ARABAKI ROCK FEST : อากาศดีๆ และดนตรีเย็นๆ ที่เซนได

สิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมไม่อยากกลับประเทศไทยไม่ใช่เหตุผลที่หลายๆ
คนชอบแซวว่าเพราะสาวญี่ปุ่นสวยใช่ไหม ไม่ใช่เลย เหตุผลหลักๆ ก็คือ ดนตรี

ผมชอบดนตรีมาแต่เด็ก เริ่มต้นจากการที่แม่บังคับให้เรียนกีตาร์ตอนประถม
แล้วก็ได้เล่นดนตรี ฟังดนตรีมาถึงทุกวันนี้ ตอนผมไปญี่ปุ่นครั้งแรกๆ
อยากจะซื้อของฝากให้ตัวเองติดตัวกลับบ้านสักหน่อย คิดอะไรไม่ออกเลยไปร้านขายซีดี
แล้วเห็นหน้าปกซีดีแผ่นหนึ่งที่รู้สึกว่าเราต้องซื้อ ทั้งๆ ที่ไม่ได้ถูกโชว์ ถูกโปรโมตในร้านเลยสักนิด
มารู้ตอนหลังว่าศิลปินมีชื่อว่า Hanaregumi

หลังจากนั้น ผมก็ติดตามศิลปินคนนี้ตลอด เมื่อมีงานเทศกาลดนตรีที่ศิลปินคนนี้ร่วมแสดง
ผมก็จะไปให้ได้ทุกงาน งานแรกที่ได้ไปชื่อ ARABAKI ROCK FEST 2012 จัดที่จังหวัดมิยางิซึ่งเราอาจคุ้นกับเมืองเซนไดมากกว่า
แต่ไม่รู้ผิดพลาดตรงไหน ผมมารู้ที่หลังว่าศิลปินที่ผมชอบคนนี้ไม่ได้มาเล่นในครั้งนี้!! แต่ไม่เป็นไร พอซื้อตั๋ว ชวนเพื่อนไปแล้ว ก็ตื่นเต้นที่จะได้ไปงาน เรื่องศิลปินคนนั้นก็เริ่มเฉยๆ
แล้ว

ผมไปโดยไม่รู้จักคำว่า Music Festival ของประเทศญี่ปุ่นเลย
รู้แค่ว่า ฟังดนตรี (มีศิลปินที่อยากฟัง) มีเวลาให้สนุก 2 วัน
และต้องนอนเต็นท์

ผมหาเพื่อนๆ ได้ทั้งหมด 6 คน การเดินทางครั้งนี้เราใช้รถของผมซึ่งนั่งได้เต็มที่
8 คน แต่ต้องขนเต็นท์ 2 หลัง
เก้าอี้คนละ 1 ตัว เสื้อผ้า ถังแช่น้ำเย็น ฯลฯ คนที่นั่งหลังสุดเลยจมไปกับกองสิ่งของ
มีเต็นท์เป็นหมอนข้างกอดไปประมาณ 6 ชั่วโมง

เราไปถึงหน้างานประมาณ 7 โมงเช้า เข้าที่จอด (ต้องจองก่อน
แต่รู้ทีหลังว่ามีแบบไม่ต้องจองซึ่งอยู่ใกล้งานกว่า) แล้วก็ไปต่อแถวรอเข้างานนี้ งานเริ่มประมาณ
9 โมงเช้า ศิลปินที่มาเปิดงานเป็นนักดนตรีท้องถิ่นจากภูมิภาคโทโฮคุ
และเด็กๆ จากชมรมดนตรีของโรงเรียนในชุมชนแถวนั้น แต่น่าเสียดายที่เราไม่ได้ดูเต็มๆ
เพราะกว่าจะต่อแถวเข้าไปได้ก็ 9 โมงกว่าแล้ว

ได้เข้างาน กางเต็นท์ จัดที่เสร็จเรียบร้อย
เราก็นั่งพักหายใจดื่มน้ำชูกำลัง ดูตารางเวลาว่าใครเล่นเวทีไหนกี่โมง เราทุกคนมีศิลปินที่ชอบต่างกันหน่อย
อาจจะฟังเพลงคนละแนวกัน
แต่ก็มีศิลปินบางกลุ่มที่เราอยากดูด้วยกัน เราเลยนัดเวลา นัดที่ แล้วก็แยกย้ายกัน

ที่นี่มีเวทีหลัก 6 เวที เมื่อเดินจากเวทีฝั่งซ้ายสุดไปฝั่งขวาสุด จะใช้เวลาประมาณ
30 นาที เราใช้เวลาทั้งวันฟังดนตรีที่เรายังไม่รู้จักไปเรื่อยๆ
(ที่รู้จักก็ไม่เยอะเท่าไหร่) ใช้เวลาไปกับอาหารที่จัดบูธขายอยู่อย่างเยอะ
เหนื่อยก็กลับมาพักที่เต็นท์ ไม่รู้จะทำอะไรก็นั่งเล่นตามพื้นหญ้า เหนื่อยจัดๆ จนเดินกลับไปที่เต็นท์ไม่ไหวก็นอนตรงพื้นหญ้านั่นเลย
ทุกอย่างอิสระ เป็นความสนุกที่อิสระมากๆ คนที่มางานนี้ต้องการสนุกเหมือนกัน
ไม่มีการทะเลาะกันเลยสักนิด แม้บางทีเวทีของวงร็อกจะเต้น จะกระโดดกันหนักขนาดไหน
ใครเมาอย่างไร ทุกคนสนุกกันด้วยดนตรี ทุกคนร่วมกันเพิ่มความสนุกกันไปเรื่อยๆ

มีครอบครัวที่พาลูกตัวเล็กๆ มางานนี้ด้วยไม่น้อยเลยเหมือนกัน
เห็นแล้วยิ่งทำให้ผมรู้สึกหลงรักประเทศนี้เข้าไปอย่างสุดตัว บางคนคิดว่างาน Festival อาจเป็นงานของผู้ใหญ่หน่อย
แต่ที่นี่เป็นงานที่สนุกกันได้ทั้งครอบครัว ทุกอย่างปลอดภัยอย่างไม่มีคำถาม

เพื่อนญี่ปุ่นที่ชอบไปเทศกาลดนตรีบอกว่า งานนี้แตกต่างจากงานอื่นๆ
เพราะจัดช่วงปลายเดือนเมษายน ซึ่งเป็นฤดูใบไม้ผลิ แต่งานส่วนใหญ่จัดกันในช่วงฤดูร้อน
ประมาณเดือนสิงหาคมและกันยายน ก็เลยทำให้พวกเราเห็นซากุระบานอย่างเต็มที่ในงานนี้พอดี
ซากุระญี่ปุ่นพอเข้าช่วงปลายเดือนมีนาก็ร่วงกันหมดแล้ว แต่นี่มันปลายเดือนเมษา!

เราสนุกกันเต็มที่ทั้ง 2 วัน สิ่งเดียวที่ไม่พอใจกับงานนี้ก็คือ
อุณหภูมิตอนกลางวันกับตอนเย็นมันต่างกันเกินไป ตอนกลางวันอากาศน่าจะอยู่ที่ 20
องศาปลายๆ แต่ตอนเย็นหลังจากที่เราได้สนุกกับคอนเสิร์ตวันแรกจบ
อากาศต่ำลงไปที่เลขตัวเดียว ที่หนักหนาสาหัสที่สุดก็คือสาวๆ ต้องมาเช็ดผมให้แห้งโดยไม่มีไดร์เป่าผม
เห็นแล้วสงสารพวกเธอแทน เพราะหลังจากอาบน้ำอุ่นที่ทางงานได้เตรียมเป็นห้องอาบน้ำชั่วคราวไว้ให้
เช็ดตัวให้เรียบร้อย ใส่เสื้อ เปิดประตูห้องอาบน้ำออกมาข้างนอก ขนาดผู้ชายอย่างผมยังมีควันลอยออกมาจากตัวทันที
เพราะมันหนาวมาก นอกนั้นทุกอย่างเพอร์เฟกต์เป็นที่สุด

วันที่ 2 ตอนบ่ายๆ พวกเรานัดกันมาที่เต็นท์เพื่อเก็บของเตรียมตัวกลับ
กลัวว่าถ้ามืดแล้วจะเก็บของไม่ทัน เพราะเห็นคนที่ดูท่าทางจะมางานแบบนี้บ่อยเขารีบเก็บของกันซะแล้ว
พวกเราก็เลยทำตาม

หลังจากนั้น ผมก็ได้ไปงาน Arabaki นี้ทุกๆ ปี แต่น่าเสียดายที่ปี 2016 นั้น ผมไม่ได้ไปเพราะว่ามีเหตุทำให้ต้องอยู่ที่ประเทศไทย
และก็ได้ดูศิลปินในดวงใจ Hanaregumi สมใจเมื่อปี 2013

ARABAKI ROCK FEST

Address: Miyagi, Shibata-gun, Kawasaki, Ono Nihonmatsu
53-9

Hours: All day (ปลายเดือนเมษายน – ต้นเดือนพฤษภาคม)
How to get there: นั่งรถเมล์ประจำทางจาก Sendai ลงที่ Michinoku-koen
ใช้เวลาประมาณ
70 นาที

Map

ใครอยากส่งเรื่องที่น่าเที่ยวมาลงเว็บไซต์ a day online คลิกที่นี่เลย

AUTHOR