อยู่เพื่อกิน : ย่านเอกมัย

ยามต้นเดือนนั้นไซร้มีตังค์ อยากกินอะไรต้องได้กิน นี่คือ 5 ร้านย่านเอกมัย ย่านออฟฟิศเก่าของ a day ที่เราคุ้นเคย เลือกสรรมาแล้วว่าคุ้มค่าการจ่ายเงินเพื่อลิ้มลองความอร่อย เหมาะแก่การฉลองเงินเดือนออกและโอกาสพิเศษเป็นอย่างยิ่ง

1. บุฟเฟต์เนื้อ ร้านเตาถ่าน Paradise Yakiniku
ร้านนี้เป็นร้านปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่นโดยเจ้าของร้านชาวนักดนตรี ในเซ็ตเนื้อวัวมีเนื้อสัน เนื้อหนอก เนื้อติดมัน เนื้อลาย ผนึกกำลังกับอาหารทะเลและไข่ตุ๋นเนื้อพุดดิ้ง จุดเด่นคือเนื้อวัวคุณภาพจากคนขายเนื้อเจ้าที่วางใจกันมานาน นอกจากนี้ยังมีเนื้อแบบพิเศษอย่างเนื้อคาลบี้และเนื้อใบบัว ย่างแล้วนุ่มอร่อยไปกันได้ดีกับน้ำจิ้มสูตรลับโดยเชฟผู้เชี่ยวชาญ ใครไม่กินเนื้อก็มีเซ็ตหมู หรือจะสั่งเป็นจานเดี่ยวก็ได้เหมือนกัน ส่วนน้ำก็มี ‘เก๊กเขียว’ ที่ผสมเก๊กฮวยกับชาเขียวเข้าด้วยกัน ชุ่มคอแบบไม่หวานจัด

ราคา: บุฟเฟต์เซ็ตเนื้อ 429 บาท
ตำแหน่งร้าน: โครงการปาร์คอเวนิวโฮมออฟฟิศ ระหว่างเอกมัยซอย 12 และ 14 ตรงข้ามร้านนั่งเล่น
เวลาเปิด-ปิด: 16.00 – 24.00 น. เปิดทุกวัน
ติดต่อ: www.facebook.com/Taotaanyakinikuparadise / โทร. 0-2714-4534

2. The Factory Burger ร้าน Burger Factory
โฮมเมดเบอร์เกอร์รสฝีมือคนไทย จัดเต็มทั้งปริมาณ ท็อปปิ้ง และรสชาติที่เข้มข้น เมนูแนะนำ The Factory Burger มีไฮไลต์เป็นเบค่อนชีส โปะด้วยหอมใหญ่ผัดหวาน ราดซอสรสเผ็ดของร้าน เคี้ยวตุ้ยๆ รวมกันแล้วเข้มข้นดีนัก เนื้อวัวที่นี่เป็นเนื้อวัวคุณภาพนำเข้าจากออสเตรเลีย ขนมปังก็เนื้อนุ่มเพราะอบใหม่ๆ เองทุกวัน ทุกเมนูมี side dish ให้เลือกกินคู่ถึง 6 อย่าง อย่างเช่น โคสลอว์รสสดชื่น หรือ Curly Fries ที่เคี้ยวอร่อยกำลังดี ใครชอบชีสเยอะขอให้ลองเมนู Patty Melt ที่โปะชีสสะใจ

ราคา: The Factory Burger 315 บาท
ตำแหน่งร้าน: เวิ้งโบราณ เอกมัยซอย 10
เวลาเปิด-ปิด: 11.30 – 22.30 น. เปิดทุกวัน
ติดต่อ: www.facebook.com/theburgerfactory / โทร. 0-2714-4249

3. Guilty but happy ร้าน In the mood for love สาขาเอกมัย
ร้านอาหารญี่ปุ่นซึ่งโดดเด่นที่การพลิกแพลงเมนูตะวันออกโดยเสริมรสชาติให้พิเศษและอร่อยขึ้น เมนูขึ้นชื่อและกินง่ายต้อง Guilty but happy โรลกุ้งเทมปุระกับครีมชีสคลุกเกล็ดเทมปุระ รสชาติชีสนำเข้มข้นนัวๆ แบบไม่เหมือนที่ไหน ถึงกลัวอ้วนก็ยอมกิน ถ้าชอบอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมหรืออาหารตามฤดูกาลก็มีให้เลือกอร่อยเช่นกัน ส่วนเครื่องดื่มขอทิ้งท้ายด้วยค็อกเทล In the mood for love โซจูผสมแอปเปิ้ลเขียวรสเปรี้ยวหวานแบบสวยๆ

ราคา: Guilty but happy 390 บาท
ตำแหน่งร้าน: เอกมัยซอย 1
เวลาเปิด-ปิด: 17.30 – 24.00 น. ปิดวันจันทร์
ติดต่อ: www.facebook.com/InTheMood.Bangkok / โทร. 0-2392-8477

4. ไอศครีมมัทฉะ ร้าน Peace Oriental Tea House
ของหวานรสชาเขียวที่นี่พิเศษมากๆ เพราะเจ้าของหลงใหลและรู้จริงเรื่องชาตะวันออก คัดสรรและทำอย่างพิถีพิถันให้ได้รสอร่อยที่แท้จริงของชา ไอศครีมมัทฉะสูตรเฉพาะของร้านเป็นไอศครีมนมสดรสหวานที่กินโดยใช้ตะเกียบคีบดิปครีมชาเขียว ได้รสละมุนของนมและรสเข้มข้นของชาไปพร้อมกัน อีกเมนูที่ห้ามพลาดคือมัทฉะลาเต้หรือชาเขียวญี่ปุ่นใส่นม แนะนำให้นั่งที่บาร์เพื่อฟังเรื่องชาแกล้มระหว่างดื่มแล้วจะรู้สึกอร่อยขึ้นอีกเป็นกอง

ราคา: ไอศครีมมัทฉะราคาขึ้นกับเกรดของชา เริ่มต้นที่ 190 บาท
ตำแหน่งร้าน: ระหว่างเอกมัยซอย 2 และ 4
เวลาเปิด-ปิด: 12.00 – 20.30 น. เปิดทุกวัน วันศุกร์ – อาทิตย์ปิด 23.00 น.
ติดต่อ: www.facebook.com/peace.t.house / โทร. 097-267-2626

5. เลมอนครีมชีสเค้ก ร้าน (un)FASHION Café
เมนูแนะนำของคาเฟ่หน้าตาสวยเท่แห่งนี้คือเลมอนครีมชีสเค้กที่อบเสิร์ฟในถ้วยกลม เค้กเป็นเนื้อชิฟฟ่อนนุ่มนวลให้ความรู้สึกคล้ายขนมไข่ มีเนื้อเลมอนแทรก ตักกินกับเลมอนครีมชีสที่หอมกลิ่นน้ำเลมอน รสชาติเปรี้ยวๆ มันๆ สดชื่น ขนมที่นี่ทำสดใหม่ทุกวัน หมุนเวียนเมนูไปเรื่อยๆ นอกจากนี้ยังมีเมนูวาฟเฟิลอีกหลายกระบวนท่าน่าลอง ด้านเครื่องดื่มภูมิใจเสนอสตรอว์เบอร์รี่ลาเต้ รสชาติกลมกล่อม ไม่ขมและหอมหวานกำลังดีทีเดียว

ราคา: เลมอนครีมชีสเค้ก 125 บาท
ตำแหน่งร้าน: เวิ้งโบราณ เอกมัยซอย 10
เวลาเปิด-ปิด: 10.30 – 20.30 น. เปิดทุกวัน
ติดต่อ: โทร. 02-726-9592

ภาพ ชนพัฒน์ เศรษฐโสรัถ

Map

AUTHOR