ในยุคที่เรา ‘ติดกับ’ การไถฟีดเฟซบุ๊ก เผลอตามอ่านเรื่องดราม่ายืดยาว ซึมซับความรู้สึกลบๆ ติดมาโดยไม่รู้ตัว เมื่อเจอบางวันอันหนักอึ้ง สับสนวุ่นวาย หัวใจก็คล้ายจะไม่ปลอดโปร่ง เราเลยอยากแนะนำ 5 หนังสือที่เป็นมิตรต่อความรู้สึก เหมาะสำหรับวันอยากบำบัดจิตใจ ช่วยคลายปมความรู้สึกแย่ๆ ให้เบาสบายขึ้น ลองเลือกอ่านตามความชอบใจได้เลย
01
หมวดเติมเต็มแง่งาม
ชื่อหนังสือ : ขลุ่ยไม้ไผ่
ผู้เขียน : พจนา จันทรสันติ
สำนักพิมพ์ : openbooks
ตามรายทาง
ซึ่งลัดเลาะผ่านป่าทึบ
ดอกไม้ป่า ที่นี้ ที่โน้น
ปกติแล้วเราไม่สันทัดการอ่านกวี แต่หนังสืออายุอานามครบรอบ 35 ปีฉบับนี้ทำให้ต้องเปลี่ยนความคิด บทกวีในเล่มซึ่งได้รับอิทธิพลจาก ไฮกุ ผสมผสานกับแนวคิดปรัชญาเต๋าและเซน บอกเล่าแง่งามเล็กๆ ของชีวิต การเชื่อมโยงชีวิตและธรรมชาติ ถ้อยคำอ่อนโยนสะท้อนฉากแสนสงบช่วยชะลอจิตใจว้าวุ่นให้สงบลงได้ดีทีเดียว
…ณ สถานที่อันห่างไกลและรกร้างนี้ บนทางป่าสายเล็กๆ
ซึ่งลัดเลาะผ่านป่าทึบและขุนเขา ฉันได้พบความงามอันอ่อนหวานประการหนึ่ง
เจ้าดอกไม้ป่าที่ขึ้นอยู่ริมทาง บ้างเป็นดอกหญ้า บ้างเป็นดอกไม้
ขึ้นกระจัดกระจายอยู่ที่โน่นที่นี่ กลีบดอกบาง ต้นเล็กละเอียด
เป็นแฉกเป็นฝอยเหมือนประกายดาว บ้างสดชื่นเหมือนหยาดน้ำค้าง บ้างเหมือนกำมะหยี่…
ความดีงามอีกอย่างคือผู้เขียนได้อธิบายที่มาและมุมมองของบทกวีนั้นๆ ไว้ข้างเคียงกันด้วย ทำให้เราได้เห็นบรรยากาศแวดล้อมแสนละเอียดอ่อนและเข้าถึงจิตใจผู้เขียน ผู้มีประสบการณ์สุขทุกข์เป็นตะแกรงร่อนผลึกแห่งชีวิตที่คัดสรรมาบอกเล่าให้ฟัง
02
หมวดคลายปมปัญหาในใจ
ชื่อหนังสือ : จะเล่าเป็นเพื่อนคุณ
ผู้เขียน : ฆอร์เฆ่ บูกาย
แปล : เพ็ญพิสาข์ ศรีวรนารถ
สำนักพิมพ์ : ผีเสื้อ
เรื่องก็เป็นเช่นนี้ ชีวิตเราก็อย่างนี้แหละ
ฟังเสียงหัวใจ เลิกฟังเสียงที่ดังมาจากหน้าต่างซึ่งบางครั้งก็บอกสิ่งซึ่งไม่เกี่ยวกับเราด้วยซ้ำ
นี่คือภาคต่อของ ‘จะเล่าให้คุณฟัง’ หนังสือเขียนโดยนักจิตวิทยาที่ประสบความสำเร็จในการใช้เยียวยาจิตใจผู้คนมานักต่อนัก แต่ฟังแบบนี้อย่าเพิ่งคิดว่าจะเครียด
เนื้อหาว่าด้วยเรื่องราวของแพทย์หนุ่มตัวละครหลักอย่างเดเมียนที่เข้ารับการบำบัดกับนักจิตบำบัด ฆอร์เฆ่ ชายอ้วนผู้บอกใบ้ทางออกของปัญหาในชีวิตด้วยนิทานต่างๆ
ภาวะอึดอัดต่างๆ ของเดเมียนทำให้เรารู้สึกเชื่อมโยงกับตัวเอง ทั้งยังมองเห็นปมปัญหาได้ชัดเจนขึ้นไปพร้อมกัน จุดเด่นหลักอย่างนิทานที่ผู้เขียนสอดแทรกไว้ยังมีความหมายชวนคิดลึกซึ้ง ปล่อยให้ผู้อ่านได้ค้นหาความหมายภายในใจด้วยตัวเอง เราจึงไม่รู้สึกว่ากำลังถูกเทศนา แถมยังช่วยปลดล็อกปมปัญหาในใจได้อย่างไม่น่าเชื่อ–บางครั้งอ่านไปก็น้ำตาไหลด้วยความรู้สึกเต็มตื้นโดยไม่รู้ตัว
สำหรับเล่มภาคต่อจะมุ่งเน้นเรื่องความสัมพันธ์และการงานเป็นหลัก ถ้าใครสนใจแนะนำให้หาเล่มแรกมาอ่านไปคู่กันด้วยก็จะยิ่งดี
03
หมวดแสวงหาความสงบ
ชื่อหนังสือ : Gift from the Sea : ของฝากจากทะเล
ผู้เขียน : แอนน์ มอร์โรว์ ลินด์เบิร์กห์
แปล : จนัญญา เตรียมอนุรักษ์
สำนักพิมพ์ : openbooks
…เมื่อทุกอย่างผ่านพ้นไป ฉันพบว่าการได้อยู่เพียงลำพังเป็นสิ่งมีค่ายิ่ง ชีวิตกลับไปสู่ความว่างอีกครั้ง รู้สึกเต็มอิ่มขึ้น มีชีวิตชีวาขึ้น สมบูรณ์ขึ้นกว่าแต่ก่อน การจากพรากอาจทำให้เราเสียแขนไปจริง แต่ไม่ต่างจากปลาดาว แขนสามารถงอกขึ้นมาใหม่และสมบูรณ์ได้อีกครั้ง …
แอนน์ ผู้เขียน คือนักบินหญิงคนแรกของสหรัฐอเมริกา (และเป็นเพื่อนสนิทของ แซงเตก-ซูเปรี ผู้เขียนเรื่อง เจ้าชายน้อย ด้วย) Gift from the Sea เป็นหนังสือเล่มสำคัญที่เธอถอดความจากช่วงครึ่งหลังของชีวิตที่ปลีกวิเวกอาศัยอยู่บนเกาะแห่งหนึ่ง ถ้อยคำที่ร้อยเรียงคือคำใคร่ครวญถึงชีวิตในฐานะเมียและแม่ บอกเล่าชีวิตแต่ละช่วงผ่านสัญลักษณ์ของเปลือกหอยต่างๆ
แอนน์สะท้อนแง่คิดในการจะใช้ชีวิตได้อย่างเต็มความหมายและด้วยหัวใจที่เติมเต็มขึ้น ท่ามกลางความวุ่นวายที่ซัดสาดเข้าหาเป็นจังหวะในชีวิตที่มีขึ้นลง ทำให้เราได้หยุดคิดทบทวน และมองเห็นของขวัญเล็กๆ ที่เกลียวคลื่นชีวิตเหลือทิ้งไว้ให้เราเช่นกัน
04
หมวดเพื่อนผู้ตบบ่าเราอย่างเข้าใจ
ชื่อหนังสือ : ยอดมนุษย์ดาวเศร้า
ผู้เขียน : องอาจ ชัยชาญชีพ
สำนักพิมพ์ : เป็ดเต่าควาย
ผมรู้ว่าทุกคนล้วนต้องตายไงล่ะ
ถ้าต้องตายชัวร์ ผมก็ไม่เห็นจำเป็นที่จะต้องดิ้นรนให้เหนื่อยเปล่า
แค่รออยู่เฉยๆ ถึงเวลาก็ได้ตายเอง
สู้ตอนนี้มีชีวิตอยู่ไปก่อน
คอยลุ้นอะไรที่ยังไม่ชัวร์
ยังจะสนุกกว่าเป็นไหนๆ
ถ้าบางครั้งไม่อาจรู้สึกดีขึ้นได้จากคำปลอบหรืออยู่ในสภาวะซึมลึก การหาเพื่อนผู้เข้าใจความรู้สึกว้าวุ่นของชีวิตน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า และนั่นคือเหตุผลที่เราอดหยิบหนังสือเล่มนี้มาแนะนำอีกครั้งไม่ได้
ยอดมนุษย์ดาวเศร้า เล่าถึงเรื่องเศร้าในชีวิตตัวละครแต่ละคนที่เชื่อมโยงถึงกันด้วยมิติอารมณ์ของมนุษย์ที่ใกล้เคียงความจริง ตัวละครแทบทุกตัวล้วนซุกซ่อนการก่นด่าชีวิต การตั้งคำถามกับสภาวะไร้ความสุข และการถามตอบในใจที่บ้างก็วกวน บ้างก็ทำให้ค้นพบอีกแง่มุมที่แม้จะไม่สวยงามแต่ก็ทำให้เราอยากดำเนินชีวิตแต่ละวันต่อไป
เหตุผลที่เราชอบหนังสือเล่มนี้คือ มันช่างเป็นคำปลอบแสนจริงจากเพื่อนผู้วนเวียนอยู่ในวงจรสุขเศร้าไม่ต่างกัน
05
หมวดเรื่องชุบชูใจ
ชื่อหนังสือ : นางนวลกับมวลแมว ผู้สอนให้นกบิน
ผู้เขียน : หลุยส์ เซปุล์เบดา
แปล : สถาพร ทิพยศักดิ์
สำนักพิมพ์ : ผีเสื้อ
‘เธอจะบินได้ ท้องฟ้าจะเป็นของเธอทั้งสิ้น’
ซอร์บาสร้องบอก
ถ้ามีการจัดอันดับเรื่องที่อ่านแล้วชุ่มชื่นใจที่สุด นางนวลกับมวลแมวฯ คือหนึ่งในลิสต์ของเรา แต่น่าเสียดายที่ไม่ค่อยมีใครรู้จักหรือเคยอ่านเท่าไหร่ นี่คือเรื่องของแมวที่ได้มาพบนกนางนวลตัวหนึ่งซึ่งกำลังจะหมดลมหายใจจากภัยคราบน้ำมันดิบ คำมั่นสัญญาเดียวที่นกตัวนั้นขอไว้คือช่วยฟักไข่นกนางนวลหนึ่งใบที่เหลืออยู่
และช่วยสอนให้นางนวลตัวนี้บินได้ที แมวและเหล่าเพื่อนจึงต้องค้นหาวิธีการเพื่อเลี้ยงดูและสอนให้เจ้านกได้ออกโบยบิน
เนื้อเรื่องฟังเผินๆ เหมือนเป็นเรื่องของเด็ก แต่อ่านจบแล้วจะพบว่านี่คือหนังสือเล่มเล็กๆ ที่ให้ความหมายยิ่งใหญ่ต่อใจเรามากในเรื่องความกล้า ความหวัง และมิตรภาพ คำกล่าวที่บอกว่านี่คือเรื่องน่ารักเกินบรรยายสำหรับผู้อ่านอายุ 8-88 ปีนี่ไม่ได้เกินจริงแต่อย่างใดเลย
ภาพ กันตพร สวนศิลป์พงศ์