Director: Charlie Kaufman & Duke Johnson
Region: USA
Genre: Comedy/Drama
ความรู้สึกแปลกแยกและตามหาคนที่แตกต่างเหมือนกันน่าจะเป็นใจความหลักของภาพยนตร์แอนิเมชันสำหรับผู้ใหญ่เรื่องนี้ (เพราะถูกจัดเรตไว้ 20+ ด้วยฉากเซ็กซ์ที่เราว่างดงามและเป็นธรรมชาติกว่าคนแสดงซะอีก) ผลงานกำกับเรื่องที่ 2 ของ Charlie Kaufman ถัดจาก Synecdoche, New York (2008)
แต่ถ้ายังไม่คุ้นชื่อ เขาคือคนเขียนบทหนังอาร์ตๆ อย่าง Eternal Sunshine of the Spotless Mind (2004) นั่นแหละ โดยเรื่องนี้ได้ Duke Johnson มาช่วยกำกับร่วมด้วย
เรื่องราวเกิดขึ้นภายใน 1 คืนที่โรงแรมเฟรโกลี เมืองซินซินนาติ ไมเคิล สโตน (ให้เสียงโดย: David Thewlis) หนุ่มกลางคนเจ้าของผลงานหนังสือให้กำลังใจชื่อดัง ท่ามกลางคนที่รู้จักเขามากมาย ทุกคนกลับมีใบหน้าและเสียงคล้ายกันหมดจนแยกไม่ออก (ให้เสียงโดย Tom Noonan ทั้งหมด!) จนเมื่อเขาพบกับลิซ่า (ให้เสียงโดย Jennifer Jason Leigh) หญิงสาวคนเดียวที่เขาได้ยินเสียงของเธอจริงๆ จึงมั่นใจว่านี่แหละคือคนที่จะช่วยฉุดเขาจากความน่าเบื่อชวนหลอนประสาทนี้
ยอมรับว่าหนังเล่าด้วยแกรมม่าที่แปลกและชวนตีความไม่น้อย อย่างแรกคือเสียงพูดของตัวละคร ‘คนอื่น’ ที่เป็นเสียงเดียวกันตลอดทั้งเรื่อง ทำให้ช่วงต้นๆ เราอาจต้องจูนสมองก่อนว่านั่นไม่ใช่เสียงจริงของภรรยา ลูกชาย เบลล์บอย หรือแม้แต่กิ๊กเก่าที่ไมเคิลเคยมีความสัมพันธ์ด้วย แต่เป็นเสียงแทน ‘คนอื่น’ ทั้งหมดในความคิดของเขา ถ้าเข้าใจตรรกะนี้แล้ว เราถึงจะหลุดเข้าไปอยู่ในโลกแห่งความโดดเดี่ยวที่ไมเคิลและลิซ่าเปิดเปลือยให้แก่กันได้จริงๆ
ความแปลกต่างที่ทั้งคู่พบเจอค่อยๆ เติมเต็มให้กันผ่านบทสนทนาที่ไหลลื่น บทเพลง Girl Just Want to Have Fun ที่ลิซ่าร้องให้ไมเคิล (ขอบอกว่าเป็นเวอร์ชันที่เพราะมาก) และการกระทำอบอุ่นโรแมนติกระหว่างกันที่ถ่ายทอดออกมาได้ละเอียดสมจริงที่สุด จนเผลอคิดว่าเรื่องราวจะลงเอยด้วยดีเช่นนี้ แต่ความต้องการของมนุษย์เราก็ซับซ้อนมากกว่านั้น
ภาพที่ดูแปลกตาและชวนหลอนนิดหน่อยของเทคนิคสต็อปโมชันที่หนังเลือกใช้ เลยเหมาะเจาะกับภาวะป่วยทางใจและสับสนในความสัมพันธ์ของไมเคิลได้ดี ความรู้สึกโดดเดี่ยว ไร้ชีวิตชีวา เพราะไม่มีใครเข้าใจสิ่งที่ไมเคิลเป็น เลยพยายามไขว่คว้าหาใครสักคนมาอยู่เคียงข้าง แต่ท้ายสุด เราก็บอกไม่ได้ว่าเขามองเห็นลิซ่าเป็นคนนั้นตลอดไปหรือแค่ชั่วข้ามคืน หลังพบว่าสิ่งที่เธอคิดและพูดออกมานั้น บางครั้งก็ไม่ต่างจาก ‘คนอื่น’ ที่เขาได้ยิน
เนื้อเรื่องอาจมีวูบๆ ไปบ้าง แต่เราชอบทางที่หนังเลือกจบซึ่งไม่สุขเต็มร้อยและไร้ความหวังขนาดนั้น อย่างน้อย เราก็เดินออกจากโรงด้วยความรู้สึกดีที่ยังได้ยินเสียงของทุกคนในชีวิตเป็นเสียงของเขาจริงๆ
ไม่ว่าเราจะเจอหรือยังไม่เจอ ‘คนอื่น’ ที่แปลกต่างเหมือนกันก็ตาม