำบังสถานภาพและบทบาทที่โลกภายนอกไม่พร้อมให้พวกเขาแสดงออกและเปิดเผยตัวตนได้

คุ่นบอกว่าเขาสนใจฉากโรงแรมม่านรูดและอยากหยิบมาเล่า แต่เรากลับมองว่าพื้นที่นี้ไม่ใช่พื้นที่ใหม่ที่คนทำหนังหยิบมาเล่น
ใน
Motel Mist โรงแรมม่านรูดกลายเป็นสถานที่ที่ถูกหยิบมาใช้เพื่อกำหนดว่าจะเป็นพื้นที่ที่ทำให้เกิดกิจกรรมที่ตัวละครมุ่งหวังจะมาทำตามความต้องการ โรงแรมถูกสร้างมาให้เป็นเหมือนสิ่งมีชีวิตที่คอยบงการเหตุการณ์ทุกอย่างให้เกิดขึ้นถือเป็นคาแรกเตอร์ที่น่าสนใจ
แต่กลับไม่ได้สื่อสารออกมาอย่างแหลมคมมากนัก

มีบทสนทนาของตัวละครหลายประโยคที่สะท้อนภาพของคนและสังคมที่ผุพังผ่านการบอกเล่า ตั้งคำถาม และโต้แย้งกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเมือง วัฒนธรรม และรสนิยมในสังคมร่วมสมัยในประเด็นต่างๆ นานา ซึ่งต้องลองตั้งใจฟัง
จะยิ่งสนุกถ้าผู้ชมเป็นคนที่ติดตามข้อมูลข่าวสารเป็นประจำอยู่แล้ว จะเห็นรายละเอียดของคำพูดที่น่าสนใจอยู่เป็นระยะๆ

ยกตัวอย่างสิ่งที่เราเห็นความเป็นต่างดาวในเรื่องนี้
คือรสนิยมทางเพศที่ค่อนข้างไม่เหมือนใครของเสี่ยโสภณซึ่งแสดงออกมาอย่างค่อนข้างเผด็จการ
ประกอบไปด้วยพฤติกรรมล่วงละเมิดทางเพศเด็ก (pedophile) และผู้มีอำนาจและอยู่ภายใต้อำนาจ (dominant & submissive)
ส่วนทศก็มีพฤติกรรมถ้ำมอง (voyeur) ซึ่งเป็นสิ่งที่สังคมยังไม่ยอมรับ
ตัวหนังได้กล่าวถึงการกดขี่ทางเพศ การลงโทษ การแก้แค้น ที่ให้น้ำหนักมากกว่าการพูดถึงตัวมนุษย์ต่างดาวจริงๆ
ซะอีก แต่ถึงอย่างนั้นการกระทำระหว่างเสี่ยกับเด็กสาวนั้นถือว่ามีความแฟนตาซีและกำกวมจนคนดูอาจไม่มีความรู้สึกร่วม

ด้านการแสดงออกของมนุษย์ต่างดาวที่ออกแบบมา
ทำให้รู้สึกเหมือนการนั่งดูศิลปะการแสดง (Art Performance) ของมอร์ วสุพล ที่ประหลาดล้ำ และลบภาพนักร้องของเขาไปอย่างหมดจด
ประกอบกับการใช้เทคนิคให้ภาพดูบิดเบี้ยวนั้นถือว่าน่าสนใจและน่าจับตาทุกครั้งที่มีการเล่น
สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างนอกจากการแสดงของมอร์ คือ ภาพและองค์ประกอบศิลป์ของแต่ละฉาก
ที่ทำให้เราให้อภัยในความประดักประเดิดของตัวหนังได้อย่างดี

คำว่าต่างดาวยังถูกแสดงผ่านพฤติกรรมของตัวละครทั้งห้าคน
ที่เป็นความรู้สึกไม่เชื่อมโยงกับสิ่งแวดล้อมรอบตัว พล็อตเรื่องและสีสันของหนังที่ฉูดฉาดถูกจัดวางจนเราคิดว่าเป็นหนังไซไฟในทีแรก
เมื่อได้ชมจึงพบว่าคิดผิดไปหมด เราคิดว่าหนังกำลังบอกเล่าเรื่องเหนือจริง และสิ่งนามธรรมหลายอย่างที่รอการตีความจากผู้ชม
ในรอบ Sneak preview
ที่มีการสัมภาษณ์นักแสดงซึ่งได้ดูหนังเป็นครั้งแรกพร้อมกับเรา
ทำให้รู้ว่านักแสดงตกอยู่ในสภาพที่กระอักกระอ่วน พวกเขาและเธอไม่ยังรู้ว่าตัวเองได้แสดงอะไรออกไป
เนื่องจากผู้กำกับไม่ยอมให้นักแสดงชมก่อนฉายจริง

เราว่ารสชาติหนังของคุ่นเหมือนหนังสือที่เขาเขียน
รสชาติของการเล่าเรื่องอย่างอิสระแต่เต็มไปด้วยแง่คิด และความสนุกของการถ่ายเทพลังทดลองที่ทำให้เราได้ตื่นตาตื่นใจ
เรารับรองว่าถ้าคุณเป็นแฟนหนังสือของเขา แล้วมาดูหนังเรื่องนี้น่าจะไม่ผิดหวังกัน
หนังทำให้เรานึกถึงประโยคของเพื่อนเวลาทำอะไรประหลาด ประดักประเดิด ขาดๆ เกินๆ ว่า ‘มึงเมายาหรือเปล่าวะ’ แต่ถึงอย่างนั้นเราก็เป็นคนเมาที่เท่และพูดคุยเรื่องที่มีประเด็นน่าติดตามอยู่ดี

Motel Mist เข้าฉายแล้ววันนี้ที่โรงภาพยนตร์ SFW เซนทรัลเวิร์ล, SF MAYA เชียงใหม่, SF เซนทรัล ขอนแก่น, House RCA และ Bangkok Screening Room ดูรายละเอียดรอบฉายที่เพจ Motel Mist

AUTHOR