Kamikochi : เดินเทรกกิ้งชมความงามของป่าสนเลียบแม่น้ำพร้อมวิวภูเขาแอลป์ญี่ปุ่นในนากาโน่

ครั้งแรกของการเที่ยวญี่ปุ่นของหลายคน คงจะมีรูปแบบการเที่ยวไม่แตกต่างกันมากนัก (และเราก็เป็นหนึ่งในนั้น ฮา) บินลงโตเกียว ไปถ่ายรูปห้าแยกชิบูย่า ใสๆ หน่อยก็ไปเที่ยว Tokyo Disneyland ออกไปทะเลสาบคาวากุจิ ชมวิวภูเขาไฟฟูจิ
ซึ่งก็แล้วแต่ดวงวาสนาว่าจะได้เห็นฟูจิซังหรือไม่ ถ้าไม่อย่างนั้น อีกแผนคือบินลงโอซาก้า ไปโดทงโบริ ยกขากางแขนถ่ายรูปคู่กับป้ายกูลิโกะ
ออกไปเกียวโต แวะวัดคิโยมิซุ ถ่ายรูปมุมมหาชน ต่อด้วยไปศาลเจ้าฟูชิมิ อินาริ ถ่ายรูปคู่กับเสาโทริอิสีแดง ถ่ายแล้วถ่ายอีกถ่ายวนไปหลายๆ มุม เป็นความตื่นเต้นที่ทุกคนสัมผัสได้ในครั้งแรกๆ ที่มาเยือนญี่ปุ่น
แต่เมื่อเราออกเดินทางไปญี่ปุ่นครั้งต่อมา เราจะเริ่มค้นหาสถานที่แปลกใหม่
ออกไปไกลกว่าเส้นทางเดิมๆ มากขึ้น แต่ก็ไม่ยากเกินไปสำหรับการเดินทางในประเทศนี้

เกริ่นมาเสียยืดยาว เรามาพูดถึงการเดินทางครั้งนี้ที่เราเดินทางคนเดียวอีกครั้งกันดีกว่า! ไม่ใช่ติสท์ แต่ไม่มีคนมาด้วย โดยหนึ่งในสถานที่ที่เราตั้งใจจะไปในครั้งนี้คือแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ Kamikochi (คามิโคจิ) ที่ราบสูงสวยที่ตั้งอยู่ทางเหนือของเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่น
จังหวัดนากาโน่

คามิโคจิใครหลายคนที่เคยไปมักจะบอกว่า “ที่นี่สวยทุกฤดูเลย!”
เราเคยเห็นรูปช่วงปลายฤดูร้อน
ต้นไม้ที่นี่เขียวสวยรับวิวยอดภูเขาไกลๆ สวยจนต้องหาข้อมูลดูในช่วงฤดูอื่นๆ และพบว่าที่นี่สวยทุกฤดูจริงๆ (ยกเว้นในช่วงฤดูหนาวเพราะปิด) ซึ่งตามความตั้งใจและแผนเดินทางไปญี่ปุ่นของเราคือช่วงฤดูใบไม้ร่วงพอดี

คามิโคจิจะมีจุดเดินเทรกกิ้งอยู่หลายจุดทั้งทางราบและขึ้นเขา
จากความเข้าใจและแผนที่ตั้งใจไว้ เราจะไปลงรถบัสที่สถานีบัสใกล้สะพานคัปปะ (Kappabashi) แล้วค่อยเดินย้อนลงมาตามเส้นทางเดินเรื่อยๆ
แต่…มันไม่ใช่แบบนั้น! เมื่อคนบนรถบัสเกือบทั้งคันซึ่งเป็นคนญี่ปุ่นลงตั้งแต่ป้ายไทโชอิเคะ (Taishoike) ใกล้สระน้ำไทโช (Taisho Pond) เมื่อเจ้าถิ่นลง
เราก็ลง! ใจง่ายเหลือเกิน เป็นปกติของการไปเที่ยวคนเดียวของเรา
เปลี่ยนแผนไปเรื่อยตามอารมณ์และความสุนทรีในใจ และด้วยเวลาที่ค่อนข้างจำกัด เราจึงเลือกเดินเส้นทางราบจากสระน้ำไทโชเลียบแม่น้ำอะซูสะ (Azusa
river) ไปจบที่สะพานคัปปะบาชิ

พอเดินลงจากรถบัสเจอลมตีหน้า
หนาวมากๆ แต่โชคดีที่สักพักก็เริ่มมีแดดออก อากาศอุ่นขึ้นนิดหน่อย ช่วงที่เราไป ใบไม้เริ่มร่วงไปเยอะพอสมควร แต่วิวทิวทัศน์รอบๆ ก็ยังสวยไม่สร่าง
สวยจริงจัง รูปถ่ายของเราเก็บมาไม่ครบทุกมุม
เพราะเรามัวแต่อินกับธรรมชาติ ล่องลอยไปด้วยอารมสุนทรีย์ (พอๆ เว่อร์ไปแล้ว แต่มันสวยจริงนะ ฮาฮา) ตรงนี้จะเห็นวิวไกลๆ เป็นยอดเขาแอลป์ญี่ปุ่น
(Japan Alps) ที่สวยมากๆ และตรงสระน้ำไทโชนี้เป็นจุดถ่ายรูปที่ใครๆ ก็ต้องแวะถ่ายรูปกัน

เราใช้เวลาอินกับบรรยากาศและถ่ายรูปไปพอสมควร ก็ถึงเวลาเริ่มเดินเทรกกิ้งระยะทางประมาณ 3 – 4 กิโลเมตร อากาศเย็นสบาย เดินแบบไม่รู้สึกเหนื่อยเลย
เดินไปเรื่อยๆ ถ่ายรูปวิวบ้าง หยุดแวะเซลฟี่บ้าง ตามเส้นทางเลียบแม่น้ำอะซูสะ
เดินผ่านป่าสนที่ใบร่วงไปเยอะ แต่ต้นไม้อื่นๆ บางส่วนก็ยังเขียวขจีอยู่
ได้เห็นลิงป่าออกหาอาหารตรงลำธารเล็กๆ ธรรมชาตินี่มันสวยงามและดีต่อใจจริงๆ
ถ้าเป็นความรักก็เหมือนเราหลงไปกับความสวยงามของความรัก
ความรักที่ไม่มีเงื่อนไขใดๆ

จากที่ตอนแรกก็ตั้งใจจะรีบเพราะเวลาจำกัด แต่พอหลงไปกับความงามของธรรมชาติจนเราไม่สนใจว่าต้องรีบแล้ว อยากใช้เวลาที่มีความสุขอยู่กับธรรมชาติให้เต็มที่ดีกว่า กว่าจะเดินถึงสะพานคัปปะก็ใช้เวลาไปพอสมควร ก่อนถึงตรงนี้จะมีต้นสนเรียงราย ใบไม้กำลังเป็นสีเหลือง บรรยากาศจริงสวยกว่าที่เห็นในรูปอีกนะ จากสะพานคัปปะเราต้องเดินไปถ่ายรูปกับมุมมหาชนที่เป็นจุดขายของที่นี่ต่อ มีลำธารไหลลงจากภูเขาด้านบนเป็นยอดภูเขาน้ำแข็งแอลป์ญี่ปุ่น
ขนาบข้างด้วยต้นสนและต้นไม้อื่นๆ ถ้ามาก่อนนี้สักหนึ่งสัปดาห์น่าจะสวยสุดๆ แน่เลย

หากเพื่อนๆ เริ่มเบื่อการไปเที่ยวทะเลสาบคาวากูจิ หรือเบื่อเที่ยววัดในเกียวโตแล้ว ลองเลยออกมาเที่ยวแถบนากาโน่ดูสักครั้ง คามิโคจิเป็นหนึ่งในสถานที่ที่เราแนะนำเลยล่ะ ถ้าได้มาแล้วจะรู้สึกเหมือนเราว่ามันคุ้มค่าจริงๆ และถ้ามีเวลาได้เดินเทรกกิ้งไปเส้นทางอื่นๆ น่าจะอินมากกว่านี้อีก นอกจากคามิโคจิก็ยังมีแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติอีกหลายที่เลย
การเดินทางเริ่มต้นได้ทั้งจากฝั่งโตเกียวและโอซาก้า และเราจะกลับมาที่นี่ในฤดูอื่นๆ อีกแน่นอน เพื่อพิสูจน์ให้เห็นกับตาตามคำบอกเล่าว่า “ที่นี่สวยทุกฤดูเลย!”

Kamikochi

Address: Azumi,
Matsumoto-shi, Nagano-ken 390-1516, Japan

Hours: กลางเดือนเมษายนถึงกลางเดือนพฤศจิกายน
How to go there:
จากมัตสึโมโตะ (Matsumoto) ด้วยรถไฟหรือรถบัส : จากสถานี
Matsumoto
Station โดยสารรถไฟ Matsumoto Electric Railway ไปลงที่ Shin-Shimashima Station (30 นาที) ต่อรถบัสที่ไปยัง Kamikochi (60 นาที) ค่าใช้จ่ายเที่ยวเดียว 2,450 เยน ไปกลับ 4,550
เยน ไม่สามารถใช้ JR Pass ได้กับรถไฟหรือรถบัส

จากทาคายาม่า (Takayama) ด้วยรถบัส : จาก
Takayama โดยสารรถบัส Nohi Bus ไปลงที่ Hirayu Onsen (60
นาที 1,570 เยน รถบัสออกชั่วโมงละรอบ) จากนั้นต่อรถบัสที่ไปยัง Kamikochi (25 นาที
เที่ยวเดียว 1,160 เยน ไปกลับ 2,050 เยน รถบัสออกชั่วโมงละ 2 รอบ)

รถยนต์ส่วนตัว : ขับตามเส้นทาง
National Route
158 จากมัตสึโมโตะหรือทาคายาม่า แต่ไม่อนุญาตให้นำรถส่วนตัวเข้าไปภายใน มีลานจอดรถให้บริการ วันละ 500
เยน จากนั้นนั่งรถบัสเข้าไปสู่คามิโคจิประมาณ 20 – 30 นาที (1,000 เยน) หรือนั่งแท๊กซี่
4,000 เยน

Map:

kamikochi.or.jp

ใครอยากส่งเรื่องที่น่าเที่ยวมาลงเว็บไซต์ a day online คลิกที่นี่เลย

AUTHOR