WAKE UP! – a day 219

ถ้าไม่รักจริง คงทำงานนี้ไม่ได้

เวลาผมเล่าเรื่องชีวิตคนทำสื่อ มักจะมีคำพูดทำนองนี้กลับมา มันอาจจะฟังดูลำบาก ต้องทุ่มแรงทุ่มใจ อะไรหลายๆ อย่างทำให้คนทั่วไปรู้สึกว่าการทำงานในสายงานนี้ไม่คุ้มเท่าไหร่

เวลาเห็นคนทำงานด้วยความรักในงานจริงๆ ผมจะรู้สึกเคารพ เพราะรู้ว่าการทำงานให้ดีไม่ได้ใช้แค่ความรัก แต่มันใช้พลังมากมาย ยิ่งรักและเอาใจใส่ยิ่งต้องเสียสละหรืออุทิศตนเพื่อการงานอันเป็นที่รัก

กับงานที่ทำด้วยมือ พึ่งเครื่องจักรน้อยหรือไม่ใช้เลย ระดับความเสียสละยิ่งมาก เพราะมันเหนื่อยกว่า ใช้เวลานานกว่า เพื่อคุณค่าและมูลค่าที่หาไม่ได้จากการผลิตในระบบอุตสาหกรรม

คงไม่ใช่ทุกคนที่มีโอกาสได้ทำงานฝีมือ หรือที่เรียกติดปากว่างานคราฟต์ แต่ผมเชื่อว่าคนที่เอาใจตนใส่ในงานไม่ได้จำกัดวงอยู่แค่วงการงานฝีมือเท่านั้น

แม่ครัวในร้านอาหารตามสั่งที่ตั้งใจปรุงอาหารสุดฝีมือ พนักงานบัญชีที่ทุ่มสายตาให้ตัวเลขไม่ผิดพลาด เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ตั้งใจโบกรถให้คนขับสบายใจที่สุด คุณค่าในผลงานเหล่านี้ไม่ต่างจากสินค้าที่แปะป้าย handmade หรือ handcraft

กับบางคน งานเป็นเครื่องวัดคุณค่าในชีวิต ถ้าทำงานได้ดีจะรู้สึกมีคุณค่า แต่ถ้าไม่ ชีวิตก็จะดำดิ่งลงเหว เรื่องแบบนี้มักเกิดขึ้นกับคนที่ใส่ใจในงาน เป็นงานที่มีใจคนทำอยู่ในนั้น ถ้าออกมาดีก็ชื่นใจ ถ้าล้มเหลว ใจคนทำก็บอบช้ำตามงาน หาวิธีฟื้นฟูลำบาก พักเท่าไหร่ก็ไม่หาย ใจมันยังจำ เพราะงานกับชีวิตเป็นเรื่องเดียวกัน

ว่ากันตามจริง บางจังหวะผมก็ไม่ได้เป็นคนรักงานเท่าไหร่ ปริมาณงานบางวันก็เยอะจนกินเวลาชีวิต งานไหนที่ต้องใช้ความคิดและยังไม่ปรากฏผลลัพธ์ที่น่าพอใจ มันจะวนเวียนหลอกหลอนอยู่ในหัวทั้งวันทั้งคืน คำพูดติดปากพวกเราที่ว่า เรามาทำงานที่รักกันเถอะ มักจะเป็นการพูดในจังหวะที่เราเพิ่งโดนงานโบยตีแล้วจำต้องกลับไปหน้าจอคอมพิวเตอร์มากกว่า

เวลาเห็นคนที่ตั้งใจรู้สึกแย่กับงาน ผมจะบอกให้เขาหายใจลึกๆ

นี่ไม่ใช่เรื่องธรรมะหรือสูตรการ coaching เพื่อความสำเร็จ มันแค่ทำให้เราใจเย็นขึ้น มองเห็นอะไรชัดขึ้น คิดเพื่อแก้ปัญหาดีขึ้น อีกข้อดีหนึ่งคือมันทำให้เรารู้ว่ายังไม่ตาย
เมื่อคลื่นความผิดหวังที่ถาโถมบดบังใจเราไม่ให้เห็นทางออก ในวันที่หนักหน่วง เราอาจจะเห็นว่าความตายคือทางออกเดียวด้วยซ้ำ

การเตือนตัวเองว่ายังมีชีวิต มีคุณค่า ไม่ล่มสลายไปตามงาน คือทักษะหนึ่งที่คนตั้งใจทำงานยุคนี้ควรเรียนรู้

งานที่ดี คนทำใส่ใจ ย่อมมีคนเห็น แต่มันจะอยู่ยืนยาว ถ้าเจ้าของผลงานทำงานเหมือนการหายใจ รู้จังหวะผ่อนหนักผ่อนเบา ตั้งใจและปล่อยวางให้เป็น

แล้วงานนั้นจะอยู่กับเรา ตราบจนลมหายใจสุดท้ายของชีวิต

AUTHOR