การก้าวเข้าสู่อาชีพบาร์เทนเดอร์ของ ‘คุณเข้ม-ธณัช สุทธิรักษ์‘ ไม่ได้เริ่มจากการฝึกฝนเป็นบาร์เทนเดอร์ตั้งแต่ต้น แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงเส้นทางอาชีพจากการเป็นเชฟสู่การเป็นบาร์เทนเดอร์ หลังจากที่เขาใช้เวลากว่า 5 ปีในครัวที่เชียงใหม่ จนถึงจุดหนึ่งที่เขารู้สึกอิ่มตัวกับอาชีพเชฟ จึงตัดสินใจเปลี่ยนเส้นทางเข้ามาในวงการเครื่องดื่ม เริ่มจากการเป็นเด็กเสิร์ฟ ขายคราฟต์เบียร์และไวน์ จนกระทั่งได้พบกับอาชีพบาร์เทนเดอร์ที่กลายเป็นเส้นทางใหม่ที่เขาหลงรัก
การค้นพบเสน่ห์ของบาร์เทนเดอร์
เมื่อถามถึงสิ่งที่ทำให้คุณเข้มหลงรักอาชีพบาร์เทนเดอร์ คำตอบที่ได้สะท้อนถึงความตื่นเต้นและความท้าทายที่เขาได้รับในทุกๆ วัน
“ผมว่ามันสนุกครับ มีอะไรให้เราเรียนรู้ตลอดเวลา ได้เจอคนใหม่ๆ ลูกค้าใหม่ๆ และรสชาติใหม่ๆ มันเป็นอาชีพที่ไม่มีวันสิ้นสุดในการเรียนรู้” คุณเข้มกล่าวพร้อมกับเสริมว่า “แม้กระทั่งพี่ๆ ในวงการที่อยู่มาก่อน เขายังเห็นว่าพวกเขายังเรียนรู้อยู่เสมอ ความหลงใหลนี้ทำให้เขารู้สึกไม่เคยเบื่อเลยกับอาชีพบาร์เทนเดอร์”
จากบาร์แบคสู่บาร์เทนเดอร์
การฝึกฝนของคุณเข้มเริ่มจากการเป็นบาร์แบค ซึ่งเป็นตำแหน่งสนับสนุนบาร์เทนเดอร์
“ครั้งแรกที่ผมเข้าบาร์ บาร์เทนเดอร์มาสาย และลูกค้าสั่งเครื่องดื่ม ผมไม่รู้วิธีทำเลย ต้องเปิดสูตรและทำตามไป”
ครั้งแรกในการทำเครื่องดื่ม ที่แม้จะเริ่มต้นด้วยความไม่รู้ แต่เขาก็ไม่ยอมแพ้ และค่อยๆ พัฒนาทักษะจนกลายเป็นบาร์เทนเดอร์มืออาชีพ
แรงผลักดันที่ก้าวข้ามอุปสรรค
การเป็นบาร์เทนเดอร์ไม่ใช่เรื่องง่ายเสมอไป คุณเข้มเองก็เคยประสบกับช่วงเวลาที่เหนื่อยและท้อเช่นกัน “มีช่วงที่โดนคอมเพลนแบบรุนแรง จนคิดว่าจะเลิกทำอาชีพนี้ แต่ผมเลือกที่จะสู้ต่อและ พัฒนาตัวเองจากคำติชม”
เขากล่าวถึงประสบการณ์ที่ทำให้เขาเติบโตขึ้นในสายอาชีพนี้ โดยการศึกษาและฝึกฝนทักษะใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งผลลัพธ์ที่ดีเริ่มปรากฏ
Diageo Bar Academy: การพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง
นอกจากการฝึกฝนในสนามจริงและการแข่งขันที่หลากหลาย หนึ่งในสิ่งสำคัญที่ช่วยพัฒนาทักษะของคุณเข้มให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นคือ Diageo Bar Academy แพลตฟอร์มการเรียนรู้ออนไลน์ที่รวบรวมความรู้ด้านวงการเครื่องดื่มอย่างครบถ้วน คุณเข้มเล่าว่า “เว็บไซต์ของ Diageo Bar Academy มีข้อมูลที่ครอบคลุมทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นการเรียนรู้เรื่องแบรนด์เครื่องดื่ม เทคนิคการผสม หรือแม้กระทั่งการให้บริการลูกค้า” เขาใช้ประโยชน์จากแหล่งความรู้นี้เพื่อพัฒนาตนเองก่อนการแข่งขันครั้งสำคัญหลายต่อหลายครั้ง
สิ่งที่ทำให้ Diageo Bar Academy มีความโดดเด่นคือหลักสูตรการฝึกอบรมที่ครบวงจร โดยมีทั้งบทเรียนในรูปแบบวิดีโอ เทคนิคการเสิร์ฟ และเคล็ดลับในการรับมือกับลูกค้าต่างๆ หลักสูตรเหล่านี้ยังมาพร้อมกับแบบทดสอบและใบรับรองหลังจากการฝึกอบรม ทำให้ผู้เรียนสามารถนำความรู้ที่ได้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตจริงและการแข่งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การเรียนรู้และพัฒนาทักษะจาก Diageo Bar Academy ไม่เพียงช่วยให้คุณเข้มพัฒนาฝีมือ แต่ยังเสริมสร้างความมั่นใจในการให้บริการลูกค้า รวมถึงการสร้างสรรค์เครื่องดื่มที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เขามองว่าหลักสูตรเหล่านี้เป็นเหมือนแหล่งเสริมความรู้ที่ทำให้เขาเติบโตในสายอาชีพบาร์เทนเดอร์อย่างไม่หยุดยั้ง
เข้าสู่เวทีประกวดระดับโลก
คุณเข้มเริ่มต้นการประกวดบาร์เทนเดอร์ด้วยการแข่งขัน Diageo World Class ซึ่งเป็นการแข่งขันระดับโลก “ผมได้ยินชื่อการแข่งขันนี้ตั้งแต่สมัยเป็นเชฟแล้ว จึงตัดสินใจลองแข่งในปีที่โควิดเริ่มเข้ามา” แม้ว่าในปีแรกจะตกรอบแรก แต่เขามองว่ามันคือประสบการณ์ที่มีค่า “การแข่งขันทำให้ผมได้เจอเพื่อนใหม่ๆ เทคนิคใหม่ๆ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมากกว่าแค่ผลการแข่งขัน”
คุณเข้ม ยังเล่าให้ฟังอีกว่าระหว่างทางในการฝึกซ้อมที่ใช้ระยะเวลานั้นเขาก็ได้มีการริเริ่มโปรเจกต์อะไรบางอย่างที่แปรรูปมาจากฝาขวดพลาสติกอีกด้วย
โครงการฝาพลาสติกรีไซเคิล: จากโจทย์การแข่งขันสู่การสร้างการเปลี่ยนแปลงในสังคม
โครงการฝาพลาสติกรีไซเคิลของคุณเข้ม ธณัช สุทธิรักษ์ ไม่ได้เป็นเพียงแค่แนวคิดทางสิ่งแวดล้อมธรรมดา แต่เป็นโครงการที่เกิดจากแรงผลักดันของโจทย์การแข่งขันระดับโลกที่เชื่อมโยงกับการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน ภายใต้โจทย์ “Community Hero” ของการแข่งขัน Diageo World Class รอบ Global คุณเข้มได้รับมอบหมายให้คิดโครงการที่สามารถพัฒนาชุมชนของตนเองได้ผ่านทางการทำงานในวงการเครื่องดื่มและบาร์เทนเดอร์ โจทย์ที่เรียบง่ายแต่นำไปสู่การทบทวนและค้นหาปัญหาจริงในสังคมที่เขาสามารถเข้ามามีบทบาทได้
จุดเริ่มต้นจากการมองเห็นปัญหาในชุมชน
เมื่อได้รับโจทย์นี้ คุณเข้มเริ่มสำรวจปัญหาที่ SME หรือธุรกิจขนาดย่อมของไทยต้องเผชิญ โดยเฉพาะในวงการร้านอาหารและบาร์ สิ่งที่เขาพบคือปัญหาด้านการจัดการขยะ โดยเฉพาะขยะพลาสติกซึ่งเป็นสิ่งที่หลายร้านอาหารและบาร์ไม่สามารถจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากพลาสติกประเภทต่างๆ รวมถึงฝาพลาสติก มักถูกทิ้งโดยไม่ได้รับการแยกและนำไปใช้ประโยชน์ใหม่
“ร้านอาหารส่วนใหญ่มีวิธีจัดการกับขยะสดอยู่แล้ว แต่ขยะพลาสติก โดยเฉพาะฝาพลาสติก เป็นปัญหาที่พบได้ทั่วไปในทุกธุรกิจ”
ความท้าทายของการจัดการขยะในวงการร้านอาหารและบาร์ ซึ่งกลายเป็นแรงบันดาลใจให้เขาคิดโครงการที่เกี่ยวข้องกับการรีไซเคิลขยะเหล่านี้
การค้นพบ Precious Plastic Bangkok: ความร่วมมือเพื่อสร้างสรรค์
จากการค้นคว้าหาข้อมูลเกี่ยวกับการรีไซเคิลขยะพลาสติก คุณเข้มได้พบกับ Precious Plastic Bangkok องค์กรที่มุ่งเน้นการรีไซเคิลพลาสติกโดยเฉพาะฝาพลาสติก ซึ่งสามารถนำมาสร้างสรรค์เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ เช่น เฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ต่างๆ การทำงานของ Precious Plastic Bangkok ไม่เพียงแต่เป็นการรีไซเคิลขยะ แต่ยังเน้นการสร้างการรับรู้ให้กับสังคมในเรื่องของการลดขยะพลาสติกและการจัดการขยะอย่างมีประสิทธิภาพ
เมื่อคุณเข้มได้พูดคุยและปรึกษากับทีม Precious Plastic Bangkok เขาเริ่มคิดโครงการที่จะนำฝาพลาสติกจากบาร์และร้านอาหารมารีไซเคิลเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้งานได้ในบาร์ของตัวเอง โดยเฉพาะ “ฝารองแก้ว” ซึ่งเป็นไอเท็มที่มีการใช้งานสูงในบาร์ เขามองเห็นว่าแทนที่จะทิ้งขยะพลาสติกอย่างสูญเปล่า ฝาพลาสติกเหล่านี้สามารถถูกแปรสภาพเป็นฝารองแก้วที่มีดีไซน์เฉพาะตัว และสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ในร้านของเขาเอง
จากขยะสู่ผลิตภัณฑ์รีไซเคิล: กระบวนการและการเรียนรู้
โครงการนี้ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Ketel Community Heroes Project ของการแข่งขัน Diageo World Class 2024 เริ่มจากการรวบรวมฝาพลาสติกจากร้านอาหารและบาร์ที่คุณเข้มทำงานร่วมกับ Precious Plastic Bangkok เพื่อแยกขยะและส่งต่อไปยังโรงงานรีไซเคิล ที่นี่ฝาพลาสติกจะถูกหลอมและแปรสภาพเป็นฝารองแก้วที่สามารถนำกลับมาใช้ได้ในบาร์ ซึ่งนอกจากจะช่วยลดการใช้ทรัพยากรใหม่แล้วยังเป็นการนำเสนอภาพลักษณ์ที่ดีให้กับบาร์เองในฐานะธุรกิจที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม
“เราเริ่มต้นจากการแยกขยะพลาสติกและส่งไปให้ Precious Plastic Bangkok พวกเขามีกระบวนการรีไซเคิลที่สามารถเปลี่ยนขยะเหล่านี้ให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ เช่น ฝารองแก้วและเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งเราสามารถนำมาใช้ในร้านได้จริง”
คุณเข้มอธิบายถึงกระบวนการที่ซับซ้อนแต่มีประสิทธิภาพในการจัดการขยะเหล่านี้ โดยเขายังได้เล่าเพิ่มเติมถึงการเรียนรู้ที่ได้รับจากการทำงานร่วมกับทีมรีไซเคิลในด้านเทคนิคและกระบวนการต่างๆ ซึ่งเขาได้นำมาประยุกต์ใช้ในการจัดการขยะภายในร้านของเขาเอง
การสร้างการเปลี่ยนแปลงในสังคมผ่านโครงการ
นอกจากจะเป็นโครงการที่ช่วยลดปริมาณขยะในบาร์ โครงการนี้ยังสร้างการรับรู้ในสังคมถึงการจัดการขยะอย่างยั่งยืน “ผมเชื่อว่าพอเราทำให้คนรับรู้ได้ถึงวิธีการจัดการกับขยะ โดยเฉพาะขยะพลาสติกที่เราใช้ในชีวิตประจำวัน คนก็จะเริ่มหันมาสนใจและปฏิบัติตามกันมากขึ้น” คุณเข้มเล่าถึงเป้าหมายของโครงการ ซึ่งไม่เพียงแค่สร้างฝารองแก้วรีไซเคิลเท่านั้น แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจให้คนในชุมชนและธุรกิจอื่นๆ เริ่มพิจารณาถึงวิธีการจัดการขยะและการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่ามากขึ้น
“มันไม่จำเป็นต้องเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เริ่มจากการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ เช่น การแยกขยะ การใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า ผมว่ามันก็เป็นการเริ่มต้นที่ดี” คุณเข้มเสริมว่า การจัดการทรัพยากรที่ดีเป็นเรื่องที่ทุกคนสามารถทำได้ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดใหญ่หรือเล็ก การสร้างความตระหนักรู้และการปฏิบัติที่ยั่งยืนเป็นกุญแจสำคัญที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงในระดับชุมชนและสังคมในวงกว้าง
โครงการในอนาคต: จากฝาพลาสติกสู่การสร้างสรรค์อื่นๆ
สำหรับโครงการในอนาคต คุณเข้มไม่จำกัดเพียงการรีไซเคิลฝาพลาสติกเท่านั้น แต่ยังมองเห็นโอกาสในการขยายแนวคิดการจัดการขยะและความยั่งยืนไปสู่ปัญหาอื่นๆ เช่น การจัดการ Food Waste หรือขยะจากอาหาร “ผมมองว่าฝาพลาสติกเป็นเพียงก้าวแรก เราสามารถนำแนวคิดนี้ไปประยุกต์ใช้กับขยะประเภทอื่นได้ ไม่ว่าจะเป็นขยะอาหาร หรือแม้แต่ขยะจากการผลิตอื่นๆ”
ท้ายที่สุด คุณเข้มมองว่า โครงการนี้เป็นการสร้างการรับรู้และส่งต่อแนวคิดการจัดการขยะอย่างยั่งยืน “ผมอยากสร้างการรับรู้เรื่องนี้ เผื่อคนอื่นอยากจะเริ่มต้นโครงการของตัวเอง มันไม่จำเป็นต้องเป็นขยะพลาสติกเสมอไป มันอาจจะเป็นปัญหาอื่นๆ ที่คุณพบในชุมชนของคุณ ผมอยากให้โครงการนี้เป็นตัวอย่างว่า เราทุกคนสามารถเริ่มต้นทำสิ่งเล็กๆ ที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงใหญ่ๆ ได้”
โครงการฝาพลาสติกรีไซเคิลจึงไม่ใช่เพียงการแก้ไขปัญหาขยะในบาร์ แต่เป็นการสร้างความตระหนักรู้ในสังคมถึงความสำคัญของการจัดการขยะและการสร้างความยั่งยืนในทุกภาคส่วนของชีวิต
ความยั่งยืนในอาชีพบาร์เทนเดอร์
เมื่อถามถึงความยั่งยืนในอาชีพบาร์เทนเดอร์ คุณเข้มมองว่ามันเป็นอาชีพที่สามารถเลี้ยงชีพได้ “บาร์เทนเดอร์กับเชฟเป็นคู่กัน เรามีการสร้างสรรค์ที่เหมือนกัน วงการเครื่องดื่มพัฒนาไปมากจนกลายเป็นอาชีพที่ยั่งยืน สามารถต่อยอดได้หลากหลาย”
ความฝันและเป้าหมายในอนาคต
ในอนาคต คุณเข้มมีความฝันที่จะมีร้านของตัวเองและขยายเป็นกลุ่มร้าน “ผมอยากสร้างร้านที่เป็นของตัวเอง แล้วส่งต่อความรู้ให้คนรุ่นใหม่” เขากล่าวถึงความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์และส่งต่อความรู้ให้กับเจเนอเรชันถัดไป
แนะนำสำหรับผู้ที่สนใจอาชีพบาร์เทนเดอร์
คุณเข้มแนะนำว่า การจะเป็นบาร์เทนเดอร์ต้องมี Passion และความมุ่งมั่นที่เพียงพอ “อาชีพนี้ใครก็ทำได้ แต่ต้องมีแพชชันที่มากพอ และรักในสิ่งที่ทำ” เขาย้ำถึงความสำคัญของการใฝ่รู้และการเตรียมตัวเพื่อความสำเร็จในอาชีพนี้
บทสัมภาษณ์นี้สะท้อนถึงความทุ่มเทและการเดินทางของ ’คุณเข้ม–ธณัช สุทธิรักษ์‘ ในการพัฒนาตนเองจากเชฟสู่บาร์เทนเดอร์มืออาชีพ พร้อมกับการสร้างสรรค์และส่งต่อความรู้ให้กับสังคมและวงการเครื่องดื่มในประเทศไทย