บาร์บีคิวพลาซ่า แบรนด์ปิ้งย่างที่ใช้ ‘ความสุข’ เป็นเชื้อไฟในทุกมื้ออาหาร

บาร์บีคิวพลาซ่า เสียงเนื้อนาบกระทะทองเหลืองดังฉ่าพร้อมควันหอมๆ ที่ลอยกรุ่นอยู่ด้านบนกระทะคงชวนให้หลายคนน้ำลายสอ แต่แบรนด์ปิ้งย่างระดับตำนานอย่าง ‘บาร์บีคิวพลาซ่า’ ไม่ได้มีจุดขายแค่เมนูปิ้งย่างสารพัดเนื้อหรือน้ำจิ้มสูตรเด็ดเพียงอย่างเดียว เพราะยังควงคู่มากับมาสคอตคู่บุญอย่าง ‘บาร์บีกอน’ มังกรเขียวหน้าตาจิ้มลิ้มซึ่งกลายมาเป็นสัญลักษณ์ที่ทำให้คนทั่วไปรู้จักแบรนด์ชนิดที่เรียกว่ากลายเป็นร้านปิ้งย่างขวัญใจมหาชนตัวจริง

แบรนด์ปิ้งย่างที่คนไทยฝากท้องมากกว่า 30 ปี เริ่มจากจุดกำเนิดเล็กๆ ในครอบครัวชูพจน์เจริญ ที่มีความตั้งใจจะดูแลสมาชิกในครอบครัวและเพื่อนพ้องให้อิ่มหนำผ่านมื้ออาหารที่ปรุงอย่างใส่ใจในบรรยากาศเป็นกันเอง จึงเป็นจุดตั้งต้นให้เกิดธุรกิจร้านปิ้งย่างบาร์บีคิวพลาซ่าที่ค่อยๆ เป็นที่รักของสาวกปิ้งย่าง จนนำไปสู่การขยายอาณาจักรมังกรเขียวที่นับวันยิ่งโตขึ้นเรื่อยๆ จากธุรกิจเล็กๆ ในครอบครัว กลายมาเป็นร้านอาหารมากสาขาที่การันตีได้เลยว่าน้อยคนนักที่ไม่เคยเดินเข้าไปลิ้มรสความอร่อย

ปัจจุบันบาร์บีคิวพลาซ่ามีสาขาราว 150 สาขา บริหารงานโดยทายาทรุ่นที่สองของครอบครัวซึ่งชูนโยบายเรื่องการเอาใจใส่ดูแลสวัสดิภาพและสวัสดิการของพนักงาน เพื่อให้ทุกคนในองค์กรมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี และเหนืออื่นใดคือ มีความสุข

จากความเชื่อในธุรกิจครอบครัวที่ส่งต่อกันมาตั้งแต่รุ่นพ่อแม่สมัยยังมีพนักงานเพียงหยิบมือ ทุกวันนี้บาร์บีคิวพลาซ่าขยายองค์กรจนเติบโตและมีพนักงานราว 4,000 คน ในปี 2555 บาร์บีคิวพลาซ่าได้เปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น ‘ฟู้ดแพชชั่น’ (Food Passion) เพื่อบริหารบาร์บีคิวพลาซ่าและร้านอาหารในเครือ

จากวัฒนธรรมองค์กรที่เคยอยู่ในใจ อยู่ในวัตรปฏิบัติของผู้คน บาร์บีคิวพลาซ่าพยายามถอดรหัสความเชื่อนั้นออกมาเป็นคำที่ทุกคนในองค์กรรับรู้ร่วมกัน เพื่อจะรวมพลังกันพิชิตเป้าหมายสูงสุด และยังสามารถขยายความเชื่อที่ว่านี้ให้คนภายนอกรับรู้ได้ด้วย

รางวัลสุดยอดนายจ้างดีเด่น ‘Best of the Best Employer 2018’ โดยเอออน ฮิววิท ร่วมกับสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และรางวัล ‘แบรนด์ที่น่าเชื่อถือที่สุด ประจำปี 2019 กลุ่มร้านอาหาร (Chain)’ โดยนิตยสาร BrandAge คงไม่ได้มาเพราะโชคช่วย ส่วนผสมและวัตถุดิบทางความคิดแบบไหนที่ทำให้บาร์บีคิวพลาซ่าขับเคลื่อนองค์กรมาได้ไกล และสร้างอิมแพกต์มหาศาลจากความเชื่อเล็กๆ ที่เริ่มจาก ‘ทำทุกมื้อให้ดีที่สุด’ และสร้าง ‘ความสุข’ ในทุกมื้ออาหาร 

ในฐานะองค์กรที่โดดเด่นเรื่องแนวคิดการบริหารคนด้วยความสุข บาร์บีคิวพลาซ่าจะมาปิ้งย่างไอเดีย พลิกไปพลิกมาให้ดูทุกแง่มุมจนสุกกำลังดี ที่สำคัญ ถ้าอ่านแล้วยังไม่อิ่ม มีกะหล่ำปลีซอยให้เติมฟรีไม่อั้น

จับช้อนส้อม ตะเกียบ และถ้วยน้ำซุปของคุณให้พร้อม เราจุดเตาร้อนกำลังได้ที่แล้ว ขอชวนทุกคนมาลองลิ้มชิมไอเดียเนื้อๆ เน้นๆ ที่ย่างให้สุกแบบสุขๆ จนส่งกลิ่นหอมฉุยอยู่ตรงหน้าคุณ ณ ตอนนี้

MISSION 
เมื่อเรามีความสุข เราก็จะส่งต่อความสุขได้

เสิร์ฟความสุขผ่านมื้ออาหาร 

ไม่ใช่ตัวเลขผลประกอบการ ไม่ใช่จำนวนสาขา แต่เป้าหมายสูงสุดที่ผู้คนในบาร์บีคิวพลาซ่าตกตะกอนร่วมกันคือ ‘การดูแลทุกคนให้มีความสุขโดยมีมื้ออาหารเป็นสื่อกลาง’

นั่นคือประโยคทองคำที่ทุกคนในองค์กรตั้งแต่ผู้บริหารไปจนถึงพนักงานทุกระดับจำขึ้นใจ ไม่ต่างจากคติพจน์ที่คอยคุมชีวิตพาร์ตการงานของแต่ละคนให้แล่นล่องไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อปลายทางเดียวกันคือการเสิร์ฟความสุขผ่านมื้ออาหาร

ทำงานทำไม

เมื่อเป้าหมายของการดำรงอยู่ขององค์กรชัดเจนแล้ว ตัวพนักงานเองก็ต้องกลับไปตอบตัวเองให้ได้ด้วยว่า ลึกๆ แล้วทำไมพวกเขาถึงตื่นขึ้นมาทำงานทุกวัน

คำถามนามธรรมง่ายๆ อย่างคำว่า ‘ทำไม’ จึงเป็นการส่งสัญญาณว่า ที่นี่ต้องการคนที่อยากทำอะไรที่มากกว่าแค่ทำงาน อยากทำมากกว่าแค่ล้างจาน อยากทำมากกว่าแค่ขับรถขนส่ง อยากทำมากกว่าแค่ทำงานการตลาด 

คำว่า ‘ทำไม’ จึงทำให้งานของทุกๆ คนมีความหมายมากขึ้น ไม่ใช่การทำงานครึ่งๆ กลางๆ หรือขอแค่ให้เสร็จๆ ไปเท่านั้น แต่ทุกคนจะมีภารกิจหลักร่วมกัน ไม่ว่าจะทำงานตำแหน่งไหนก็ต่าง ‘ทำงานส่งความสุขให้ผู้คน’ เหมือนกันทั้งนั้น

วงจรความสุข

ก่อนจะส่งความสุขให้ใคร หมุดหมายแรกของบาร์บีคิวพลาซ่าคือการทำให้พนักงานทุกคนมีความสุขและได้รับการดูแลอย่างดีที่สุดก่อน เพราะความสุขจะเป็นหัวเชื้อตั้งต้นในการโอนถ่ายความสุขไปยังสายพานอื่นๆ พนักงานจึงสามารถดูแลลูกค้าได้อย่างเต็มที่เต็มความสามารถ ลูกค้าก็จะเกิดความประทับใจแล้วบอกต่อ ธุรกิจจึงแข็งแรง และธุรกิจที่มั่นคงก็จะดูแลพนักงาน เป็นวงจรไปเรื่อยๆ ซึ่งโมเดลนี้เรียกว่า ‘วงจรความสุข’

PEOPLE MANAGEMENT
สูตรลับการปรุงองค์กรให้เปี่ยมสุขฉบับบาร์บีคิวพลาซ่า

ไม่ว่าธุรกิจจะผลัดใบสักกี่ครั้ง แพสชั่น ความรัก และความภาคภูมิใจในงานของพนักงานทุกระดับ คือเชื้อไฟที่จุดให้อาณาจักรปิ้งย่างในตำนานอย่างบาร์บีคิวพลาซ่าลุกโชนชนิดไฟไม่มีมอดมากว่า 30 ปี 

จากความเชื่อตั้งแต่แรกตั้งที่เป็นหัวใจคือ การบริหารให้ยั่งยืนต้องเริ่มที่ ‘คน’ เพราะพนักงานคือจุดเริ่มต้นแห่งการส่งมอบบริการที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า หากเปรียบเปรย บาร์บีคิวพลาซ่าสมัยยังเป็นธุรกิจครอบครัวก็คงเป็นเหมือนรถขนาดเล็กแต่ไม่ไร้คานบังคับ ตอนนี้เป็นองค์กรขนาดใหญ่ ก็เป็นรถขนาดใหญ่ที่มีเพลาที่แข็งแรง 

บาร์บีคิวพลาซ่าในยุคนี้ได้นำความเชื่อและอุดมการณ์ที่มีแต่เดิมมาต่อยอดเป็นนโยบายที่เป็นรูปธรรม โดยมุ่งดูแลคนใน ก่อนจะใส่ใจคนนอก ‘คนในมีความสุข ลูกค้ารัก คนอยากมาทำงานด้วย’ ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่ลูกสาวคนโตที่วิ่งเล่นและเติบโตอยู่ในร้านบาร์บีคิวพลาซ่าตั้งแต่สาขาแรกอย่าง เป้–ชาตยา สุพรรณพงศ์ ทายาทรุ่นสองผู้คุมทัพหลักอาณาจักรบาร์บีคิวพลาซ่ายึดเป็นแนวทางในการบริหารธุรกิจเสมอมา 

รางวัลสุดยอดนายจ้าง รางวัลผู้ประกอบการดีเด่น รางวัลสุดยอดแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ และอีกสารพัดการการันตีที่แทบจะนับนิ้วไม่ไหว สูตรการบริหารองค์กรฉบับบาร์บีคิวพลาซ่าจะหน้าตาเป็นแบบไหน ไม่ต้องเสียเวลาไปเปิดตำราใดๆ ให้ยุ่งยาก เพราะเราแกะสูตรเด็ดๆ มาให้แล้ว 

ถ้าอ่านแล้วอยากเหยาะส่วนผสมเหล่านี้ลงไปในองค์กรของตัวเองบ้าง เธอก็ยินดีและไม่ได้หวงห้ามแต่อย่างใด

01 ถ่ายน้ำซุปเก่าใส่หม้อใบใหม่

“สิ่งที่เป็น DNA ของเรามาตลอดคือปรัชญาเรื่อง compassion หรือความเมตตากรุณา เพราะเราเติบโตมาจากธุรกิจครอบครัว เราเชื่อในความเป็นคน เราใช้ความอบอุ่นในครอบครัวเป็นหลักในการอยู่ร่วมกัน มีการประนีประนอมและเอาใจใส่กันแบบสมาชิกครอบครัวที่อยู่ในบ้านหลังเดียวกัน 

“พอปัจจุบันความเชื่อนี้ถูกแปรออกมาอยู่ในองค์กรขนาดใหญ่ขึ้น จากความเมตตาก็เลยตีความให้กลายเป็น ‘ความเข้าถึงง่าย’ ของผู้คนที่อยู่ในองค์กร ความหมายของครอบครัวของคนกว่า 4,000 คนในที่นี้คือความเป็นกันเอง ไม่ว่าจะเป็นผู้บริหาร-พนักงาน หัวหน้า-ลูกน้อง หรือระหว่างเพื่อนร่วมงานด้วยกัน สิ่งที่เรายังคงไว้คือความเมตตาต่อกัน อบอุ่นเป็นกันเอง นี่เป็นเอกลักษณ์ของบาร์บีคิวพลาซ่าที่เริ่มมาจากธุรกิจครอบครัวเราจึงพยายามคงสิ่งนี้ไว้ในความเชื่อเดิม แต่ด้วยความคิดที่ขยายขึ้น”

02 จุดเตาให้ร้อนด้วยวงจรความสุข 

 “บาร์บีคิวพลาซ่าเชื่อเรื่องความสุข ‘วงจรความสุข’ เลยเริ่มต้นที่การดูแลพนักงานให้มีความสุขก่อน เขาถึงจะสามารถดูแลลูกค้าได้อย่างเต็มที่ เมื่อลูกค้ามีความประทับใจ เขาจะบอกต่อและส่งแรงกระเพื่อมกลับมาทำให้ธุรกิจแข็งแรง เมื่อธุรกิจมั่นคงก็จะกลับไปดูแลพนักงานให้มีความสุข พนักงานจะรู้สึกว่าเขาจะได้รับการดูแลอย่างดีถ้าอยู่ที่นี่ แล้วถ้าบริษัททำได้จริง เขาจะสบายใจ รู้สึกมั่นคง และมีความสุข จากนั้นพนักงานก็จะไปดูแลลูกค้าให้มีความสุขต่อ และจะส่งผลดีกับธุรกิจต่อไป เป็นวงจรไปเรื่อยๆ

“เรามั่นใจว่าพอพูดอย่างนี้พนักงานย่อมจะเคลือบแคลงระแวงสงสัยว่านี่เป็นคำพูดสวยๆ หรือเปล่า แต่เราจะบอกว่าไม่ได้พูดเอาใจใคร เพราะเราทำธุรกิจก็อยากจะเห็นมันเติบโตและยั่งยืน แต่จะมีผลประกอบการที่ดีและยั่งยืนแบบนั้นได้มันต้องเริ่มต้นที่พนักงานจริงๆ อีกอย่างคือเราต้องทำให้คำว่าความสุขนั้นจับต้องได้ เราพยายามทำให้พนักงานเห็นว่าทุกการ

ตัดสินใจขององค์กรคือ Employee First พนักงานต้องมาก่อน เลยออกมาเป็นสวัสดิการต่างๆ ที่ดูแลทุกคน” 

03 คัดสรรวัตถุดิบหลัก คือมนุษย์คุณภาพสูง

“เราจะมองหาคนที่มีทัศนคติดีก่อน เพราะทักษะสามารถสอนกันได้ แต่ทัศนคติเปลี่ยนกันยาก อย่างน้อยคือต้องมีเคมีหรือช่องสัญญาณตรงกันประมาณหนึ่ง เพราะอยู่ที่นี่จะมีเคมีแห่งความบ้าๆ บอๆ มีกิจกรรมให้ทำเยอะหน่อย เราเชื่อว่าคนเก่งมีหลายไทป์ แต่ไทป์ของบาร์บีคิวพลาซ่าคือคนเก่ง ดี และให้คุณค่ากับความสุของค์รวมด้วย

“ถ้าให้ถอดออกมาเป็นทัศนคติ คือต้องมี growth mindset และทักษะการอยู่ร่วมกับผู้อื่น เพราะเราให้ความสำคัญกับคนมาก ดังนั้นคนที่จะเข้ามาอยู่ในองค์กรนี้ได้ต้องมีความสามารถในการบริหารจัดการผู้คน อยู่กับคนที่หลากหลายได้ ต้องเป็นคนอยากรู้อยากเห็น เปิดใจ หมั่นหาความรู้สม่ำเสมอ ซื่อสัตย์ เอื้ออาทรต่อผู้อื่น มีความสมดุลในการใช้ชีวิตกับการทำงาน ตกผลึกศึกษาพัฒนาตัวเองได้ กล้าคิดกล้าเสี่ยง และสื่อสารเป็น ถ้าเขามีสิ่งเหล่านี้ ไม่ว่าโลกจะ disrupt แค่ไหนก็จะปรับตัวเรียนรู้ใหม่ได้”

04 นวดไอเดียให้เข้าเส้นและซึมเข้าไปในใจ

“เราพูดกับคนในองค์กรเสมอว่ามิสชั่นหลักของเราคือ ‘การดูแลผู้คนให้มีความสุขโดยมีมื้ออาหารเป็นสื่อกลาง’ สังเกตว่าเวลาเราพูดอะไรซ้ำๆ ว่ากำลังคิดและทำอะไรอยู่มันเหมือนเป็นอุปทานหมู่ คนใหม่ที่เข้ามาก็จะทำตามๆ กันไป เหมือนถ่ายทอดความเชื่อนี้ อย่างคนที่เทรนนิ่งให้น้องๆ ก็จะพูดเรื่องนี้ ฝ่ายประชาสัมพันธ์และการตลาดเวลาพูดกับสื่อก็จะพูดเรื่องนี้ กิจกรรมในองค์กรหรือแคมเปญใดๆ ก็เกี่ยวโยงกับเรื่องนี้ ถ้าเรานวดไอเดียนี้เข้าไปบ่อยๆ เขาก็จะเชื่อและปฏิบัติอย่างนั้น”

05 ปรุงให้สุกแบบสุขๆ

“เมื่อเราเชื่อว่า Employee First กิจกรรมทางการตลาดใดๆ พนักงานจะมีส่วนร่วมก่อน ทุกแคมเปญที่คิดเพื่อลูกค้า พนักงานจะต้องได้ลองก่อน ชิมก่อน เช่น ก่อนวันเปิดสาขาใหม่หนึ่งวัน เราจะเรียกว่า ‘วันสุขใจ’ มันคือการรันระบบทุกอย่าง ดูระบบน้ำ ไฟ แก๊ส ซ้อมขายเหมือนขายจริง แต่เราจะเปิดเตาเฉยๆ ไปทำไม ก็เอาพนักงานมาลองกินกันเองเลยสิ พนักงานชุดหนึ่งเสิร์ฟ อีกชุดเป็นลูกค้า แล้วสลับกัน มีร้องเล่นเต้นรำ เล่นเกมเฮฮา 

“จริงๆ เป็นกุศโลบายให้พนักงานใหม่รู้จักเมนูอาหารด้วย เวลาขายจะได้เข้าใจว่าเสิร์ฟอย่างไร กินอย่างไร เราจะให้พนักงานจดจำว่าความสุขของบาร์บีคิวพลาซ่าหน้าตาแบบนี้ เหมือนวันนี้ที่เราได้กินอย่างมีความสุขนี่แหละ แล้ววันพรุ่งนี้เราจะส่งมอบสิ่งนี้ให้ลูกค้ากัน”

06 ยิ่งเคี่ยวนาน ยิ่งเข้มข้น

“เราทำงานเพื่อทำธุรกิจ คนทำงานก็คงไม่ได้ทำเพื่อความสุขหรือแพสชั่นอย่างเดียวเท่านั้น เราใช้หลัก engagement หรือความผูกพันของพนักงานด้วย คือคนที่ทำงานอย่างมีความสุขจะมีความผูกพันกับองค์กร เขามักพูดถึงองค์กรในทางที่ดี จะอยู่นานและทุ่มเท สามอย่างนี้องค์กรไหนๆ ก็ปรารถนา 

“ยิ่งถ้าพวกเขารู้สึกมีส่วนร่วมกับองค์กรก็จะเกิดแรงผลักดัน ต่อให้งานหนักมากแค่ไหนเขาก็จะยังมีความสุข สนุก ไม่ท้อ อย่างน้อยถ้าทำงานหนักก็ขอให้ทำอย่างมีความสุข และรู้ว่าทำไปเพื่ออะไร เราไม่ได้ทำเรื่องความสุขแค่เป็นเรื่องนามธรรม แต่เราทำเพื่อผลลัพธ์ทางธุรกิจด้วย”

07 พร้อมเสิร์ฟมื้อความสุขโดย ‘เพื่อนก้อน’

“โปรเจกต์หนึ่งที่เราไม่ต้องใช้เงินเลยสักบาทแต่ซื้อใจพนักงานได้มากๆ และสามารถทำได้ทุกวัน ทำได้กับทุกคน คือโปรเจกต์ ‘เพื่อนก้อน’ เวลาผู้บริหารเดินเข้าไปในสาขาแล้วเจอน้องๆ พนักงานเราจะจับมือ มองตา แล้วพูดว่า ‘สวัสดี เพื่อนก้อน’ 

“เวลาเราจับมือกัน เราจะรู้สึกใกล้ชิด เป็นกันเอง เพราะปกติผู้บริหารกับลูกน้องดูเหมือนอยู่คนละขั้ว แต่พอเราจับมือกัน เราใกล้ชิดกันเพิ่มอีกนิด เป็นกันเองขึ้นมาเฉยเลย ซึ่งเป็นสิ่งที่เราอยากให้เกิดขึ้นในพนักงาน 4,000 คนในฐานะครอบครัวเดียวกันด้วย 

“บางทีพนักงานก็จะพูดว่า ‘จากใจก้อน’ แล้วทำมือเป็นรูปมินิฮาร์ตใส่ลูกค้า เขาก็มั่นใจขึ้นว่าเขาไม่ใช่แค่พนักงานบริการนะ แต่เขาคือเพื่อนของบาร์บีกอน หรือ ‘เพื่อนก้อน’ เขามีตัวตน มีคุณค่า มีพลัง และมีความสนุกที่อยากจะส่งต่อ”

08 ส่งท้ายความอิ่มด้วยสวัสดิการระดับพรีเมียม

“สวัสดิการทำให้พนักงานเห็นว่าเขามีความสำคัญ เขาเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร และทุกคนมาทำงานตรงนี้เพื่อเป้าหมายที่มีร่วมกันคือการส่งความสุขสู่ผู้คนผ่านมื้ออาหาร ตัวเราที่เป็นผู้บริหารเองก็ต้องหันมาใส่ใจความสำคัญของความสุขคนในองค์กรก่อน

“เราต้องทำให้พนักงานเชื่อร่วมกันจริงๆ ว่าที่นี่คือองค์กรแห่งความสุขที่เริ่มต้นจากพนักงาน ทุกๆ การตัดสินใจก็ต้องดูว่ามันสะท้อนแนวความเชื่อของเราหรือเปล่า เลยมีการจัดทำนโยบายสวัสดิการ ‘ความสุขที่จับต้องได้’ หรือ ‘Happy 4+4’ ที่เป็นแกนสวัสดิการ 8 อย่าง คือ กินดี พักสบาย กายแข็งแรง แบ่งปันความรู้ จิตดี ครอบครัวดี มีเงินใช้ และให้สังคม”

เปิดใจ ‘บาร์บีกอน’

เชื่อว่าใครหลายคนเรียกชื่อร้าน ‘บาร์บีคิวพลาซ่า’ ว่าร้าน ‘บาร์บีกอน’ 

ความเข้าใจผิดที่มีมาอย่างเนืองๆ ไม่ได้เป็นผลร้ายต่อแบรนด์สักเท่าไหร่ เพราะดูเหมือนมาสคอตมังกรเขียวและร้านปิ้งย่างในตำนานจะหลอมรวมเป็นส่วนหนึ่งของกันและกันอย่างแยกไม่ออก เรียกได้ว่าความน่ารักของ ‘เจ้าก้อน’ ถือเป็นไพ่ใบสำคัญที่ทำให้ธุรกิจร้านปิ้งย่างประสบความสำเร็จมาจนถึงทุกวันนี้

ไหนๆ วันนี้ก็ได้มาเยือนหลังบ้านของบาร์บีคิวพลาซ่าทั้งที ชาวออฟฟิศเลยจัดเซอร์ไพรส์ให้เรานั่งคุยไขข้อข้องใจที่เคยมีทุกอย่างกับเจ้ามังกรบาร์บีกอนตัวเป็นๆ เสียเลย 

บาร์บีกอนมาจากไหน

ก้อนมาจากดาวบาร์บิกุน ดาวที่เต็มไปด้วยเนื้อคุณภาพ พร้อมเสิร์ฟในร้านบาร์บีคิวพลาซ่าเท่านั้น

ทุกวันนี้บาร์บีกอนทำอาชีพอะไรอยู่

ก้อนเป็น CEO หรือ Chief of Enjoyment Office ที่บาร์บีคิวพลาซ่า

มีความสามารถพิเศษอะไรบ้าง ไหนโชว์ให้ดูหน่อย

การปิ้งย่างคือความสามารถที่ก้อนภูมิใจ แต่ก้อนจะให้เพื่อนๆ พนักงานโชว์ให้ดูแทนว่าก้อนน่ะมีอิทธิฤทธิ์บาร์บีกอนพันมือที่เสิร์ฟจานปิ้งย่างได้แบบรวดเร็วทันใจ 

บาร์บีกอนมีความเชื่อประจำตัวไหม

ก้อนเชื่อว่าถ้าเรายิ่งส่งความสุขออกไปมากเท่าไหร่ เราก็จะยิ่งมีความสุขมากขึ้นเท่านั้น

มีของรักของหวงไหม

ผ้าพันคอและมงกุฎที่เจ้าของร้านบาร์บีคิวพลาซ่ามอบให้เป็นเครื่องหมายแทนสัญญาใจของกันและกัน

อะไรที่บาร์บีกอนโปรดปรานที่สุด

ก้อนชอบเสียงหัวเราะ ชอบการกอด ชอบสร้างรอยยิ้มให้คนรอบข้าง ชอบเห็นคนมีความสุขและได้กินของอร่อย

แล้วเกลียดกลัวอะไรที่สุด

เสียงฟ้าร้อง เพราะได้ยินแล้วนึกถึงเสียงท้องร้อง เกลียดไฟดับ เพราะทำของกินอร่อยๆ ไม่ได้

ได้ยินคนร่ำลือกันว่าบาร์บีกอนไม่ได้เป็นแค่หุ่นแข็งๆ หน้าร้าน ไหนลองเล่าให้ฟังหน่อย

ก้อนเป็นสิ่งมีชีวิต มีอารมณ์ มีความรู้สึก ก้อนเคยเสียใจ #ร้องไห้หนักมาก ตอนที่บริษัทขู่จะไล่ก้อนออกถ้ายอดขายไม่ดี ไม่ว่าใครๆ ที่อยู่ใกล้ชิดก็จะรู้สึกว่าก้อนคือมนุษย์คนหนึ่ง ไม่ได้เป็นแค่หุ่นไฟเบอร์หรือมาสคอตธรรมดาๆ 

ไหนๆ ก็ไหนๆ ถอดหัวออกมาดูหน่อยว่าเป็นมังกรจริงๆ หรือมีใครอยู่ข้างใน

บริษัทออกกฎห้ามถอดหัวก้อนเด็ดขาด เพราะทุกคนถือว่าก้อนก็เป็นเหมือนพนักงานคนหนึ่ง เป็นมนุษย์คนหนึ่งที่มีชีวิตจิตใจ 

เริ่มมีข่าวลือหนาหูว่าบาร์บีกอนเอาแต่ยืนอู้งานหน้าร้านไปวันๆ มีอะไรจะแก้ตัวหรือเปล่า

ใครที่เห็นก้อนเป็นแค่หุ่นไฟเบอร์ไว้ตั้งโชว์หน้าร้าน ขอบอกว่าคิดผิด เพราะก้อนกำลังทำงานเรียกลูกค้าอยู่ต่างหาก ก้อนยืนร่วมทุกข์ร่วมสุขกับพนักงานตั้งแต่ร้านเปิดยันร้านปิด ใครที่หาว่าก้อนยืนอู้งานไปวันๆ มันไม่ใช่อย่างนั้นเลยนะขอบอก

หลังๆ ได้ยินว่าพนักงานชอบมาขอหวยกับบาร์บีกอน จริงหรือเปล่า

ฮ่าๆๆๆ เพราะใครๆ ก็เห็นว่าก้อนเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์น่ะสิ จริงๆ แล้วที่เห็นพนักงานยืนพนมมือไหว้ก้อนหน้าร้าน ไม่ใช่เพราะมาขอหวยหรอกนะ แต่มาขอพรให้ขายดิบขายดีต่างหาก แถมบางทีก็อัญเชิญให้ก้อนไปสิงในร่างตัวเองด้วย บางทีก้อนก็ได้ยินนะว่าเพื่อนๆ พนักงานใช้ชื่อก้อนไปเป็นโค้ดเรียกตัวเองว่า ‘เพื่อนก้อน’ หรือบางทีก็ทักทายลูกค้าว่า ‘บาร์บีกอนสวัสดีครับ’ ‘บาร์บีกอนขอบคุณครับ’ ก้อนแอบยืนฟังอยู่ก็เลยเอาแต่ยืนยิ้มแฉ่งหน้าร้าน เพราะดีใจที่เพื่อนๆ นึกถึงก้อน

ทำไมบาร์บีกอนถึงหล่อเหลาเงาวับ สีไม่มีหลุดลอก ไม่มีถลอกทุกครั้งที่เจอ มีเคล็ดลับอะไรช่วยบอกกันหน่อย

ต้องขอบคุณเพื่อนๆ ที่สาขาทุกคนที่ช่วยกันเช็ดถู ดูแลรักษาให้ก้อนหล่อเหลาดูดี พร้อมรับแขกอยู่เสมอ เพื่อนๆ พนักงานจะคอยเช็กความเรียบร้อยให้ก้อน จะมีใบเช็กลิสต์เหมือนใบตรวจสุขภาพเพื่อเช็กดูว่าก้อนอยู่ในสภาพสมบูรณ์ดีไหม เช่น หาง ปีก มงกุฎ อยู่ดีไหม ถ้ามีการชำรุดเสียหายเพื่อนๆ ก็จะรีบแจ้งบริษัทให้มาซ่อมแซม ทาสีใหม่ให้ทันที ก้อนเลยหล่อเหลาเงาวับทุกครั้งที่ออกมาโชว์ตัวหน้าร้าน

เดี่ยวนี้คนชอบเรียกร้าน ‘บาร์บีคิวพลาซ่า’ เป็นร้าน ‘บาร์บีกอน’ นี่เป็นแผนการยึดบริษัทหรือเปล่า ช่วยออกมาเคลียร์ให้ชัดๆ หน่อย

ก้อนดีใจด้วยซ้ำที่คนเรียกชื่อก้อนแทนชื่อร้าน เพราะเราผูกพันแบบแยกกันไม่ออกยังไงล่ะ ก้อนไม่ได้มีแผนจะยึดบริษัทหรอก อันที่จริงก้อนเป็นแค่พรีเซนเตอร์ที่จะคอยส่งความสุขให้ทุกคน แต่จริงๆ แล้วก้อนคิดว่าพรีเซนเตอร์คนสำคัญก็คือเพื่อนๆ พนักงานทุกคนที่กำลังทำหน้าที่อย่างแข็งขันนี่แหละ

ปลายทางที่บริษัทอยากให้ลูกค้ารู้สึกผูกพันกับก้อน ก้อนเชื่อว่ามันจะประสบความสำเร็จไม่ได้เลยถ้าคนข้างในไม่เชื่อก่อน พอเพื่อนๆ พนักงานคิดว่าก้อนคือเพื่อนเขาจริงๆ และรักก้อน ลูกค้าก็เลยพลอยหลงรักก้อนไปด้วย ยิ่งเด็กๆ จะชอบก้อนมาก ชอบมากอด ชอบมาถูไถ ชอบมาถ่ายรูปกับก้อน แถมยังลากพ่อแม่เข้ามากินมื้อความสุขแสนอร่อยในร้านเราด้วย 

นี่คงเป็นสาเหตุที่ใครๆ เรียกชื่อ ‘ร้านบาร์บีคิวพลาซ่า’ เป็น ‘ร้านบาร์บีกอน’ คงเพราะพวกเขารักก้อนล่ะมั้งฮะ ลูกค้าเลยอยากจะกลับมาที่ร้านบ่อยๆ เพื่อเจอก้อน และมากินอาหารที่เสิร์ฟจากใจยังไงล่ะฮะ

7 ลักษณะพิเศษที่ใครก็ทำไม่ได้
ถ้าไม่ใช่ ‘บาร์บีกอน’

  1. เขาเรดาร์–ตรวจหาวัตถุดิบชั้นเลิศ
  2. ปีกน้อยเหินเวหา–บินแวบเดียวก็ถึงแหล่งวัตถุดิบเกรด A+
  3. หางหรรษา–วัดความสุขของเพื่อนๆ ทุกคน
  4. จมูกหยั่งรู้–แค่ดมก็รู้ว่าอาหารสุกพร้อมรับประทาน
  5. ตาทิพย์สแกนอารมณ์–ตรวจจับอารมณ์ของทุกๆ คนในร้าน
  6. มือบริการขั้นเทพ–แค่กระดิกนิ้วพนักงานก็จะมาบริการอย่างรวดเร็ว
  7. ลิ้นกูรู–ตรวจสอบคุณภาพความอร่อยแบบนักชิม

AUTHOR

PHOTOGRAPHER

สรรพัชญ์ วัฒนสิงห์

ชีวิตต้องมีสีสัน