แฟนเดย์..แฟนกันแค่วันเดียว : หนึ่งวันที่เราต่างไม่ใช่ตัวเราเอง

Director: บรรจง ปิสัญธนะกูล
Region: ไทย
Genre: Drama

ความรู้สึกซึมลึกเบาๆ
คือปฏิกิริยาของเราหลังเดินออกมาจากโรงภาพยนตร์
แฟนเดย์..แฟนกันแค่วันเดียว

ประเดิมภาพยนตร์เรื่องแรกของค่ายหนังชื่อใหม่แต่ยังคงความเก๋าไว้เช่นเคยอย่าง
GDH ด้วยหนังโรแมนติกดราม่าที่ผู้กำกับร้อยล้านหน้าตี๋
โต้ง-บรรจง ปิสัญธนะกูล อยากลองทำอะไรใหม่ๆ มากไปกว่าหนังฮาที่เขาอยู่มือ
เรื่องนี้ดึงเอาพระเอกระดับแม่เหล็ก เต๋อ-ฉันทวิชช์ ธนะเสวี
โคจรมาเจอกับนางเอกนัยน์ตาเศร้าที่ทำเราใจละลายอย่าง มิว-นิษฐา
จิรยั่งยืน แล้วจูงมือพาคนดูเที่ยวฮอกไกโดในหนึ่งวันที่เขาทั้งคู่จะเป็นแฟนกัน…ได้แค่วันเดียว

สารภาพว่าเราแอบตะขิดตะขวงใจเล็กๆ
ตอนแรกที่ฟังพล็อตว่าจะเป็นได้จริงไหม ไอ้อาการความจำเสื่อมชั่วคราว (Transient Global Amnesia: TGA)
ที่ถูกเอามาใช้เป็นสถานการณ์หลักให้นุ้ย นางเอกของเรื่องสูญเสียความทรงจำไปแค่วันเดียว
สบโอกาสพอดีให้เด่นชัย พนักงานไอทีเข้าสังคมไม่เก่งที่แอบชอบนุ้ยอยู่ไกลๆ ได้สวมรอยเป็นแฟนนุ้ยเสียเลย
แต่พอได้ดูจริงๆ สถานการณ์ในเรื่องก็ถูกออกแบบมาให้การเป็นแฟนกันแค่วันเดียว ‘เข้ารูปเข้ารอย’ จนเรายอมรับได้ แถมยังแอบเอาใจช่วยให้วันที่เด่นชัยมีความสุขนี้ผ่านพ้นไปด้วยดี
(ซึ่งจะมีอะไรหักมุมมากน้อยแค่ไหน ขอชวนให้ไปหาคำตอบกันเอาเองในโรงภาพยนตร์)

นอกจากเมจิกโมเมนต์ที่เกิดขึ้นในทุกฉากที่มิว นิษฐา ปรากฏตัว ไม่ว่าเธอจะพูด
หัวเราะ ร้องไห้ รอยยิ้มกว้างและนัยน์ตากลมโตที่เจือด้วยความเศร้าก็โดดเด่นออกมานอกจอกระทบใจเราทุกครั้งแล้ว
เรายังชอบรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่หนังเลือกมาใช้เสริมเส้นโรแมนติกและพล็อตความทรงจำ
อย่างตุ๊กตากาชาปอง ตราประทับสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ เทศกาลหิมะที่ซัปโปโร ที่ช่วยให้เรื่องน่ารักพลิกกลับมาเป็นฉากซึ้งๆ
ได้ไม่ยาก

ถึงอย่างนั้น ใน แฟนเดย์..แฟนกันแค่วันเดียว ก็มีหลายอย่างที่น่าเสียดายไม่น้อย
อย่างช่วงแรกๆ ของหนังที่ปูตัวละครเด่นชัยกับนุ้ยให้คนดูรู้จักอาจยืดยาวไปหน่อย ฟีลลิ่งช่วงกลางเรื่องหลายฉากก็พานให้นึกว่ากำลังดูโฆษณาการท่องเที่ยวฮอกไกโดไม่น้อย
(ซึ่งก็ชวนให้เราอยากไปเล่นสกีที่ฮอกไกโดจริงๆ นะ) แต่สิ่งที่ช่วยขยับความสัมพันธ์ของนุ้ยและเด่นชัยให้ใกล้ชิดและรู้สึกดีต่อกัน
ในฐานะว่าวันนี้ฉันจำแฟนของฉันไม่ได้ กลับไม่มีมากเท่าที่เราหวัง

ด้วยข้อจำกัดของหนังที่ต้องเล่าทุกอย่างให้จบในวันเดียวเลยทำให้เรารู้สึกว่าหลายซีนในวันที่ความทรงจำหายไปถูกเล่าออกมาอย่างรวบรัดไปหน่อย
หนังเหมือนการประกอบกันของฉากสวยๆ บทสนทนาติดอยู่ในหัวที่น่าจดจำหลายฉาก
แต่ยังไม่ปะติดปะต่อเข้ากันเป็นเรื่องเดียว การตัดสลับอารมณ์ของ 2 ตัวละครที่แกว่งไปแกว่งมา
และทำให้เราโฟกัสไม่ทันว่าตอนนี้ควรตามความรู้สึกของนุ้ยหรือเด่นชัย ทั้งที่จริงๆ ปมของสองตัวละครมีความน่าสนใจพอกัน
ซึ่งทำให้เราเสียดายมากๆ ว่าไม่สามารถเข้าใจความรู้สึกของทั้งคู่ได้ดีเท่าที่ควร

ยังไงก็ตาม
เราก็ชอบการตัดสินใจสำคัญของเด่นชัยที่เบนเรื่องไปยังแนวทางที่เราไม่ได้คาดเดาไว้มาก่อน
และทำให้หนังเปิดประเด็นเป็นมากกว่าหนังรักดราม่า
แต่ฉายให้เห็นความเป็นมนุษย์อีกแบบที่ทั้งนุ้ยและเด่นชัยมี

การโกหกเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ
การรู้อยู่แก่ใจว่ากำลังทำสิ่งที่ผิด การยอมรับตัวเราที่อาจไม่ได้สมบูรณ์แบบ และการลบล้างอคติต่อคนคนหนึ่งที่เรามีติดตัว คือประเด็นใหญ่ที่เราชอบมากๆ ซึ่งได้จากหนังรักเรื่องนี้
การที่หนังเลือกสื่อสารผ่านพล็อตสุดยากและเล่าสิ่งนี้ได้ก็ถือเป็นความสำเร็จอย่างหนึ่งเหมือนกัน

ในวันที่เราตื่นมาแล้วลืมไปชั่วขณะว่าเราเป็นใคร
เป็นคนแบบไหน

ในวันที่เรากลับไปเป็นตัวเราที่ไม่ใช่อย่างในทุกๆ
วัน

เมื่อความทรงจำกลับมา เราจะยอมรับตัวตน
และให้อภัยตัวเราที่ทำผิดพลาดไปได้ไหม

AUTHOR