ถุงเงิน : อดีตแมวจรแสนอาภัพที่กลายมาเป็นแมวอ้วนกวนประสาท

แรกพบกับเจ้าถุงเงินนั้น บอกได้เลยว่าไม่มีความคิดที่จะรับมาเลี้ยงไว้ที่บ้านเลยแม้แต่น้อย เพราะมันเป็นแมวที่มอมแมมมากที่สุดตัวหนึ่งเท่าที่ผมเคยเจอมา อีกอย่างคือกลัวว่าถ้ารับมาเลี้ยงแล้วจะเกิดความรักความผูกพันจนเมื่อมันหมดอายุขัย เราก็จะทำใจไม่ได้…แต่ไม่ว่าจะอย่างไร ด้วยความที่เป็นทาสแมวอยู่แล้ว สุดท้ายผมก็พ่ายแพ้ให้กับแววตาไร้เดียงสาและเสียงเล็กแหบแห้งแสนออดอ้อนของมัน

และอีกเหตุผลสำคัญที่ทำให้ผมมีสมาชิกในครอบครัวเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งตัวนั่นก็คือ มันเป็นแมวที่น่าสงสารมากครับ

ถุงเงินเป็นแมวจรเพศเมียที่เกิดข้างถนน เรียกว่าเป็นแมวติดดินแบบออริจินัลเลยก็ว่าได้ ใช้ชีวิตคุกคลีอยู่กับดินกับทรายตั้งแต่แรกเกิด ซุกหัวนอนตามตรอกซอกซอยแคบๆ อ้อ! แมวจรในเมืองของแท้ต้องมีคราบเขม่าควันท่อไอเสียหรือน้ำมันเครื่องด้วยนะครับ นั่นจึงทำให้เนื้อตัวของถุงเงินมอมแมมมาก ยิ่งขนบนตัวเป็นสีดำน้ำตาลอ่อนผสมน้ำตาลเข้ม ผลลัพธ์ออกมาทำให้ผมมองยังไง๊ยังไงมันก็เหมือนผ้าขี้ริ้ว

วันหนึ่ง แมวจรตัวนี้ก็ถูกรถชนจนขาหลังข้างขวาของมันใช้การไม่ถนัด ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ หาอาหารกินเองก็ไม่ได้ ยังดีที่คนแถวนั้นเมตตาให้อาหารมัน (โดยเฉพาะแม่กับพี่สาวผม) มันจึงยังพอประทังชีวิตไปได้ แต่ก็กลายเป็นแมวผอมแห้งเหลือแต่กระดูก พอผ่านไปสักพักไม่รู้ทำไมรอบตัวมันยิ่งมีบาดแผลโดนเขี้ยวเล็กเขี้ยวน้อยกัดเต็มไปหมด อาจเป็นเพราะมันคงหนีไม่ทันตอนโดนหมาเจ้าถิ่นไล่ฟัด ครอบครัวผมจึงปรึกษากันว่าจะเอามันไปรักษาและรับมาอยู่บ้าน เพราะขืนปล่อยให้มันนอนตาปริบๆ ร้องเหมียวๆ ช่วยตัวเองไม่ได้อยู่แบบนี้ อายุมันคงสั้น

สำหรับค่ารักษาก็หมดไปหลายพันบาทเลยครับ แถมยังต้องมารอลุ้นอีกว่าขาของมันจะกลับมาหายเป็นปกติหรือไม่ ระหว่างฟื้นตัว หมอก็นัดบ่อยมาก แต่ไม่เป็นไร ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ถ้ามันหายเป็นปกติได้ก็คงดี…

ช่วงแรกที่ถุงเงินเข้ามาอยู่ในบ้าน มันขี้อ้อนมากๆ ถึงมากที่สุดอย่างกับแมวขาดความอบอุ่น ใครไปไหนก็เดินตามต้อยๆ ร้องเหมียวๆ ทำเสียงเล็กออดอ้อน เอาหัวเอาตัวมาสีตลอด แถมยังไม่ดื้อไม่ซน นานๆ ทีจะพยายามวิ่งหรือกระโดด (เพราะขายังไม่แข็งแรง) แต่สภาพมันตอนนั้นผอมแห้ง แผลเต็มตัว ขี้เหร่สุดๆ ผมจึงไม่ค่อยหลงมันเท่าไหร่ จะมีก็แต่ความเอ็นดูเท่านั้น จนถุงเงินค่อยๆ กลายเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว ทุกคนต่างให้ความรัก เอาใจใส่ ประคบประหงมกันเต็มที่ ถุงเงินมีทั้งคอนโดหลังน้อยๆ เป็นของตัวเอง มีคนนำอาหาร ขนม มาให้กินเป็นเวลา จะฉี่จะขี้ก็มีคนคอยจัดการให้ นี่ถ้าแมวตัวอื่นมาเห็นล่ะก็ต้องมีอิจฉาริษยากันบ้างล่ะ (คนเป็นๆ อย่างผมยังอิจฉาเลย) วิถีชีวิตของอดีตแมวจรตัวนี้จึงเป็นอะไรที่เรียบง่ายมากครับ คือ กิน กิน กิน แล้วก็นอน

เมื่อวันเวลาผ่านไป เจ้าถุงเงินก็เติบโตขึ้นแบบก้าวกระโดดทั้งด้านร่างกาย สติปัญญา ความรู้มาก ความเย่อหยิ่ง ความซน และความกวนประสาท หลังจากที่ขาหายแล้วถุงเงินก็กลายเป็นแมวบ้านเต็มตัว เป็นแมวอ้วนลงพุง กินจุแถมยังเลือกกิน จะกินเฉพาะอาหารที่ชอบ ขนมที่ชอบ ถ้าไม่ปลื้มก็จะแค่ดมๆ แล้วสะบัดก้นเดินจากไป ถุงเงินมีความกร้านโลกมากขึ้นอยากเล่นก็ต่อเมื่ออยากเล่น อยากอ้อนเฉพาะเวลาที่อยากอ้อน บางทีใครไปลูบๆ ตัว ถ้าไม่สบอารมณ์ก็จะเดินหนี (ดูความหยิ่งของมันสิ)

ถุงเงินยังชอบทำตัวเป็นเจ้าของบ้าน แมวตัวไหนผ่านมามันก็จะขู่ไล่ให้ออกไปพ้นๆ บางทีก็เป็นแมวกวนประสาท ดึกดื่นไม่ยอมนอนวิ่งไล่ฟัดตุ๊กตาหนูตัวโปรดของมันไม่ยอมหยุด มีหลายครั้งที่มันกระโดดโลดเต้นออกไปนอกหน้าต่างตกลงไปใต้ถุนบ้านซึ่งเป็นน้ำ ตู้มมม!!! ทีนี้ก็เดือดร้อนคนในบ้านต้องช่วยกันกู้ชีพแมวกันยกใหญ่

จริงๆ วีรกรรมแสบๆ ของเจ้าถุงเงินยังมีอีกเยอะครับ เล่ายังไงก็ไม่หมด ไม่รู้มันน่ารักตรงไหน ทำไม๊ทำไมใครๆ ต่างก็หลงมัน (โดยเฉพาะผม ฮ่า) บางทีผมกลับบ้านมาเห็นมันนอนหลับอยู่เฉยๆ แม้จะเป็นท่านอนที่ไม่ค่อยจะเรียบร้อยเท่าไหร่นักด้วยการหงายตัวแบบ 180 องศาแหกแข้งแหกขาหมดสภาพแมวผู้ดี ถุงเงินก็ยังเป็นแมวที่น่ารักสำหรับผมอยู่ดี

ปัจจุบัน เจ้าถุงเงินอยู่สุขสบายดีครับ (สบายกว่าผมอีก) และก็ไม่เห็นมันจะทำอะไรเลย ได้แต่ทำตัวเป็นแมวน่ารักไปวันๆ

เดี๋ยวนะครับ นี่ผมใช้คำว่า ‘น่ารัก’ กับแมวอ้วนกวนประสาทเหรอเนี่ย???

Owner’s name: ณจักร วงษ์ยิ้ม
Occupation: กราฟิกดีไซเนอร์
Cat’s name: ถุงเงิน

ใครอยากอวดแมวในเว็บไซต์ a day online คลิกที่นี่นะ

AUTHOR