ส่องสถาปัตย์ร่วมสมัยผ่าน 3 สถานที่โดดเด่นในมาเก๊า ทั้งประวัติศาสตร์ จุดสูงสุดของเมืองและโรงแรมที่ผสมผสานศิลปะตะวันออกและตะวันตกของการพักผ่อน

ส่องสถาปัตย์ร่วมสมัยผ่าน 3 สถานที่โดดเด่นในมาเก๊า ทั้งประวัติศาสตร์ จุดสูงสุดของเมืองและโรงแรมที่ผสมผสานศิลปะตะวันออกและตะวันตกของการพักผ่อน

‘มาเก๊า’ ไม่ได้มีดีแค่แหล่งท่องเที่ยวเพียงอย่างเดียว แต่ความเป็นเมืองที่ผสมผสานวัฒนธรรมเอเชียและยุโรป ที่สะท้อนผ่านอาคาร อาหาร และวิถีชีวิตของผู้คน ก็กลายเป็นเสน่ห์ที่ทำให้หลายคนปักหมุดไว้ว่าเป็นสถานที่อยากมาให้ได้สักครั้ง

หลายคนมักเลือกช่วงเวลาพักผ่อนที่มาเก๊าในช่วงฤดูหนาว หรือฤดูใบไม้ร่วง ด้วยบรรยากาศแสนสบาย แต่ความจริงแล้วช่วงซัมเมอร์ของมาเก๊าก็เป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาที่เราจะได้สัมผัสเสน่ห์ของมาเก๊าในแบบที่แตกต่างออกไปด้วย โดยเฉพาะการเดินชมสถานที่ประวัติศาสตร์และแวะช็อปปิ้งสบายๆ ในเมือง

เราพาทุกคนไปเที่ยว 3 สถาปัตยกรรมในมาเก๊า ที่ไม่เพียงชมความสวยงามของอาคารจนน่าหยิบกล้องมาถ่ายรูป แต่มันยังเล่าเรื่องราวของผู้คนที่ชวนให้เราเข้าใจไลฟ์สไตล์และตัวตนของพวกเขาด้วยเช่นกัน

ไม่ว่าจะเป็นอาคารประวัติศาสตร์ที่ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลก หอคอยแลนด์มาร์กที่สูงที่สุดในมาเก๊า ก่อนพาไปพักในโรงแรมที่ดีไซน์ศิลปะผสมผสานตะวันออกและตะวันตกคลาสสิกสุดหรู 3 สถานที่นี้จะเป็นที่ไหนบ้าง ชวนไปเที่ยวกับเราด้วยกันเถอะ!

ย้อนอดีตชมเมืองเก่าของมาเก๊ากับโบสถ์เซนต์ปอล

มาเก๊า หมุดหมายของหลายคนทั่วโลก เสน่ห์ที่ทำให้หลายคนหลงรักคือการเป็นเมืองสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานระหว่างความยิ่งใหญ่ของยุโรปและความละเอียดอ่อนของตะวันออก เหมาะกับการใช้เวลาพักผ่อนในช่วงวันหยุดยาวโดยเฉพาะช่วงซัมเมอร์นี้

หนึ่งในแลนด์มาร์กที่ชวนเราไปสัมผัสเมืองเก่าของมาเก๊าได้มากขึ้น คือ ซากประตูโบสถ์เซนต์ปอล (Ruins of St. Paul’s) โบสถ์คาทอลิกที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1602 และยังถือเป็นหนึ่งในโบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียขณะนั้นด้วย 

เดิมทีโบสถ์นี้เคยเป็นมหาวิทยาลัยตะวันตกแห่งแรกในตะวันออก อย่างมหาวิทยาลัยเซนต์ปอล แต่น่าเสียดายที่โบสถ์นี้เคยถูกไฟไหม้ถึงสามครั้ง เนื่องจากพายุไต้ฝุ่นในครั้งล่าสุด ปี 1835 จึงทำให้เหลือเพียงฟาซาดหินแกรนิตอันงดงาม และบันได 68 ขั้นที่มุ่งสู่วิหารที่เราเห็นในปัจจุบัน ซึ่งส่วนหน้าของโบสถ์เซนต์ปอลที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก สิ่งนี้เป็นหลักฐานสำคัญของประวัติศาสตร์จีนที่ผสมผสานกับอารยธรรมตะวันตกเมื่อกว่า 400 ปีที่ผ่านมา

ดื่มด่ำกับวิวมุมสูงที่มาเก๊าทาวเวอร์ ตึกสูงสไตล์โมเดิร์นเอกลักษณ์ของเมือง

ใช้เวลานั่งรถมาไม่ไกล ในเมืองเดียวกันเรายังได้สัมผัสสถาปัตยกรรมตัวแทนแห่งยุคโมเดิร์นกับ Macau Tower หอคอยชมวิวเมืองสูงสุด แลนด์มาร์กสำคัญของเมืองมาเก๊า  ภายในมีจุดชมวิว และร้านอาหาร นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมสุดเอ็กซ์ตรีม อย่าง บันจีจัมพ์ที่สูงที่สุดในโลกด้วย มาเก๊าทาวเวอร์จึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่อยู่ในลิสต์ห้ามพลาดของใครหลายคนที่ได้มาเยือน

Grand Lisboa Palace Macau โรงแรมหรูสุดคลาสสิกที่ดีไซน์ผสมผสานศิลปะตะวันออกและตะวันตก

การผสมผสานระหว่างโลกตะวันออกและ ตะวันตกประเพณีดั้งเดิมและความทันสมัย แฝงอยู่ในทุกๆ ที่ของมาเก๊า โดยเฉพาะ Grand Lisboa Palace Macau โรงแรมระดับ 5 ดาวจาก Forbes Travel Guide ที่ดึงเอาเสน่ห์ของมาเก๊ามาใส่ในทุกรายละเอียด ตั้งแต่การตกแต่งจนถึงอาหารเลิศรส

ตั้งแต่ก้าวแรกเราจะเห็นการดีไซน์ด้วยการผสมผสานลวดลายจีนดั้งเดิมและเข้ากับส่วนประกอบของอาคารที่ได้แรงบันดาลใจจากยุโรปตั้งแต่ยุคนีโอ-คลาสสิก หรือที่เรียกว่าสไตล์ชินัวเซอรี (Chinoiserie) ซึ่งได้รับความนิยมในศตวรรษที่ 17 ผ่านลวดลายและตัวแทนสิ่งของสิริมงคลในวัฒนธรรมจีน อย่างมังกร นกฟีนิกซ์ และดอกบัว ซึ่งปรากฎทั่วรีสอร์ตและอาคารของโรงแรม

แกรนด์ ลิสบัวถือเป็นที่พักในฝันของใครหลายคนที่คาดหวังประสบการณ์พักผ่อนในโรงแรมสุดหรู พร้อมดื่มด่ำไปกับการตกแต่งอย่างปราณีต เพราะภายใต้อาคารยิ่งใหญ่ด้วยห้องพัก 1,350 ห้อง เราจะได้เต็มอิ่มไปกับการชมห้องที่ตกแต่งด้วยงานศิลปะที่สั่งทำพิเศษจากศิลปินท้องถิ่นในมาเก๊า รวมไปถึงวิวที่มองออกไปเห็นเมืองโคไท (Cotai) และ Jardim Secreto สวนสไตล์ยุโรป ด้วยขนาดห้องกว้างขวางตั้งแต่ 60 – 300 ตารางเมตรเลยทีเดียว 

ส่วนใครที่อยากใช้เวลาพักผ่อนในช่วงเช้าแบบสบายๆ ก็ยังสามารถใช้บริการเสิร์ฟอาหารเช้าถึงในห้อง เพื่อให้เราได้เอนจอยกับวิวสวนกว้างขวางสุดลูกหูลูกตาอย่างไม่ต้องรีบร้อน

ลิ้มรสอาหารจากวัฒนธรรมเอเชียสู่ยุโรปกับห้องอาหารและบาร์สุดหรู

นอกจากจะตื่นตาตื่นใจกับห้องพักสุดคลาสสิกแล้ว เสน่ห์การผสมผสานระหว่างเอเชียและยุโรปยังถูกถ่ายทอดผ่านอาหารสุดปราณีตใน The Grand Buffet และบาร์ Mesa by José Avillez 

หากใครเป็นสายชอบกินแบบจุใจสไตล์บุฟเฟต์ต้องก้าวเท้ามาที่ The Grand Buffet หนึ่งในบุฟเฟต์ชื่อดังของมาเก๊าที่พร้อมเสิร์ฟอาหารหลากหลายเมนูจากทั่วโลก ทั้งอาหารจีน จนถึงเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แถมยังได้ประสบการณ์การรับประทานอาหารสุดพิเศษ ด้วยบริการปรุงตามสั่งอาหารทะเล และสามารถสั่งเชฟทำให้กินได้ทุกเมื่อ

นอกจากอาหารแล้ว เสน่ห์ของมาเก๊ายังถูกบอกเล่าผ่านการตกแต่งภายในอย่างบาร์ของห้อง Mesa by José Avillez ออกแบบโดยคาร์ล ลาเกอร์เฟลด์ (Karl Largerfeld) นักออกแบบแฟชั่นชื่อดัง นอกจากนี้บนเพดานตกแต่งด้วยแสงไฟ LED จากดวงดาวที่ส่องระยิบระยับบนเพดาน ทำให้ผู้มาเยือนได้เพลิดเพลินกับเครื่องดื่มค็อกเทลสุดอร่อยที่ได้แรงบันดาลใจจากวัฒนธรรมและเรื่องราวของมาเก๊า ชวนดื่มด่ำบรรยากาศสุดรีแลกซ์ และลิ้มรสอาหารชั้นเลิศที่ติดอันดับ 1 ใน 100 ร้านยอดนิยมประจำปี 2024 ของ South China Morning Post (SCMP)

ผ่อนคลายในสวนสไตล์ยุโรปพร้อมช็อปปิ้งไอเทมแฟชั่นระดับโลก

สิ่งหนึ่งที่ทำให้หลายคนเลือกพักโรงแรมสักที่ นอกจากโลเคชันที่สะดวกสบายอยู่ไม่ไกลจากแหล่งท่องเที่ยวแห่งอื่นๆ แล้ว ยังเป็นกิจกรรมในโรงแรมที่ครบจบในตัวด้วย เช่นเดียวกับที่ Grand Lisboa Palace Macau เพราะนอกจากจะบริการรถบัสรับส่งฟรีจากรีสอร์ตไปยังมาเก๊าทาวเวอร์และใจกลางเมืองแล้ว ภายในโรงแรมเองก็ยังทั้งสถานที่ผ่อนคลายพร้อมกิจกรรมเอาต์ดอร์และอินดอร์รอให้บริการทุกคน

สถานที่แรกอย่าง Jardim Secreto สวนลับกับสนามหญ้าสีเขียวสไตล์ยุโรป ขนาบข้างด้วยศาลากลางสวนสุดโรแมนติก แนวเสาสุดหรูหราและสวนเขาวงกตที่ออกแบบสไตล์บาโรก ที่เชื่อว่าถ้าคุณได้ทอดน่องชมการตกแต่งสวยอันเป็นระเบียบ และสัมผัสแสงแดดอุ่นๆ ที่พาดผ่านตัวอาคารตลอดทั้งวัน

ส่วนใครที่เป็นสายสุขภาพต้องถูกใจ The Health Club มีสถานที่และอุปกรณ์ออกกำลังกายครบครันและมีคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็นยิมออกกำลังกาย สระว่ายน้ำกลางแจ้ง ที่พร้อมให้เราได้นอนอาบแดดหรือนั่งเล่นบนโซฟาริมสระน้ำ พร้อมชมวิวสวนลับ ที่อยู่ติดกันให้ความรู้สึกผ่อนคลายไปกับธรรมชาติรอบตัว

สำหรับใครที่อยากได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้นอีกนิด หรือหลบแดดในช่วงซัมเมอร์ โรงแรมก็ยังมีสระว่ายน้ำในร่ม แม้จะไม่ได้ชมวิวและรับแสงแดดธรรมชาติ แต่ก็จะถูกโอบล้อมด้วยการออกแบบสไตล์แมคกานีส (Macanese) และบาโรกสุดหรูหรา สะอาดตา ซึ่งสะท้อนถึงการผสมผสานกันระหว่างตะวันออกอย่างมาเก๊า และยุโรปอย่างโปรตุเกสอย่างลงตัว

หลังจากเพลิดเพลินกับกิจกรรมเรียกเหงื่อแล้ว เตรียมตัวไปช็อปปิ้งกันต่อที่ช็อปปิ้งมอลล์ขนาดใหญ่ ในโรงแรม แหล่งรวบรวมไอเทมแฟชั่น ไลฟ์สไตล์ และความงามปลอดภาษี จากช็อป The CDF Macau Grand Lisboa Palace Shop ซึ่งรวมแบรนด์ต่างประเทศกว่า 170 แบรนด์ในราคาที่ถูกที่สุด 

หากยังไม่จุใจก็ยังมีห้างสรรพสินค้าเยาฮันใหม่ (NY8 New Yaohan) ซูเปอร์มาร์เก็ตดีลักซ์ที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์สดใหม่จากต่างประเทศ เช่น ของชำ ไวน์ แฟชั่น ดิจิทัลอิเล็กทรอนิกส์ และการตกแต่งบ้าน ให้เลือกช็อปกันต่อและอาจทำให้คุณเผลอหมดทรัพย์ไปไม่รู้ตัว

หากใครอยากดื่มด่ำไปกับบรรยากาศของเมืองที่หลอมรวมวัฒนธรรมของยุโรปและเอเชีย สะท้อนผ่านสถาปัตยกรรมและวิถีชีวิตของผู้คน ไม่ต้องไปทีไหนไกล เพราะมาเก๊ายังคงเก็บมนต์สเน่ห์นั้นไว้ให้เราอย่างดี พร้อมรอให้เราไปสัมผัสประสบการณ์นั้นตัวเองในช่วงซัมเมอร์นี้

AUTHOR