‘อั้งม้อ’ เป็นคำจีนที่ใช้เรียกชาวผิวขาวโดยไม่ได้ระบุเชื้อชาติหรือสัญชาติ เหมือนกับคำว่า ‘ฝรั่ง’ ในภาษาไทย หลายคนคงเคยได้ยินการใช้สองคำนี้ร่วมกันว่า ‘ฝรั่งอั้งม้อ’
แต่อั้งม้อที่เรากำลังจะพูดถึงในที่นี้ เป็นชื่อของร้านอาหาร ซึ่งเรียกตัวเองว่าเป็นภัตตาคารจีนลูกครึ่งฝรั่ง โดยสิ่งที่ใช้เป็นตัวกำหนดคอนเซปต์ต่างๆ ของร้านนั้นมาจากสไตล์ของอาหารที่เรียกว่า ‘กุ๊กช็อป’
วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับเรื่องราวของตำรับอาหารดั้งเดิมอย่างกุ๊กช็อป ผ่านการตีความและเล่าเรื่องในแบบร้านอั้งม้อกัน
อั้งม้อเป็นร้านอาหารในเครือนารา กรุ๊ป เจ้าของร้านอาหารนารา ไทย คูซีน ที่เกิดจากความตั้งใจในการขยายธุรกิจ โดยอั้งม้อถือเป็นโปรเจกต์ใหญ่และเป็นโปรเจกต์พิเศษ เนื่องจากเป็นร้านสแตนด์อโลนแห่งแรกของเครือนาราซึ่งปกติจะอยู่ในห้าง
นาราเติบโตมาด้วยความเชี่ยวชาญด้านอาหารไทยแท้ๆ แต่มาจับอาหารกุ๊กช็อปได้อย่างไร เรื่องนี้ต้องย้อนกลับไปตอนที่เมื่อเริ่มมองหาไอเดียใหม่ ทาง ยูกิ ศรีกาญจนา เจ้าของร้านนารา ได้ไปชักชวน ภาณุ อิงคะวัต ซึ่งเพิ่งวางมือจาก Greyhound ให้มาช่วยเป็น Creative Director ให้กับโปรเจกต์พิเศษนี้ โดยหลังจากระดมสมองร่วมกันหลายครั้งก็ได้มาพบกับวัฒนธรรมอาหารกุ๊กช็อป
กุ๊กช็อปถือเป็นต้นกำเนิดอาหารฝรั่งในเมืองไทย เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 200 ปีมาแล้วในยุครัชกาลที่ 4 สมัยที่เมืองไทยพยายามปรับตัวเปิดรับวัฒนธรรมตะวันตก เพื่อให้ไม่ดูน้อยหน้าชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวตะวันตกที่พยายามเข้ามาแสดงความยิ่งใหญ่ในประเทศแถบนี้ เช่น เร่ิมมีการนุ่งกางเกง ใส่หมวก แทนการนุ่งโจงกระเบน
ในยุคนั้นเอง ไทยเริ่มมีฝรั่งเข้ามาทำงาน มีกลุ่มทูตานุทูตที่โหยหารสชาติอาหารบ้านเกิดเมืองนอน คนกลุ่มนี้ก็ไปนำเอาเชฟที่เคยทำงานให้จากเมืองจีน เช่นจากเซี่ยงไฮ้ ปักกิ่ง ไหหลำ มาเป็นพ่อครัวทำอาหารให้รับประทาน
ครั้นพอเชฟเหล่านั้นมาถึงก็ประสบกับปัญหาการขาดแคลนเครื่องปรุงต่างๆ แต่เมื่อต้องทำทั้งสเต๊ก สตูว์ สลัด ซุปแบบฝรั่ง จึงใช้เครื่องปรุงเท่าที่หาได้รอบตัว กลายเป็นอาหารฝรั่งแบบใส่ซีอิ๊วบ้าง ใส่ซอสมะเขือเทศบ้าง พลิกแพลงกันไป
ต่อมาปรากฏว่าอาหารประเภทนี้กลายเป็นที่เล่าลือว่าแปลกและอร่อย เชฟเหล่านั้นเห็นโอกาสจึงขยายตัวออกมาเปิดร้านเสียเลย ซึ่งความแตกต่างจากร้านไทยๆ ทั่วไปคือ แทนที่จะเป็นแม่ครัวใส่เสื้อคอกระเช้า นุ่งโจงกระเบน ยืนผัดอาหาร ร้านเหล่านี้กลับเป็นผู้ชายใส่ชุดขาว ใส่หมวกทำกับข้าว คนทั่วไปจึงขนานนามพ่อครัวเหล่านี้ว่าเป็นกุ๊ก และเรียกอาหารประเภทนี้ว่าเป็นอาหารกุ๊กช็อป กลายเป็นวัฒนธรรมอาหารที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว มีความผสมผสานระหว่างอาหารฝรั่ง จีน ไทย อย่างกลมกลืน
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่อั้งม้อทำไม่ใช่การหยิบยกเอาตำนานมาบอกเล่าแบบทื่อๆ แต่คือการเติมความร่วมสมัยเข้าไปในบรรยากาศของร้านและการนำเสนออาหาร จนเกิดเป็นร้านอาหารจีนลูกครึ่งฝรั่งอั้งม้อ Cook Shop Bistro Style อย่างที่เห็น
ตัวร้านอั้งม้อให้บรรยากาศคลาสสิกย้อนยุคและโมเดิร์นในเวลาเดียวกัน ตกแต่งร้านด้วยโทนสีเขียวเข้มและสีน้ำตาลเป็นหลัก วอลเปเปอร์ลายดอกโบตั๋นนั้นให้อารมณ์จีนๆ กับหน้าต่างรูปวงกลมที่ให้อารมณ์ฝรั่งๆ ถ่ายรูปออกมาสวยสุดๆ โถงบันไดกับแชนเดอเลียร์และลวดลายบนเพดาน เห็นแล้วอดคิดถึงโรงหนังสกาลาไม่ได้ ผนังกระจกสูงโปร่งเปิดรับแสงภายนอกเข้ามาเต็มๆ ทำให้ภายในร้านรู้สึกโล่งสบาย
โดยชั้นล่างของร้านนั้นให้กลิ่นอายของคาเฟ่ผสมกับแคชวลไดนิ่ง มีมุมเอาต์ดอร์ชั้นล่างสามารถพาสัตว์เลี้ยงมาได้ ส่วนชั้นบนมีห้องไพรเวท และมีมุมเอาต์ดอร์ที่เหมาะกับการมานั่งสังสรรค์ในช่วงเวลาเย็นเป็นต้นไป
สำหรับอาหารแต่ละเมนูนั้นเสิร์ฟมาในรูปแบบที่สวยงามและสร้างสรรค์ อย่างเช่น ฮะเก๋ารูปปลาทอง ไส้กุ้งผสมครีมเห็ดทรัฟเฟิล ซึ่งเป็นเมนูขวัญใจลูกค้าที่ต้องสั่งล่วงหน้าเพราะทำไม่ทัน หรือบะหมี่ราดหน้าซอสกุ้งล็อบสเตอร์จากแคนาดา ที่จัดวางล็อบสเตอร์มาทั้งตัวแบบอลังการน่ารับประทาน
จะเห็นได้ว่าความเป็นอาหารลูกครึ่งจีนผสมฝรั่งนั้นก็สะท้อนให้เห็นอยู่ในทุกเมนู ยกตัวอย่างอีกสักจานก็เช่น พอร์กช็อปที่ทอดในสไตล์จีน ราดน้ำเกรวี่เข้มข้น และใส่ถั่วลันเตาแบบฝรั่ง ซึ่งทุกเมนูเป็นสูตรของทางร้านเอง โดยนอกจากอาหารตำรับดั้งเดิมแล้ว ก็ยังครีเอตเมนูใหม่ๆ เพิ่มเติมขึ้นมาด้วย
กุ๊กช็อปเป็นอาหารที่มีเสน่ห์ต่อทั้งกลุ่มผู้ใหญ่ที่คิดถึงรสชาติของวันวาน และคนรุ่นใหม่ที่ชอบอะไรย้อนยุคและสนใจศึกษาเรื่องราวต่างๆ ของอาหาร ใครที่อยากไปลิ้มลองตำรับอาหารกุ๊กช็อปแบบอั้งม้อ แนะนำให้จองโต๊ะก่อนเพราะร้านนี้ลูกค้าแน่นมาก!
ร้าน Ang Morr อั้งม้อ
ที่ตั้ง เลขที่ 6 ซอยแสงชัย ถนนสุขุมวิท 38 พระโขนง เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร
เปิดทุกวัน เวลา 11.00 – 22.00 น.
โทรศัพท์: 02 118 3641
Facebook : ANG MORR – อั้งม้อ
ภาพ > ณัฎฐาจิตรา ชินารมย์รัตน์
