เฉิ่ม: รักเชยๆ ของผู้ชายเฉิ่มๆ ที่จะทำให้หัวใจคุณอินเลิฟกับเพลงรักคลาสสิกของสุนทราภรณ์

“ทำดีแล้วจะได้ดี เป็นคติสอนใจที่ ‘สมบัติ ดีพร้อม’ พระเอกของภาพยนตร์ ‘เฉิ่ม’ กล่อมให้ตัวเองเชื่อมาตลอด จนเมื่อเผชิญหน้ากับโลกความจริงที่พร้อมจะทำร้ายทั้งจิตใจและร่างกายให้บอกช้ำซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่เมื่อบัติได้เรียนรู้แล้วว่าการทำดีกับทุกคนนั้นไม่ได้รับผลดีเสมอไป หนำซ้ำยังนำพาความซวยจนเกือบถึงชีวิตมาให้ เขาจึงตัดสินใจสวนทางกับคติที่เขาเชื่อเพื่อเป็นทางรอดของตัวเองแทน ซึ่งก็ต้องยอมรับผลของการกระทำนั้นของตัวเอง

ภาพยนตร์ผลงานการกำกับของ ‘คงเดช จาตุรันต์รัศมี’ เรื่องนี้ได้ ‘สยมภู มุกดีพร้อม’ ผู้กำกับภาพคู่บุญของ ‘เจ้ย-อภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล’ ที่ได้รับการยอมรับในวงการภาพยนตร์ระดับโลกมามีส่วนร่วมในการผลิต รวมทั้ง ‘ลี ชาตะเมธีกุล’ นักลำดับภาพคิวทองที่รับหน้าที่ร้อยเรียงเรื่องในขั้นตอน post production จึงทำให้ ‘เฉิ่ม’ คว้ารางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, ผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม จากเวที ‘คมชัดลึกอวอร์ด ครั้งที่ 3’

“ถ้าหากว่าเราค้นพบสิ่งที่เรารักแล้ว เป็นไปได้หรือไม่ที่เราจะหยุดเวลาและหัวใจไว้ที่นั่น” คำถามตั้งต้นที่เป็นที่มาของภาพยนตร์เรื่องนี้ เกิดขึ้นมาจากเมื่อ ‘คงเดช จาตุรันต์รัศมี’ เปิดไปฟังเพลง ‘ปองใจรัก’ ของ ‘สุนทราภรณ์’ ทางคลื่น AM ในระหว่างทางกลับบ้านจากต่างจังหวัดจนเกิดเป็นแรงบันดาลใจให้เขาเขียนบทภาพยนตร์เรื่อง เฉิ่ม ขึ้นมา

ชื่อของ ‘คงเดช จาตุรันต์รัศมี’ ผู้กำกับภาพยนตร์ที่ฝากผลงานด้านการกำกับภาพยนตร์ไทยหลายเรื่อง ประเดิมเรื่องแรก สยิว (2546), กอด (2551), ตั้งวง (2556), Snap (2558), Where We Belong (2562) โดยภาพยนตร์เรื่องล่าสุด Faces of Anne (2565) รวมทั้งรับหน้าที่ในตำแหน่งเขียนบทของภาพยนตร์เรื่องดังอีกหลายเรื่อง เช่น The Letter จดหมายรัก (2547), ปืนใหญ่จอมสลัด (2551) และ Hunger (2566) ที่เป็นทั้งผู้สร้างเองด้วยโดยกำลังจะลงฉายทาง Netflix ในวันที่ 8 เมษายนนี้ เป็นต้น

ภาพยนตร์เรื่อง เฉิ่ม (2548) เป็นภาพยนตร์เรื่องที่สองของ คงเดช ที่ดึงซุปเปอร์สตาร์จากสองฝั่งอุตสาหกรรมบันเทิงไทย ‘หม่ำ จ๊กมก’ ดาวตลกชื่อดังมารับบทพระเอก และ ‘นุ่น วรนุช’ นักแสดงที่ผ่านงานแสดงทางโทรทัศน์มามากมายอยู่แถวหน้าของละครไทย มาเป็นนางเอกภาพยนตร์เรื่องแรกของเธอ 

‘สมบัติ ดีพร้อม’ ที่รับบทโดย ‘หม่ำ’ คนขับรถแท็กซี่กะกลางคืนคนซื่อ ชายขี้เหงาในเมืองหลวง ที่ใช้ชีวิตสวนทางกับกระแสโลก เขาชื่นชอบการฟังเพลงสุนทราภรณ์ กินอาหารเมนูเดิมจากร้านประจำทุกคืน เมื่อใดที่ใจว้าวุ่น บัติจะหยิบปากกาเขียนจดหมายหาคุณอาธรรมรงค์ ดีเจที่เป็นเสียงช่วยอยู่เป็นเพื่อนเขายามดึก ในขณะที่ยุคนั้นคนส่วนใหญ่ใช้โทรศัพท์ติดต่อหากัน ฟังเพลงแดนซ์ แต่งตัวตามแฟชั่น (Y2K) เดินห้างสรรพสินค้าชิคๆ กินแมคโดนัลด์ จนเมื่อได้เจอกับ ‘นวล’ รับบทโดย ‘นุ่น วรนุช’ หมอนวดสาวหน้าใหม่ในวงการ ที่เข้ามาทำให้โลกของเขามีชีวิตชีวาสดใสขึ้น เสน่ห์ที่เกินห้ามใจของ ‘นวล’ ทำให้ใครที่พบก็ตกหลุมรัก แต่เธอก็เป็นอีกหนึ่งชีวิตที่ต้องโยกย้ายเข้ามาในเมืองเพื่อดิ้นรถทำให้ครอบครัวมีชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งผู้หญิงตัวคนเดียวในเมืองใหญ่ทำได้แค่ฝันถึงสิ่งที่ตัวเองอยากมี อยากเป็น โดยไม่รู้จุดหมายปลายทางว่าจะมีโอกาสสำเร็จเมื่อไหร่ 

หลายฉากที่เห็นเธอเหม่อลอยออกหน้าต่างรถ ด้วยสายว่างเปล่าและชวนให้เราเศร้าไปกับชะตากรรมที่เธอต้องก้มหน้ายอมรับ เมื่อทั้ง ‘บัติ’ และ ‘นวล’ พบกันบ่อยครั้งเนื่องด้วยคำสัญญาที่จะเป็นคนขับรถไปส่งเธอถึงที่บ้านเมื่อเธอเลิกงานจากร้านอาบอบนวด ความสัมพันธ์ที่ค่อยๆ เติบโตได้ทำให้โลกเหงาๆ สองใบไม่โดดเดี่ยว ‘นวล’ แม้จะผ่านมือชายมากหน้าหลายตาในแต่ละคืน แต่เมื่ออยู่กับ ‘บัติ’ เธอกลับไปเป็นผู้หญิงธรรมดาคนนึง เธอมีเขาเป็น comfort zone ให้พักใจได้โดยไม่ต้องกลัวว่าจะถูกล่วงเกินหาผลประโยชน์จากร่างกายของเธอเหมือนเช่นชายอื่น ส่วน ‘บัติ’ เองจากชายที่เคยมีครอบครัวแต่ชีวิตพลิกผันกลายเป็นคนโลกส่วนตัวสูง เก็บตัว ไม่มีเพื่อนสนิท ไม่มีคนข้างหลังให้เป็นห่วง เขาเลือกอยู่กับโลกที่จินตนาการจากละครในวิทยุ เพื่อหนีความจริงอันโหดร้ายที่เขาโดนคนใกล้ตัวทำร้ายให้ทั้งเจ็บและแค้นใจ จนหันหลังให้โลกและหาความสงบเพื่อกลบอดีตที่หลอกหลอน 

ห้องนอนมืดมนที่มีเพียงฟูกที่นอนและชั้นวางเล็กๆ ที่เป็นมุมแต่งตัว ยูนิฟอร์มชุดเดิมที่เราเห็นเขาสวมเกือบตลอดทั้งเรื่อง อุปกรณ์สำหรับเซตผมที่เป็นกิจวัตรก่อนออกจากบ้าน ห้องลีลาศเสมือนเป็น safe zone ที่ช่วยปลอบประโลมใจให้เขาสงบ โลกที่หมุนช้าลง เสียงเพลงหวานๆ ที่มีคู่เต้นจับมือ โอบรัดเอวใกล้ชิดอิงแอบกันและกัน ภาพอุดมคติที่ห่างไกลจากชีวิตของเขา

บทเพลงจากวงสุนทราภรณ์กลายเป็นอีกหนึ่งตัวละครที่หยอดใส่มาได้ถูกจังหวะช่วยทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้เต็มไปด้วยความโรแมนติก หวานซึ้ง แม้ในสายตาของตัวละครอื่นที่เป็นคนทั่วไปอาจฟังดูเชย แต่คุณค่าความดีงามไม่ได้วัดกันที่กาลเวลา ซึ่งถ้าตั้งใจฟังเนื้อร้องจะชวนให้เคลิบเคลิ้มและตกหลุมรักเหมือนคนทั้งคู่ได้ไม่ยาก

แม้ในภาพยนตร์จะไม่ได้มีฉากที่แสดงถึงความสัมพันธ์ระหว่างชาย-หญิงของนวลและบัติอย่างชัดเจน แต่ผู้ชมสัมผัสได้ถึงความรักที่มาในรูปแบบความปรารถนาดีให้แก่กันและกันได้อย่างอบอุ่นใจ เหมือนสติกเกอร์ติดรถแท็กซี่ของเขาที่ว่า ‘รักแท้ทนทานเหนือกาลเวลา’ เพราะหากแม้ชะตาเราผูกพันกันสักวันโลกอาจหมุนให้เรามาพบกันอีกครั้งในเวลาที่เหมาะสม 

เกร็ดจากภาพยนตร์เรื่องนี้ ถ้าใครสังเกตรถแท็กซี่ที่สมบัติขับจะเห็นป้ายทะเบียน ทน 2514 ซึ่งเป็นปีเกิด 2514 ของผู้กำกับนั่นเอง

รับชมได้แล้วทาง Netflix 

ตัวอย่างภาพยนตร์

AUTHOR