นานแล้วที่ โอ่ง-กงพัฒน์ ศักดาพิทักษ์ ศิลปินป๊อปอาร์ตแถวหน้าของเมืองไทย ไม่ได้จัดนิทรรศการเดี่ยวของตัวเอง ครั้งหลังสุดก็เมื่อ 5 ปีก่อน กับนิทรรศการชื่อ The Greatest ซึ่งเป็นการรวมภาพวาดในหลวงรัชกาลที่ 9
มาปลายปีที่แล้วต่อต้นปีนี้ โอ่ง กงพัฒน์ กลับมาอีกครั้งกับนิทรรศการครั้งใหม่ HOUSE OF ONG จัดแสดงผลงานที่บ้านเลขที่ 110/1 ถนนประดิพัทธ์ สามเสนใน พญาไท โดยนำภาพที่วาดสะสมไว้ตลอดหลายปีมาจัดแสดงให้ชมมากกว่า 100 ชิ้น บอกเล่าเรื่องราวความเป็นตัวตน ความรัก ความศรัทธา การเดินทาง และประสบการณ์ ผ่านผลงานศิลปะ เปิดแสดงให้ผู้ที่สนใจได้เข้าชม ตั้งแต่วันที่ 21 ธันวาคม 2565 – วันที่ 14 มกราคม 2566
ทั้งนี้รายได้ส่วนหนึ่งจากการจำหน่ายผลงานมอบให้กับ ครูสังคม ทองมี ศูนย์ศิลป์สิรินธร โรงเรียนศรีสงครามวิทยา อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย ซึ่งตัวศิลปินเองเป็นศิษย์เก่า เพื่อเป็นทุนการศึกษาด้านศิลปะสำหรับเด็กด้อยโอกาส
บรรยากาศภายในบ้าน แบ่งห้องต่างๆ จัดแสดงรูปที่เข้าชุดกันไว้ ผู้ชมสามารถเดินเข้าออกห้องต่างๆ เลือกดูรูปได้ตามสะดวก ให้ความรู้สึกกันเองเหมือนเดินอยู่ในบ้านของศิลปินจริงๆ เปรียบเสมือนว่าเรากำลังท่องอยู่ในโลกความคิดและความรู้สึกของศิลปิน เพื่อสัมผัสประสบการณ์เหล่านั้นผ่านภาพวาด
เมื่อเราเจอกับโอ่ง กงพัฒน์ เจ้าของผลงาน เขาได้เล่าถึงที่มาที่ไปของงานนี้ให้เราฟัง
“ตอนนี้คำว่า house of กำลังมาแรง เราก็เลย HOUSE OF ONG บ้าง (หัวเราะ) หลังจากนิทรรศการครั้งก่อน ผมก็วาดรูปสะสมมาเรื่อยๆ เพราะมีเวลา อยากวาดอะไร อารมณ์ไหนก็วาดหมด เพราะมีแนวความคิดหลายอย่าง เป็นคนที่ชอบวาดรูปหลายรูปแบบ รูปคราวนี้ก็เลยจะมีทั้ง abstract มีรูปส่ิงของที่เราชอบ หรืออาร์ตเวิร์กใหม่ๆ”
เขายกตัวอย่างงานชุดหนึ่งในนิทรรศการนี้
“อย่างช่วงหนึ่ง นิตยสารปิดตัวลงไปเยอะ เราก็รู้สึกว่ามันขาดอะไรไปอย่างหนึ่งในชีวิต เวลาเราไปเดินห้าง เราก็จะไปดูแผงแมกกาซีนก่อน เล่มใหม่ๆ ก็มีบางเล่มที่ใช้ได้ แต่เราก็ไม่ค่อยปลื้มเท่าไหร่ เราจะชอบอาร์ตเวิร์กเล่มเก่าๆ มากกว่า ปกที่สวย ผมก็เลยเลือกปกที่ผมชอบ แล้วก็มาลองวาด ลงดีเทลอะไรทั้งหมด คำต่างๆ ก็จะมีแมกกาซีนจากหลายประเทศ รัสเซีย ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส ไทย แล้วก็วาดแอพพลายเป็นตัวของเราเอง แล้วทีนี้เวลาหนังสืออยู่บนแผง มันสวยเพราะมีหลายเล่ม ถ้าเป็นรูปเดียวผมก็ว่าไม่สตรองพอ ก็เลยเอารูปวาดปกหนังสือหลายๆ รูปมารวมกันให้อารมณ์เหมือนแผงหนังสือ”
รวมทั้งอีกชุดหนึ่งที่สำคัญสำหรับเขา
“หลังช่วงในหลวง ร.9 สวรรคต หลังโชว์งาน ผมก็วาดรูปพระองค์ท่านต่อมาเรื่อยๆ เพราะชอบพระอิริยาบถของท่านในหลายๆ มุม เจอภาพสวยๆ เราก็อยากเอามาวาด เป็นรูปที่เรามีอยู่ในบ้านไว้สักการะบูชา”
เราทิ้งท้ายกันด้วยการอัพเดตว่า ชีวิตทุกวันนี้เขากำลังเอนจอยกับอะไร
“ตอนนี้ผมเอนจอยกับกีฬาครับ นั่นคือเทนนิส เป็นสิ่งที่เราไม่เคยชอบ ไม่ว่าเทนนิสหรือกีฬาอะไรก็ตาม เราเล่นอะไรไม่เป็นเลย ลองไปเล่นดูตอนแรกก็ยาก ตอนหลังก็เริ่มทำได้ ก็ทำให้เราเหมือนได้ลองอะไรใหม่ๆ ทุกวันนี้ตอนเช้าจะเล่นเทนนิสทุกวัน วันละ 2 ชั่วโมง ทำให้สุขภาพดีขึ้น สุขภาพมาก่อนครับ เงินทองทีหลัง เมนเทนชีวิตให้ดีขึ้น และเอนจอยกับชีวิต” เขาหัวเราะเสียงดังอีกครั้ง
เป็นเสียงหัวเราะสนุกๆ ที่ไม่ต่างจากความสนุกและสีสันบนภาพวาดของเขานั่นเอง