Rinjani : เดินขึ้นสู่ยอดภูเขาไฟ

Mount
Rinjani หรือ Gunung Rinjani เป็นภูเขาไฟที่สูงเป็นอันดับสองของอินโดนีเซีย ด้วยความสูงจากระดับน้ำทะเล 3,726
เมตร (12,224 ฟุต) ตั้งอยู่บนเกาะ Lombok
ของประเทศอินโดนีเซีย
มีฉายาว่าราชินีแห่งเกาะ Lombok
ด้วยความแปรปรวนของเธอที่ยังคงปะทุอยู่เรื่อยๆ ล่าสุดก็เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2558 ที่เพิ่งผ่านมา

จากสนามบิน Lombok
เรานั่งรถต่ออีกประมาณ 4 ชั่วโมงไปที่หมู่บ้าน Sembalun ซึ่งเป็นหมู่บ้านสุดท้ายที่รถยนต์จะเข้าถึงได้ หลังจากพบกับทีมไกด์+ลูกหาบ เราก็เริ่มเดินเท้ากันประมาณ 3 ชั่วโมง จาก Pos 1 เพื่อไปที่ Pos 2 ซึ่งเป็นจุดที่เราจะกางเต็นท์นอนในคืนนี้ เส้นทางช่วงแรกส่วนใหญ่คล้ายทุ่งหญ้าสะวันนา มีเนินเขาเล็กๆ
บ้าง เข้าป่าเล็กน้อย เดินได้ค่อนข้างสบายๆ อากาศดีๆ ทิวทัศน์เป็นทุ่งหญ้ากว้างๆ
โล่งๆ นี่มันช่างสุขสดชื่น

เช้าวันถัดมาหลังจากทานอาหารเช้าเสร็จ (ทีมลูกหาบแบกทั้งแก๊ส เตาแก๊ส ปรุงอาหารกันบนเขาเลย อาหารการกินเพียบพร้อมมาก) พวกเราก็เริ่มออกเดินทางไปที่ crater rim กัน ทางเดินเป็นขาขึ้นตลอด บางช่วงเป็นทางชัน
พื้นเป็นกรวดทรายร่วนๆ เดินยากหน่อย แต่โดยรวมก็ยังโอเค ไม่ลำบากนัก วันนี้ฟ้าใส
เมฆสวยเลยล่ะ

เดินกันประมาณ 5-6
ชั่วโมงก็ถึง crater
rim ที่ตั้งแคมป์ของเราในวันนี้ที่ระดับ
2,600 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล หลังจากถ่ายรูปเล่น กางเต็นท์ จัดเตรียมของสำหรับเดินขึ้นยอดเขาตอนกลางดึกคืนนี้
ดื่มด่ำกับธรรมชาติรอบตัว ทานอาหารเย็นกันเสร็จ ก็ได้เวลาเข้านอนแต่หัวค่ำ

เราเริ่มต้นเดินทางออกจากเต็นท์ที่พักประมาณตีสองกว่าๆ
เพื่อไป ณ จุดสูงสุดของ Mt.Rinjani จุดหมายของเราที่ 3,726
เมตรเหนือระดับน้ำทะเล คุณไกด์ประมาณไว้ว่าน่าจะใช้เวลาเดินราวๆ 4-6
ชั่วโมงซึ่งถ้าเราเดินกันไวก็จะไปชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ยอดเขาได้
อากาศตอนนั้นประมาณ 5 องศาเซลเซียส

ช่วงแรกก็เจอกรวดร่วนๆ ทางเดินค่อนข้างชัน เหนื่อยทีเดียว
แต่หลังจากผ่านช่วงนั้นมาได้ก็มีทางราบเดินง่ายๆ โผล่มาให้ชื่นใจ ระหว่างทางเดินเราก็เห็นพระอาทิตย์ค่อยๆ
โผล่พ้นขอบฟ้ามา (ใช่
ไปไม่ทันชมพระอาทิตย์ขึ้น ณ ยอดเขา แต่ได้ชมระหว่างทางก็ตื่นเต้นมากล่ะ) แสงสว่างทำให้เราได้เห็นทิวทัศน์รอบๆ ชัดเจนขึ้น
ฝั่งหนึ่งเป็นทิวเขาสลับซับซ้อนสวยงามและทุ่งหญ้า อีกฝั่งเป็น crater
lake และมองเห็นยอดเขารินจานีห่างออกไปอีกไม่ไกลนัก

And here comes the most difficult part of this summit
ascending…

ช่วงประมาณ 300 เมตรสุดท้ายกับความชันประมาณ 60
องศา และหินกรวดภูเขาไฟร่วนๆ
วางเท้าลงไปเท้าก็จมลงไปในหินเลย แถมเดินขึ้นได้ 3 ก้าวก็ถอยลงมา 2 ก้าวมันเหนื่อยและลำบากสุดๆ ได้ยินว่าหลายๆ คนถึงกับถอดใจหันหลังกลับในช่วงนี้

ดีที่เรามีเทรคกิ้งโพลค่อยช่วยประคับประคองให้ค่อยๆ
ไต่ขึ้นไปได้ทีละนิดๆ และการที่เห็นยอดเขาอยู่ใกล้แค่นี้เอง
ทำให้ตอนนั้นมีแต่ความคิดที่ว่า ค่อยๆ ก้าวเดี๋ยวก็ถึงเองแหละ ใช่แล้วค่อยๆ ก้าว เดี๋ยวก็ถึง แล้วมันก็ถึงในที่สุด! (หลังจากเวลาผ่านไปเกือบ
6 ชั่วโมง)

ณ ยอดเขาเราได้เห็นวิวของ
crater lake มีภูเขาไฟลูกน้อยชื่อ
Barujari
(เกิดมาจากการปะทุของรินจานีในอดีต) อยู่ในปล่องภูเขาไฟที่เป็นทะเลสาบอีกที มองไปไกลๆ ยังมองเห็น Mount
Agung ซึ่งเป็นภูเขาไฟที่สูงที่สุดบนเกาะบาหลีอีกด้วย

เราหันมายิ้มให้กัน
ความเหน็ดเหนื่อยเมื่อสักครู่เหมือนจะหายเป็นปลิดทิ้งเลยทีเดียวกับความสำเร็จครั้งนี้
การเดินขึ้นมาก็ทำให้ความงามที่พบยิ่งมีคุณค่ากับเรามากขึ้น อ้อ! ไข่ต้มที่คุณไกด์เตรียมมาให้เราทานตรงนั้นก็เป็นไข่ต้มที่อร่อยที่สุดที่เคยทานมาเลยทีเดียว

It’s not the mountain we conquer, but ourselves ท่าน Sir Edmund Hillary ผู้พิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์คนแรกได้เคยกล่าวไว้

Gunung
Rinjani National Park

Hours:
ทั้งวัน
How
to get there:
ไม่มี direct flight จากไทยไปที่เกาะ Lombok แต่สามารถบินจากกรุงเทพไปต่อเครื่องได้ที่
Kuala
Lumpur, Jakarta หรือ Bali

ปกติการ trekking ที่ Mount Rinjani จากดูแลจัดการโดยทีมงานไกด์และลูกหาบ
ในราคาต่างๆ กันแล้วเอเย่นต์,
package tour (มีตั้งแต่ 2D/1N, 3D/2N,
4D/3N, etc) นอกจากยอดเขาแล้ว การ trek ไปตั้งแคมป์รอบทะเลสาบกับที่ crater II ก็เป็นที่นิยมของนักเดินทาง

ขึ้นได้ 2 ทางคือจากหมู่บ้าน Sembalun หรือจากหมู่บ้าน Senaru ฤดูกาล trekking Mt.
Rinjani อยู่ในช่วงเดือนเมษายน-พฤศจิกายน (อุทยานจะปิดช่วงต้นปีซึ่งเป็นฤดูฝน) Peak season คือช่วงเดือนสิงหาคม

map

AUTHOR