HĒIJīi Bangkok คาเฟ่ที่ชุบชีวิตตึกเก่าด้วยฉากเรื่องราวในความทรงจำ

Highlights

  • HĒIJīi Bangkok คาเฟ่สไตล์จีนประยุกต์ที่ซ่อนตัวในตึกเก่าของหนุ่มมิค–ประภาส ระสินานนท์ ที่มาของชื่อร้านมาจากซุปไก่ดำตุ๋นยาจีนที่แม่ของเขาทำให้กินบ่อยตอนเด็กๆ บวกกับหนังจีนกำลังภายในที่นั่งดูกับป๊าตอนเด็ก มิคจึงหมายมั่นสร้างคาเฟ่ตัวเองให้เป็น ‘โรงน้ำชา’ ที่นั่งพักระหว่างทางสำหรับคนที่ผ่านไปมา
  • ของเก่าเก็บจากสมัยป๊าม้ายังเป็นหนุ่มสาว ถูกนำมาจัดแต่งสร้างรายละเอียดและตัวตนให้กับร้าน ไม่แปลกที่บรรยากาศของคาเฟ่เปิดใหม่ในย่านเจริญกรุงแห่งนี้จึงเต็มไปด้วยเรื่องราวในอดีตที่หอมหวาน คนที่ชอบดีเทลจีนๆ จะต้องชอบที่นี่มากแน่นอน
  • ที่นี่ไม่ชงกาแฟด้วยเครื่องชงเอสเพรสโซ่ เมนูกาแฟที่ร้านจึงเป็นกาแฟที่ชงด้วย aeropress และมีกาแฟ cold brew ให้เลือกด้วย ส่วนเมนูเด็ดสำหรับคนไม่ดื่มกาแฟคือโกโก้เย็นที่มิคคิดสูตรพิเศษด้วยตัวเอง และชาคัดสรรที่มีให้เลือกถึง 3 แบบ

HĒIJīi อ่านว่า เฮยจี แปลว่าไก่ดำ” มิค–ประภาส ระสินานนท์ เจ้าของร้านชื่อภาษาจีนที่เราอ่านไม่ออกเมื่อกี้ไขข้อข้องใจแรกของเราผ่านเคาน์เตอร์เครื่องดื่มของคาเฟ่เปิดใหม่ในย่านเก่าแก่อย่างเจริญกรุง

ซุปไก่ดำตุ๋นยาจีนที่แม่ของเขาทำให้กินบ่อยตอนเด็กๆ ตัวแทนภาพความทรงจำในวัยเด็กที่เขาผูกพัน คือแรงบันดาลใจของชื่อร้าน บรรยากาศของคาเฟ่แห่งนี้จึงเต็มไปด้วยเรื่องราวในอดีตที่หอมหวานของเขา แต่เมื่อย้อนถามถึงแนวคิดหลักๆ ในการทำร้าน มิคเล่าให้เราฟังว่า เขาได้ไอเดียมาจากคาเฟ่แนววินเทจแห่งหนึ่งในอเมริกาที่เมื่อเสียงเพลงเต้นรำดังขึ้น พนักงานก็จะลุกขึ้นมาเต้นรำหมุนตัวเข้าจังหวะ ส่งต่อพลังงานดีๆ ให้กับผู้มาเยือนเสมอๆ

HĒIJīi Bangkok สำหรับเขาจึงเปรียบเสมือนการเบลนด์ความอบอุ่นจากวัฒนธรรมครอบครัวแบบตะวันออกและสีสันแบบตะวันตกที่เจ้าตัวชอบเข้าไว้ด้วยกันอย่างไม่ขวยเขิน

คาเฟ่ในห้องแถวธรรมดาที่หล่อหลอมด้วยตัวตน

มิคเกิดในครอบครัวเชื้อสายจีน เขาจึงเลือกหยิบเอาของใกล้ตัวอย่างวัฒนธรรมจีนที่แวดล้อมตัวเองมาตั้งแต่เด็กเป็นวัตถุดิบ โดยใช้ประสบการณ์ที่เรียนทางด้านการออกแบบการแสดงและฉากละครเวทีถ่ายทอดออกมา ในพื้นที่ขนาดหนึ่งห้องแถวบนที่ตั้งที่หลบเข้าไปในซอยย่อยของเจริญกรุง 43

ความหลงใหลในตึกเก่าและผู้คนในย่านเก่าพามิคมาถึงที่นี่ เมื่อได้เดินสำรวจบรรยากาศและพูดคุยกับคนในละแวกนี้แล้วพบว่าถูกใจ เขาจึงเริ่มต้นภารกิจถ่ายทอดประสบการณ์ที่หล่อหลอมตัวตนของเขาเข้าไปยังห้องแถวแห่งนี้

โรงน้ำชาที่อบอวลไปด้วยความทรงจำวัยเด็ก

“ป๊าเราชอบดูหนังจีนกำลังภายใน เราเลยได้ดูตั้งแต่เด็กแล้วก็ชอบไปด้วย” มิคจึงสร้างเฮยจีขึ้นมาให้เป็นโรงน้ำชาที่จอมยุทธ์จะมาแวะพักระหว่างทางได้ โดยแฝงรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่มีความหมายกับตัวเองเอาไว้

ตั้งแต่หลังคาแบบเก๋งจีนที่ทำเป็นกันสาดหน้าร้าน ซึ่งเป็นภาพจำที่ชัดเจนของสถาปัตยกรรมจีน มองเรื่อยลงมาจะเห็นต้นไม้เล็กๆ ที่มิคคุ้นหน้าคุ้นตาจากบ้านต่างๆ ในละแวกบ้าน หนึ่งในนั้นคือต้นส้มจี๊ด ที่นอกจากจะเป็นไม้มงคลของจีนแล้ว ยังปลูกเพื่อเอาผลมาใช้ทำแยมในร้านด้วย

เมื่อเปิดประตูร้านที่สอดแทรกลายประตูเหล็กซี่บนบานไม้เข้าไปจะเจอกับบรรยากาศภายในร้านที่ให้กลิ่นอายแบบจีนประยุกต์ เพดานไม้เก่าของบ้านสีเขียวหม่น ตัดอารมณ์ด้วยความดิบของผนังปูนเปลือยทางด้านขวาที่เขียนข้อความอักษรจีนที่มีความหมายว่า ‘ขอให้โชคดี’ คำอวยพรที่มิคได้รับเมื่อกลับไปเยี่ยมญาติผู้ใหญ่

ทางซ้ายหน้าเคาน์เตอร์วางเก้าอี้ตัวเตี้ยสีแดง มิคบอกเราว่าเก้าอี้ตัวเก่าตัวนั้นคือเก้าอี้ยกน้ำชาในพิธีแต่งงานของป๊ากับม้า หลังเคาน์เตอร์ไม้มีชุดกาน้ำชาและจอกน้ำเรียงรายอยู่บนชั้น ของเก่าเหล่านั้นเป็นทั้งของสะสมของมิคและภาชนะเสิร์ฟชาให้กับลูกค้า รวมทั้งโต๊ะเก้าอี้ไม้เก่าหลากรูปทรงที่วางไว้ให้คนที่แวะเวียนเข้ามาในร้านได้เอนหลังพัก

นอกจากความเก๋าของภาชนะเสิร์ฟเครื่องดื่มของที่นี่ มิคยังตั้งใจให้แก้ว take away ของที่ร้านเป็นแก้วที่เป็นมิตรกับโลก เขาเลือกใช้แก้วพลาสติกที่ย่อยสลายง่าย เปลี่ยนการใช้ฝาปิดพลาสติกมาเป็นกระดาษห่ออาหารที่รัดให้แน่นหนาด้วยหนังยางสองเส้น ประทับด้านบนด้วยตราสัญลักษณ์รูปไก่ดำของร้าน เป็นกิมมิคน่ารักๆ ที่สร้างเอกลักษณ์ของร้านได้ดีทีเดียว

ชอบอะไรก็เสิร์ฟแบบนั้น

“เพราะพวกผมไม่ชอบกินหวานจัด ที่ร้านเลยเน้นทำขนมและเครื่องดื่มแบบหวานน้อย” มิคพูดถึงความชอบของตัวเขาและเพื่อนพี่น้องที่ร่วมกันทำร้านนี้ขึ้นมา เมนูเครื่องดื่มและขนมของเฮยจีจึงเป็นเมนูโฮมเมดที่ไม่หนักหวาน เครื่องดื่มที่เราอยากแนะนำคือโกโก้เย็นที่มีกลิ่นเฮเซลนัต เป็นโกโก้เย็นที่มิคคิดสูตรพิเศษขึ้นมาเอง และนมมะละกอ (นมสดปั่นกับมะละกอสด) เครื่องดื่มแสนอร่อยที่มิคค้นพบเมื่อครั้งไปเยือนฮ่องกง

หรือถ้าใครอยากได้เครื่องดื่มสดชื่นสักแก้ว Plum Peach น้ำบ๊วยโซดาที่เพิ่มรสชาติด้วยพีชและน้ำผึ้ง น่าจะเป็นแก้วที่ใครหลายคนจะต้องประทับใจแน่ๆ

สำหรับเมนูกาแฟที่นี่มีทั้งกาแฟดำและกาแฟนม ด้วยความที่มิคหลงใหลเสน่ห์ของกาแฟทำมือ เขาจึงเน้นเสิร์ฟกาแฟที่ใช้เครื่องชงอย่าง aeropress แทนการใช้เครื่องชงแบบเอสเพรสโซ ส่วนเมล็ดกาแฟที่นี่มีให้เลือกแบบคั่วอ่อนและคั่วเข้ม และมีเมล็ด single origin จากต่างประเทศหมุนเวียนตามฤดูกาลให้ลูกค้าได้ชิม หรือถ้าใครที่ชอบกาแฟที่ดื่มง่ายๆ ทางร้านก็มีกาแฟสกัดเย็น หรือ cold brew ให้เลือกด้วย

มาโรงน้ำชาทั้งที ถ้าไม่จิบชาสักหน่อยเดี๋ยวจะหาว่ามาไม่ถึง ที่เฮยจีมีชา Ti Guan Yin, Gong Fu และ Shui Xian เพียงสามชนิดให้คอชาได้เลือกดื่ม แถมยังมีขนมโฮมเมดที่กินเข้าคู่กับรสเฝื่อนหอมของชาอย่าง ฟินองซิเยร์ ขนมสัญชาติฝรั่งเศสที่เสิร์ฟพร้อมแยมส้มจี๊ด เค้กชิฟฟอนเอิร์ลเกรย์เนื้อนุ่มหวานน้อย หรือเค้กช็อกโกแลตรสเข้มที่รสชาติไปได้ดีกับชาจีน

ถ้าใครหิวหนักหน่อย ที่นี่ก็มีเมนูของว่างแบบจีนๆ เช่น ขนมจีบ ปอเปี๊ยะทอด ที่เลือกสรรมาจากร้านที่มิคและเพื่อนๆ ติดอกติดใจในรสชาติมาปรุงสุกหลังร้านและเสิร์ฟให้กับลูกค้าด้วย


HĒIJīi Bangkok

address : 415 ซอยเจริญกรุง 43
hours : เปิดวันอังคาร – อาทิตย์ เวลา 9:00-18:00 น.
facebook: HĒIJīi Bangkok 

AUTHOR

PHOTOGRAPHER

ชนพัฒน์ เศรษฐโสรัถ

ช่างภาพนิตยสาร a day ที่เพิ่งมีพ็อกเก็ตบุ๊กเล่มใหม่ชื่อ view • finder ออกไปเจอบอลติก ซื้อสิ ไปซื้อ เฮ่!