The Hive : สู่โลกของนักผสมเกสรดอกไม้

Kew
Gardens
หรือ Royal Botanic Gardens คือสวนพฤกษศาสตร์ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ที่มีขนาดกว้างใหญ่ราวสวนป่าและยังรวบรวมพันธุ์ไม้ไว้มากที่สุดในโลก
พอได้ยินคำว่าพฤกษศาสตร์ก็อย่าเพิ่งง่วงนะ
เพราะชาวอังกฤษได้ชื่อว่าเป็นนักเล่าเรื่องที่เก่งไม่แพ้ใคร
สวนพฤษศาสตร์ของพวกเขาจึงบอกเล่าเรื่องราวของต้นไม้กับมนุษย์ได้อย่างน่าสนใจและสร้างสรรค์จนเผลอคิดไปว่า
นี่เรากำลังอยู่ในสวนสนุกรึเปล่าเนี่ย?

Palm
House
คืออาคารที่ใหญ่ที่สุดและเป็นสัญลักษณ์ของสวนแห่งนี้
มันคือเรือนกระจกขนาดยักษ์ที่จัดแสดงต้นปาล์มหลากหลายสายพันธุ์จากทั่วโลก
เรือนกระจกที่อยู่ติดกันคือ Water Lily House ซึ่งเป็นบ้านของดอกบัวหลายชนิด
แต่ที่เด่นสะดุดตาที่สุดคือนางเอกอย่างบัววิกตอเรียขนาดกว้างเป็นเมตรที่ลอยอยู่กลางสระ
ส่วนเรือนกระจกที่เราประทับใจที่สุดคือ Princess of Wales Conservatory ที่แสดงพืชเขตร้อนหลายประเภททั่วโลก เช่น โซนทะเลทราย
และป่าดงดิบ มีห้องที่จัดแสดงพืชเขตร้อนชื้นห้องนึงที่จะมีฝนตกลงมาหลายครั้งในหนึ่งวัน
ดังนั้น ก่อนเปิดประตูเข้าไปต้องดูเวลาดีๆ เพราะเดี๋ยวจะเปียกไม่รู้ตัว

แต่ถ้าเบื่อการเดินดูต้นไม้แบบธรรมดา
ที่สวนคิวก็มีอีกเครื่องเล่นชวนหวาดเสียวคือ Treetop Walkway ทางเดินสูง
18 เมตรที่พาเราขึ้นไปเดินอยู่ระดับเดียวกับยอดไม้
จนมองเห็นวิวทั้งสวนในมุมกว้าง
แถมระหว่างทางยังสอดแทรกสาระด้วยป้ายเกร็ดความรู้สนุกๆ เกี่ยวกับต้นไม้มากมาย

ส่วนจุดสำคัญที่ห้ามพลาดเด็ดขาดคือ The Hive อาคารไฮไลต์ใหม่ล่าสุดที่เคยเป็น UK Pavilion ในงาน Expo Milano 2015 ที่ประเทศอิตาลี เพราะคอนเซปต์ของงานในปีนั้นคือ Feeding the Planet, Energy for Life ศิลปินชาวอังกฤษ Wolfgang Buttress จึงร่วมมือกับนักออกแบบและนักวิทยาศาสตร์สร้างรังผึ้งขนาดยักษ์ที่จะทำให้ผู้เข้าชมเห็นความสำคัญของผึ้งตัวจิ๋วที่ทำหน้าที่ผสมเกสรดอกไม้
จนเกิดเป็นพืชผลมากมายให้คนทั่วโลกได้อิ่มท้อง

ก่อนอื่นต้องอธิบายว่าผึ้งพูดคุยกันผ่านการสั่นสะเทือน (คือสื่อสารได้ละเอียดถึงขั้นว่ามีดอกไม้เจ๋งๆ อยู่ที่จุดไหนในสวน!) ทีมงานจึงใส่เครื่องจับสัญญาณไว้ภายในรวงผึ้งกว่า 4 หมื่นรังในสวนคิว
ทุกครั้งที่จับการสั่นสะเทือนได้ หลอดไฟ LED ภายในอาคารก็จะสว่างวาบพร้อมเสียงดนตรี
เวลาที่เราเข้าไปยืนในอาคารจึงคล้ายตัวเราถูกย่อขนาดลงไปอยู่ในรังผึ้ง
พร้อมกับได้เฝ้าดูการทำงานของพวกมันผ่านแสงระยิบระยับและเสียงที่ประสานกันเป็นท่วงทำนองดนตรี

รอบๆ The Hive คือทุ่งดอกไม้ป่าที่มีผึ้งตัวเล็กบินว่อนไปมาน่ารัก
บนพื้นหญ้ามีป้ายห้ามเราเดินเข้าไปเพราะที่นี่เป็นแหล่งอาหารของผึ้ง จึงถือเป็นส่วนหนึ่งของการแสดงในนิทรรศการ
พออ่านแล้วทำให้คิดได้ว่าไม่ใช่แค่พื้นที่ตรงนี้เท่านั้น
แต่โลกทั้งใบต่างหากที่เป็นห้องทำงานของคุณผึ้งทั้งหลาย

และเมื่อทุกคนต่างใช้โลกใบนี้เป็นห้องทำงานเพื่อสร้างประโยชน์ให้กัน
จึงไม่ควรมีใครสำคัญน้อยกว่าใคร ว่าไหม

Kew Gardens

address: Royal Botanic Gardens, Kew, Richmond, Surrey TW9 3AB, United Kingdom
hours: เปิดทุกวัน ยกเว้นวันที่ 24 – 25 ธันวาคม เวลาเปิด 10:00 ถึงราวๆ 6 โมงเย็น
เวลาปิดจะแตกต่างกันตามฤดูกาล แนะนำให้มาถึงตั้งแต่ 10 – 11 โมงเพื่อดูสวนให้ครบถ้วนเต็มอิ่ม
(The Hive เปิดให้เขาถึงแค่เดือนพฤศจิกายน 2017
เท่านั้นนะ)
ticket price : ผู้ใหญ่
15 ปอนด์, นักเรียนและผู้พิการ 14 ปอนด์, เด็กอายุ 4 – 16 ปี
3.5 ปอนด์, เด็ก 0 – 3 ปีเข้าฟรี
และถ้าซื้อตั๋วล่วงหน้าจากเว็บไซต์ราคาจะถูกลงไปอีก
how to get there:
– London Underground : นั่งสาย District
มาลงที่สถานี Kew Garden Station เดินต่ออีก 400 เมตรจะถึงประตู
Victoria Gate ทางเข้าสวน
– South West Train : มาลงที่สถานี Kew Bridge Station เดินต่ออีก 800 เมตรจะถึงประตู
Elizabeth Gate ทางเข้าสวนอีกทาง
– Bus สาย
65, 391, 237 และ 267
– หรือถ้าจะขับรถมาก็มีที่จอดรถใกล้สวนราคา
7 ปอนด์ต่อวัน แต่ในฤดูร้อนอากาศดีๆ จะลองนั่งเรือ Thames River Boats หรือปั่นจักรยานมาก็สนุกไปอีกแบบ
map:

www.kew.org

ใครอยากส่งเรื่องที่น่าเที่ยวมาลงเว็บไซต์ a day online คลิกที่นี่เลย

AUTHOR