สองปีก่อน เรารู้จักเชฟยีสต์–นกุล กวินรัตน์ ในฐานะเชฟหนุ่มวัยสามสิบต้นๆ ที่ฮอตในโลกโซเชียลสุดๆ (อย่างน้อยสาวๆ หลายคนแถวนี้น่าจะเคยเสิร์ชชื่อเชฟยีสต์ในกูเกิลบ้างแหละ) แถมอดีตเฮดเชฟประจำร้านอาหาร The Never Ending Summer คนนี้ยังเคยปรากฏตัวบนปก a day 192 The Master of Taste ในบทสัมภาษณ์ เชฟเล่าภาพความฝันที่อยากมีร้านอาหารเป็นของตัวเองปิดท้าย
ปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา ความฝันของเขาก็เป็นจริง เชฟยีสต์เปิดร้านอาหารร้านแรกในชีวิตตัวเองโดยใช้ชื่อว่า ‘คอหมูพระราม 5’ เชฟเล่าที่มาคร่าวๆ ว่าแต่เดิมเคยเป็นเพียงแค่โปรเจกต์เล็กๆ ขายเมนูง่ายๆ เพื่อหารายได้เสริม จนกระทั่งโชคชะตาทำให้เชฟเลือกลาออกจากงานเดิม บวกกับจังหวะที่ตัดสินใจเซ้งอุปกรณ์ครัวจากร้านดังย่านทองหล่อและที่เช่าทำเลดีที่เชฟบังเอิญเจอ เชฟเลยตัดสินใจเปิดร้านที่มีสเกลใหญ่กว่าภาพที่เคยคิด
แม้ว่าเชฟมีลูกมือเพียงสามคน แต่ทุกคนคล่องแคล่วในหน้าที่ย่าง หั่น จัดจาน อย่างที่ตัวเองได้รับมอบหมายจากเชฟ และถ้าคุณได้มาร้านคอหมูแห่งนี้ ขอให้ลองสังเกตพื้นที่ครัวแบบฟูลออพชั่นของที่นี่
“ผมว่าคนในวงการอาหารน่าจะรู้สึกตลกว่าคอหมูพระราม 5 เป็นร้านอาหารบ้านๆ แต่ครัวเราเต็มที่มาก (หัวเราะ) อย่างเตาคอมบิ (เตาอบที่สามารถนึ่งอาหารได้ด้วย) ตัวนั้นเป็นความสะใจส่วนตัว ผมอยากได้มันมานานมากๆ ตั้งแต่ช่วงที่ทำงานอยู่ร้านเก่า ราคามันแพงมากครับ ตอนที่ได้ยินว่าเขาจะเซ้งเตาอบตัวนี้ ผมตาลุกวาวมากเลย”
“เมนูของที่นี่มีไม่เยอะมาก” เชฟเอ่ยทันทีที่เราหยิบเมนูมาสำรวจ
“จริงๆ ผมชอบทานเนื้อวัวมาก แต่ผมรู้สึกว่าเดี๋ยวนี้ร้านที่ขายเมนูเนื้อมีเยอะมากๆ แต่ร้านที่ขายแต่เมนูหมูไม่ค่อยมีให้เห็นเท่าไหร่ อีกอย่างบ้านผมเป็นคนจีน แม่ของผมเขาไม่ค่อยอยากให้คนที่บ้านกินไก่กันเพราะเขาเชื่อว่าไก่ถูกฉีดฮอร์โมนที่เป็นโทษกับร่างกายคนแน่ๆ เพราะฉะนั้นแหล่งโปรตีนที่บ้านเราทานกันก็คือเนื้อหมู”
สองจานแรกที่ถูกยกมาเสิร์ฟคือ คอหมูย่าง สันคอหมูย่างที่เครื่องหมักเข้าเนื้ออย่างพอดี ทานคู่กับ ‘ข้าวสวยยโสฯ’ ข้าวสวยเนื้อหนึบที่นอกจากตัวมันเองมีต้นกำเนิดมาจากจังหวัดยโสธรแล้ว (เชฟเฉลยว่าจริงๆ คือข้าวหอมมะลิตราแมงป่อง) ชื่อชวนยิ้มชื่อนี้ยังเป็นความตั้งใจเล่นคำแบบน่ารักๆ ของเชฟ
ข้าวสันคอหมูย่าง ข้าวคอหมูย่าง ข้าวซี่โครงหมูเสฉวน ข้าวหมูชาชูซาเตี๊ยะ ข้าวหมูตุ๋นใส่กุนเชียงย่าง ต้มกระดูกหมูใส่เต้าเจี้ยว และแคบหมูทอดกันสดๆ ทั้งหมดนี้คือเมนูที่ขาย หักลบเมนูเบสิกอย่างคอหมูย่าง เมนูที่เหลือล้วนเป็นเมนูที่เชฟดัดแปลงจากอาหารที่ตัวเองคุ้นเคย เรียกได้ว่าแม้จะขายไม่กี่เมนู แต่รสชาติและความตั้งใจ ‘อร่อย’ ไม่แพ้ใครเลย
เมนูต่อไปที่เราได้ลองคือ ข้าวหน้าหมูตุ๋นใส่กุนเชียงย่าง เราลิ้มรสหมูตุ๋นชิ้นนุ่ม หอมเครื่องสมุนไพรที่ทางร้านใส่แบบไม่มีกั๊ก พร้อมกับซดซุปกระดูกหมูรสกลมกล่อมจากชามข้างๆ พลางฟังเชฟเล่าถึงที่มาของเมนูอื่น
“ข้าวหน้าหมูตุ๋น ผมดัดแปลงสูตรมาจากข้าวหน้าไก่ตุ๋นที่ผมชอบครับ แค่เอาหมูมาใช้แทนไก่ ตัวน้ำราดก็ทำมาจากน้ำต้มกระดูกหมู ผมชอบรสชาติสไตล์นี้และคิดว่าอยากทำเมนูที่ไม่เหมือนกับคนอื่น หยิบนู่นหยิบนี่มาผสมกัน อย่างหมูชาชูซาเตี๊ยะก็มาจากเมนูปลาทูซาเตี๊ยะ ผมใช้หมูชาชูที่มีความเป็นญี่ปุ่น แล้วก็ปรับรสนิดหน่อย”
นอกจากเมนูหมูย่างและหมูตุ๋น อีกหนึ่งเมนูไฮไลต์แห่งคอหมูพระราม 5 คือแคบหมูทอดชิ้นใหญ่ที่เชฟได้ไอเดียจากหนังหมูทอดจากร้านอาหารในนิวยอร์ก ใครที่สั่งเมนูนี้เชฟยีสต์จะเป็นคนโชว์ฝีมือทอดเองแบบสดๆ เพื่อให้ลูกค้าทุกคนได้ทานแคบหมูที่กรอบและอร่อยที่สุดตามที่เขาตั้งใจ แถมใจดีเจียวกากหมูให้ลูกค้ากินแกล้มแบบฟรีๆ และทำน้ำจิ้มคอหมูให้เราเลือกทานมากถึง 9 รส
นี่คือครั้งแรกที่เราเห็นเชฟยีสต์ ‘เป็นทุกอย่าง’ ให้ร้านตั้งแต่ยืนเจียวกากหมู เตรียมของหลังร้าน หรือแม้แต่งานหน้าร้านอย่างการต้อนรับลูกค้าแบบเป็นกันเอง รับออร์เดอร์ เสิร์ฟ และคิดเงิน
รอยยิ้มน้อยๆ ใต้ความเหน็ดเหนื่อยของเชฟขี้อายคนนี้ฟ้องเราว่า ความสุขของการทำร้านอาหารไม่ใช่เรื่องที่ขึ้นอยู่กับขนาดหรือความหรูหราของร้าน แต่เป็นความอิ่มเอมใจที่มีคนมากมายตั้งหน้าตั้งมาทานข้าวที่ร้านอาหารบ้านๆ ของเขาต่างหาก
ว่าแล้วก็อุดหนุนหมูชาชูซาเตี๊ยะนุ่มๆ กับซอสรสเข้มข้นกลับไปทานที่บ้านอีกสักจานละกัน
คอหมูพระราม 5
Address : โครงการสวนดอกลำเจียก ถนนราชพฤกษ์ (ติดกับโฮมโปร ราชพฤกษ์)
Hour : เปิดทุกวัน 11.00 – 22.00 น. (ขอเตือนว่าบางวันของหมดตั้งแต่บ่าย 3 เพราะฉะนั้นไปให้ไวเลยนะ)
Phone : 092 516 6535
Facebook : คอหมูพระราม5
