ทุกความฝันสำคัญเสมอ In The Heights หนังเพลงสไตล์ละตินที่ดูสนุกจนอยากลุกขึ้นเต้น

In The Heights (2021) คือภาพยนตร์มิวสิคัลที่เราคาดหวังและตั้งตารอด้วยเหตุผลสองข้อใหญ่In Washington Heights, N.Y., the scent of warm coffee hangs in the air just outside of the 181st St. subway stop, where a kaleidoscope of dreams rallies a vibrant and tight-knit community. At the intersection of it all is a likable and magnetic bodega owner who hopes, imagines and sings about a better life.but, however, in spite of, on the one hand … on the other hand, nevertheless, nonetheless, notwithstanding, in contrast, on the contrary, still, yet

หนึ่ง นี่เป็นหนังที่สร้างจากบรอดเวย์มิวสิคัลเรื่องดังในชื่อเดียวกัน ซึ่งเคยกวาด 4 รางวัล Tony Awards (จากทั้งหมด 13 รางวัลที่เข้าชิง) เมื่อปี 2008 จนเกิดการแย่งชิงลิขสิทธิ์ในการสร้างภาพยนตร์กันอย่างดุเดือดตลอดหลายปีที่ผ่านมา กว่าที่จะกลายมาเป็นภาพยนตร์ในเวอร์ชั่นนี้

สอง ทีมงานเบื้องหลังที่คุณภาพคับจอ ไม่ว่าจะเป็นผู้กำกับ Jon M. Chu จาก Crazy Rich Asians (2018) นักออกแบบท่าเต้น Christopher Scott จากภาพยนตร์ตระกูล Step Up และแน่นอน Lin-Manuel Miranda อัจฉริยะแห่งวงการบรอดเวย์ ผู้เขียนบท แต่งเพลง และนำแสดงในมิวสิคัลเรื่องนี้ รวมถึงผลงานระดับตำนานอย่าง Hamilton 

In The Heights

ไม่ต่างจากในเวอร์ชั่นมิวสิคัล In The Heights บอกเล่าชีวิตของชาวละตินอเมริกันในมหานครนิวยอร์ก ที่ต่างคนต่างก็มีหลากสัญชาติ หลายความฝัน ต่างเจเนอเรชั่น แต่ได้มาอาศัยอยู่ร่วมกันในย่าน Washington Heights เรื่องราวของพวกเขาถูกถ่ายทอดผ่านบทเพลงแรปผสมซัลซ่า บอกเล่าเหตุการณ์ไฟดับในช่วงกลางฤดูร้อนอันอบอ้าวของนิวยอร์กซึ่งกินเวลาเพียงสามวันเท่านั้น แต่กลับสามารถดึงดูดผู้ชมอย่างเราให้เกิดความรู้สึกร่วมไปกับตัวละครแต่ละตัวได้ตั้งแต่ต้นจนจบIn Washington Heights, N.Y., the scent of warm coffee hangs in the air just outside of the 181st St. subway stop, where a kaleidoscope of dreams rallies a vibrant and tight-knit community. At the intersection of it all is a likable and magnetic bodega owner who hopes, imagines and sings about a better life.but, however, in spite of, on the one hand … on the other hand, nevertheless, nonetheless, notwithstanding, in contrast, on the contrary, still, yet

และในขณะที่เราได้รับชมเรื่องราวชีวิตของตัวละครในเรื่อง ก็ยังมีชีวิตจริงของคนละตินอีกมากมายที่ดำเนินไปควบคู่กันกับภาพยนตร์มิวสิคัลเรื่องนี้ ซึ่งแน่นอนว่าเป็นเรื่องราวที่น่าประทับใจไม่น้อยไปกว่ากัน

ใครสักคนที่มีฝันอันยิ่งใหญ่

“ซูเอนิโตแปลว่าอะไรคะ” เด็กหญิงถาม Usnavi (แสดงโดย Anthony Ramos) ผู้เป็นพ่อในตอนเริ่มเรื่อง

sueñito หรือ ซูเอนิโต ในภาษาสเปนแปลว่า ‘ความฝันเล็กๆ’

แม้การเปรียบเทียบขนาดของความฝันนั้นจะเป็นเรื่องยาก แต่ในมุมมองเจ้าของร้านชำหัวมุมถนนอย่างอุสนาวี ความฝันเล็กๆ ของเขาที่อยากเดินทางกลับประเทศโดมินิกันเพื่อรักษารากเหง้าของตัวเองนั้นเทียบไม่ได้กับความฝันอันยิ่งใหญ่ของ Nina (แสดงโดย Leslie Grace) เด็กสาวหัวกะทิผู้เป็นความหวังของคนทั้งชุมชน เพราะเธอคือคนแรกและคนเดียวที่สามารถสอบเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยแนวหน้าอย่างสแตนฟอร์ดได้ และใครๆ ต่างก็คาดหวังให้เธอก้าวออกไปพิสูจน์ความสามารถและแสดงศักดิ์ศรีของคนละตินที่ไม่น้อยหน้าใคร ขณะที่ความฝันของพนักงานซาลอนสาวอย่าง Vanessa (แสดงโดย Melissa Barrera) คือการย้ายออกจากชุมชนแห่งนี้ไปเป็นดีไซเนอร์ในย่านดาวน์ทาวน์In Washington Heights, N.Y., the scent of warm coffee hangs in the air just outside of the 181st St. subway stop, where a kaleidoscope of dreams rallies a vibrant and tight-knit community. At the intersection of it all is a likable and magnetic bodega owner who hopes, imagines and sings about a better life.but, however, in spite of, on the one hand … on the other hand, nevertheless, nonetheless, notwithstanding, in contrast, on the contrary, still, yet

“แถวนี้น่ะนะ เดินได้ไม่พ้นสองก้าวเป็นต้องเจอกับใครสักคนที่มีฝันอันยิ่งใหญ่” Alejandro (แสดงโดย Mateo Gomez) อัยการสูงวัยกล่าวกับอุสนาวี ที่ถึงแม้จะนิยามความฝันของตัวเองว่าเป็นเพียงซูเอนิโตเล็กๆ แต่เพราะได้ชื่อว่าเป็นความฝัน มันจึงเป็นอะไรที่ใหญ่กว่าตัวเราเสมอ

In The Heights
In The Heights

มากไปกว่าความฝันของเหล่าตัวละครในเรื่อง สิ่งหนึ่งที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังก็คือเส้นทางการวิ่งไล่ตามความฝันในชีวิตจริงของลิน ผู้เขียนบท แต่งเพลง และรับบทอุสนาวีในฉบับละครเวทีตั้งแต่เปิดแสดงครั้งแรกที่คอนเนตทิคัต ก่อนขยับมาสู่ off-Broadway (โปรดักชั่นละครที่มีขนาดย่อมกว่าบรอดเวย์ แสดงในโรงละครที่มีความจุผู้ชมตั้งแต่ 100-499 ที่นั่ง) จากนั้นไม่นานก็กลายเป็นโปรดักชั่นบรอดเวย์ (โปรดักชั่นละครขนาดใหญ่ แสดงในโรงละครที่มีความจุผู้ชมตั้งแต่ 500 ที่นั่งขึ้นไป) ที่พาให้เขาได้ขึ้นเวทีรับรางวัลมากมายและได้ออกทัวร์ในเวลาต่อมา 

สำหรับใครที่รู้สึกคุ้นหน้าลิน เฉลยให้ว่าในเวอร์ชั่นภาพยนตร์นั้น เขารับบทเป็น piragüero หรือคนขายน้ำแข็งไสนั่นเอง

ย้อนกลับไปยังปี 1999 ลินในวัย 19 ปี ลงมือเขียนบทละครเรื่องนี้ขณะที่กำลังเรียนอยู่ชั้นปีที่ 2 ในมหาวิทยาลัยเพื่อออกไล่ตามความฝัน ไม่ต่างอะไรกับเหล่าตัวละครนำในเรื่อง

“ผมรู้ตัวว่าผมอยากมีชีวิตอยู่ในวงการมิวสิคัล ตอนสมัย ม.ปลาย ผมได้กำกับเรื่อง West Side Story ที่โรงเรียน และมันทำให้ผมได้รู้ว่า นั่นคือบทบาทเดียวของคนเปอร์โตริโกที่เรามีอยู่ในแวดวงละครเพลง แน่นอนว่าผมชอบละครเรื่องนั้นมากแต่มันก็ผ่านมานานแล้ว ดังนั้นผมจึงเริ่มเขียนในสิ่งที่ขาดหายไปและอยากให้ทุกคนได้รู้” เพราะรู้ดีว่าบทบาทของตัวละครละตินในละครเวทีนั้นมีไม่มาก เขาจึงต้องสร้างบทบาทและเรื่องราวนี้ขึ้นมาเพื่อกรุยทางให้ตัวเองและชาวละตินคนอื่นๆ ในอนาคต

“ผมแค่อยากเขียนมิวสิคัลที่มีตัวละครหลักเป็นคนละติน และบอกเล่าเรื่องราวที่ยังไม่มีใครเคยเล่า” ลินอธิบาย

หากจะกล่าวว่า เส้นทางความฝันของลินคือสิ่งที่ทาบทับอยู่กับชีวิตของอุสนาวีและชาว Washington Heights ก็คงไม่ผิดนัก อีกทั้งมิวสิคัลเรื่องนี้ยังนับว่าเป็นใบเบิกทางสำคัญที่ทำให้ลินเป็นที่รู้จักในวงการบรอดเวย์ ก่อนสร้างผลงานละครเวทีที่เป็นปรากฏการณ์อย่าง Hamilton ในปี 2015 ซึ่งเป็นเวลาไล่เลี่ยกันกับที่เขาเข้าไปมีส่วนร่วมในการแต่งเพลงให้กับภาพยนตร์แอนิเมชั่นเรื่อง Moana (2016) ที่หลายคนน่าจะรู้จักอย่างเพลง How Far I’ll Go

เต้นอย่างคนละติน

จอนคือผู้กำกับเชื้อสายเอเชีย-อเมริกัน ผู้มีผลงานสร้างชื่อคือ Crazy Rich Asians แต่ด้วยข้อมูลเท่านี้ หลายคนอาจยังไม่เข้าใจว่า เขาเชื่อมโยงกับภาพยนตร์ว่าด้วยชาวละตินเรื่องนี้ได้ยังไง และทำไมเขาจึงตัดสินใจมาเป็นผู้กำกับ In The Heights 

จอนเฉลยว่า หนึ่งในปัจจัยที่สำคัญคือประสบการณ์ร่วมในฐานะประชากรชั้นสองบนแผ่นดินสหรัฐฯIn Washington Heights, N.Y., the scent of warm coffee hangs in the air just outside of the 181st St. subway stop, where a kaleidoscope of dreams rallies a vibrant and tight-knit community. At the intersection of it all is a likable and magnetic bodega owner who hopes, imagines and sings about a better life.but, however, in spite of, on the one hand … on the other hand, nevertheless, nonetheless, notwithstanding, in contrast, on the contrary, still, yet

“ผมกับลิน เราเชื่อมต่อกันได้ในจุดนี้ เพราะผมมาจากแคลิฟอร์เนียเหนือ โตในร้านอาหารจีน ผมรู้ดีว่ามันรู้สึกยังไงกับการเติบโตในชุมชนแบบนั้น การถูกเลี้ยงดูโดยผู้ใหญ่ที่ไม่ใช่แค่พ่อและแม่ แต่ยังหมายถึงลุง ป้า น้า อา ในสังคมที่มีคนมากมายที่ต้องทำงานหนักเพื่อดูแลครอบครัวของตัวเอง ผมคิดว่าเราควรชื่นชมพวกเขา” จอนอธิบาย 

อย่างที่หลายคนน่าจะพอจินตนาการออกว่า มิวสิคัลหรือละครเพลงคือรูปแบบการแสดงที่ซับซ้อนและต้องอาศัยการประสานงานระหว่างศาสตร์ต่างๆ มากมาย และเมื่อมิวสิคัลถูกนำมาผนวกรวมกับศาสตร์ภาพยนตร์ แน่นอนว่าความซับซ้อนนั้นย่อมเพิ่มมากขึ้น

นี่จึงเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้จอนเหมาะที่จะรับหน้าที่กำกับ In The Heights ในฐานะที่เขามีประสบการณ์ในการกำกับภาพยนตร์เต้นอย่าง Step Up 2: The Streets (2008) และ Step Up 3D (2010) ซึ่งทำให้จอนได้รู้จักกับนักออกแบบท่าเต้นฝีมือดีอย่างคริส ที่เข้ามารับหน้าที่ออกแบบท่าเต้นให้กับ In The Heights ผลงานที่เขาออกปากว่ายากที่สุดในชีวิต

“ในการทำหนังที่ว่าด้วยการนำเสนอตัวตน ผมคิดว่ามันจำเป็นมากที่เราจะต้องนำเสนอการเต้นสไตล์ต่างๆ อย่างถูกต้องและครบถ้วน” คริสอธิบาย

อย่างที่คริสบอกว่ากระบวนการออกแบบท่าเต้นในภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ง่าย เพราะท่าทั้งหมดนั้นเกิดจากการผสมผสานแนวการเต้นอันหลากหลาย ทั้งซัลซ่า (ซึ่งไม่ใช่ซัลซ่าดั้งเดิม แต่เปน Salsa on 2 สไตล์นิวยอร์ก) บวกกับสตรีทแดนซ์ เบรกแดนซ์ และป๊อปปิ้ง นอกจากนี้ยังมีการเต้นสไตล์ใหม่ที่ไม่เคยปรากฏบนหนังเรื่องไหนๆ อย่าง litefeet ที่เผยแพร่โดยคนละตินจาก Washington Heights แท้ๆ อีกด้วย

“เมื่อพูดถึงชาวละติน คนมักนึกถึงการเต้นสไตล์ซัลซ่า แต่เราต้องไม่ลืมว่าการเต้นเบรกแดนซ์แบบอเมริกันนั้นไม่ได้มีแต่นักเต้นชาวแอฟริกัน-อเมริกัน แต่ยังมีคนเปอร์โตริโกและโดมินิกันอีกด้วย” Emilio Dosal หนึ่งในผู้ช่วยออกแบบท่าเต้นของคริสเสริม

In The Heights
In The Heights

ฉากหนึ่งที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือเพลง Carnaval Del Barrio หรือ ‘คาร์นิวัลในถิ่นของเรา’ ในช่วงท้ายของเรื่องที่ชาวเมืองทุกคนต่างก็ห่อเหี่ยวใจหลังจากไฟดับติดต่อกันเป็นเวลานาน ก่อนที่ Daphne Rubin-Vega จะโพล่งขึ้นมาว่า

“คนละตินอย่างเรากลัวอากาศร้อนตั้งแต่เมื่อไหร่กัน” นั่นเองคือจุดเริ่มต้นของฉากหมู่มวลที่ยิ่งใหญ่และใช้นักเต้นแบบเต็มอัตราตลอดความยาวกว่าเจ็ดนาที ที่นอกจากจะสะท้อนอัตลักษณ์ของแต่ละชาติผ่านสไตล์การเต้นและธงที่โบกสะบัดแล้ว ฉากนี้ยังขมวดปมประเด็นในเรื่องได้อย่างหมดจดสวยงามอีกด้วย 

“We are powerless, we are powerless!” เสียงร้องของวาเนสซ่าและซอนนี่ (แสดงโดย Gregory Diaz IV) ที่ดึงเอาเนื้อเพลง Blackout มา reprise (ร้องซ้ำ) โดยเปรียบเทียบเหตุการณ์ไฟดับกับสถานการณ์ของชุมชนที่ไร้พลัง เมื่ออุสนาวีปิดร้านชำของเขาเพื่อย้ายกลับโดมินิกัน ร้านซาลอนของดาเนียล่าเตรียมย้ายไปบล็อกอื่น คล้ายกับว่าย่านทั้งย่านกำลังจางหายไปต่อหน้าต่อตา 

“นายอาจพูดถูกซอนนี่ แต่แค่นี้ไม่ถึงตาย ถึงเราจะไร้พลัง แต่ในถิ่นดังที่มีแต่ต่างด้าว บ้านเราอาจไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป คืนนี้เราอาจได้อยู่ด้วยกันเป็นคืนสุดท้าย แต่คำถามคือนายอยากเผชิญหน้ากับมันยังไง นายอยากปล่อยมันทิ้งไปในนาทีสุดท้ายแบบนี้หรือไง จะมุดหัวร้องไห้ก็ตามใจ แต่ฉันจะจากไปพร้อมโบกธงไว้ในมือ” 

ไรม์แรปของอุสนาวีนั้นกระชับ เรียบง่าย แต่ก็มากพอที่จะทำให้เรื่องราวของชาว Washington Heights ประทับลงในใจคนดูอย่างเรา

In The Heights

ถิ่นของเรา ตัวตนของเรา

เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2021 ภาพยนตร์เรื่องนี้ฉายรอบพรีเมียร์ครั้งแรก ณ โรงละครเก่าแก่อายุ 91 ปีอย่าง United Palace ซึ่งตั้งอยู่บน 175th Street ในย่าน Washington Heights สถานที่ถ่ายทำและจุดกำเนิดเรื่องราวทั้งหมด 

“ผมอยากให้หนังเรื่องนี้เป็นเหมือน neighborhood movie เพราะผมเองก็เป็นคนหนึ่งที่อาศัยอยู่ที่นั่น และผมภูมิใจกับมันมากๆ ไม่มีอะไรที่จะน่าพึงพอใจไปกว่าการได้เขียนเพลงเกี่ยวกับย่านที่คุณรักมากๆ และได้พาเพลงเหล่านั้นไปแสดงที่นั่นจริงๆ” ลินเล่าถึงความประทับใจของเขา เมื่อได้พาทั้งบทเพลงและตัวละครออกนอกฉากในบรอดเวย์ เพื่อมามีชีวิตอยู่บนถนนที่เป็นจุดกำเนิดของทุกอย่าง และอยู่แค่หลังบ้านของเขาเอง

“หนังเรื่องนี้จะพังไม่ได้ เพราะผมอาศัยอยู่ที่นี่ และผมจะได้ยินทุกอย่างจากเพื่อนบ้านของผม” เขาเล่าติดตลก

นอกจาก In The Heights จะชวนให้คนดูอย่างเราได้นึกทบทวนถึงความฝัน รากเหง้า และตัวตนของตัวเองแล้ว ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังเป็นพื้นที่อันแสนสำคัญที่เปิดโอกาสให้เหล่านักแสดงเชื้อสายละตินได้ถ่ายทอดความเป็นตัวเองผ่านหน้าจอใหญ่ ให้ความสำคัญกับเชื้อชาติอันหลากหลายในสื่อเมนสตรีม

“ก่อนมาสหรัฐฯ ฉันไม่เคยคิดถึงเรื่องอัตลักษณ์หรือตัวตนมาก่อนเลย ที่ผ่านมาฉันก็เป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่งในเม็กซิโก ซึ่งเมื่อย้ายมาทีแรก ฉันคิดว่าเรื่องนี้มันคงเป็นอุปสรรคด้วยซ้ำ แต่ทุกวันนี้ฉันกลับคิดว่ามันคือพลังวิเศษและความรับผิดชอบของฉัน” เมลิสซ่า ผู้รับบทวาเนสซ่ากล่าว 

“ในฐานะคนที่ย้ายมาตั้งรกรากในสหรัฐฯ เป็นเจเนอเรชั่นแรก ฉันต้องยืนหยัดเพื่ออะไรหลายอย่าง มากกว่าแค่ความฝันของตัวเอง” เลสลี่ ผู้รับบทนีน่าเสริม

In The Heights

ลำพังแค่การมีอยู่ของภาพยนตร์เรื่องนี้ก็สร้างอิมแพกต์ต่อชุมชนละตินในสหรัฐฯ ไม่น้อย โดยเฉพาะกับคนละตินที่ประกอบอาชีพนักแสดงที่นั่น

“ที่ผ่านมานักแสดงชาวละตินมีบทพูดแค่ 4.5 เปอร์เซ็นต์ในภาพยนตร์ แต่กว่า 40 เปอร์เซ็นต์ของรายได้หนังนั้นมาจากคนดูชาวละติน ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องพูดออกไปว่า เราต้องการมากกว่านี้” จอนพูดถึงความสำคัญของภาพยนตร์เรื่องนี้ที่อาจสร้างแรงกระเพื่อมให้แก่แวดวงฮอลลีวูด เช่นเดียวกับที่เวอร์ชั่นมิวสิคัลเคยทำมาแล้วบนถนนบรอดเวย์In Washington Heights, N.Y., the scent of warm coffee hangs in the air just outside of the 181st St. subway stop, where a kaleidoscope of dreams rallies a vibrant and tight-knit community. At the intersection of it all is a likable and magnetic bodega owner who hopes, imagines and sings about a better life.but, however, in spite of, on the one hand … on the other hand, nevertheless, nonetheless, notwithstanding, in contrast, on the contrary, still, yet


อ้างอิง

In The Heights | Pa’lante Pa’Mi | HBO Max

In The Heights | Welcome to Washington Heights | HBO Max

¡Wepa! The Choreography of In The Heights | HBO Max

Jon M. Chu on Working with Lin-Manuel Miranda on In the Heights | The Tonight Show

Lin-Manuel Miranda Started Writing in In the Heights as a Teenager | The Tonight Show

nytimes.com

AUTHOR