นับว่าเป็นเรื่องท้าทายไม่ใช่น้อย ถ้าได้สวมบทเป็นคนขายของออนไลน์ ที่ต้องขายสินค้าชวนแปลกตาและแต่ละชิ้นต่างมีการใช้งานเฉพาะกลุ่ม เช่น ชุดพระถัมซัมจั๋ง ตุ๊กตาลมขนาดตั้งโต๊ะ หรือไมโครโฟนจิ๋วเท่านิ้วก้อย (แถมใช้งานได้จริงด้วย)
อย่างไรก็ตามมันกลับเป็นเรื่องถนัดสำหรับเพจ ‘ขาย’ ที่สนุกในการหยิบจับของสุดแปลกตา มีขายตั้งแต่ราคาหลักสิบไปจนถึงหลักพัน นำมาพร้อมสโลแกนขายสินค้าชวนตลกขบขัน จนทำให้คนที่ไม่ได้สนใจในสินค้าเหล่านั้น กลับต้องหยุดสายตาอ่านทุกตัวอักษรและมองสินค้าด้วยความสนใจ จนบางทีเราเองยังรู้สึกเผลอใจอยากกดสั่งซื้อสินค้าของเขา แม้ว่าไม่รู้จะได้ใช้ในชีวิตจริงหรือไม่ก็ตาม

ขายชุดพระถัมซัมจั๋งในราคา 2,500 บาท
เพจขาย : ชุดไปงานแต่งเพื่อน เพื่อนบอกธีมชมพู แต่เข้าใจว่าชมพูทวีป

ขายตุ๊กตาลมในราคา 1,250 บาท
เพจขาย : ตุ๊กตาลม ขอบใจนะ ถึงแม้จะตกงานก็ยังเต้นสาวบางโพเป็นกำลังใจให้

ขายพวงกุญแจกล่องดนตรีราคา 120 บาท
เพจขาย : กล่องเพลง จอห์นคะ กว่าคุณจะได้ยินเสียงฉัน ตัวของฉันคงไปอยู่นิวยอร์กแล้ว อีกครั้งแล้วสินะที่ฉันต้องโยกย้าย
ด้วยความที่เป็นหนึ่งในลูกเพจ ติดตามเพจขายมายาวนาน จนอยากรู้จักเพจขายว่า ทำไมถึงเลือกขายสินค้าแนวแปลกตาและคิดประโยคขายของเก่งจัง จึงได้ต่อสายตรงไปคุยกับ ‘โอ เกียรติศักดิ์’ เจ้าของเพจขายบนโลกออนไลน์ที่มีผู้ติดตามกว่าแสนคนว่า เขาตั้งใจทำธุรกิจนี้ได้อย่างไรกัน
คนส่วนใหญ่มักจะรอติดตามประโยคขายของสุดขี้เล่นของเขาดังกล่าว จนบางทีในใจก็แอบคิดว่า โอทำเพจมาขายขำอย่างเดียวหรือเปล่า เขารีบตอบกลับทันทีว่า “ขายจริงครับ มีคนซื้อจริงๆ นะ” (หัวเราะ)

ขายของแปลก จากคนแปลก
แรกเริ่มการเปิดเพจขายของโอไม่มีอะไรซับซ้อน นั่นคืออยากมีรายได้เสริมและอยากขายของ จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาตั้งชื่อเพจตรงตัวคำว่า ‘ขาย’ และเลือกขายสินค้าออนไลน์นำเข้าจากต่างประเทศ เพราะมันเป็นวิธีสร้างรายได้ที่ทำด้วยตัวเองได้ง่ายที่สุดในตอนนั้น แต่คำถามที่ชวนสงสัยต่อ ว่าทำไมเขาถึงเลือกขายสินค้าแปลกตาเฉพาะกลุ่ม ที่น้อยคนจะหยิบใช้ในชีวิตประจำวัน
“ผมคิดว่าตัวเองเป็นคน…แปลก” โอพูดพลางหัวเราะ
“โอเป็นคนแปลกๆ เรารู้สึกว่า เราจะมองในมุมมองที่คนอื่นมองว่าไม่ใช่ เราก็ไม่รู้ว่ามีคนคิดแบบเราหรือเปล่า ซึ่งส่วนใหญ่จะไม่มีคนคิดแบบเราสักเท่าไหร่ ยังไงก็รู้สึกแปลกอยู่ดี ผมก็รู้สึกแปลก แต่ผมแค่แสดงออกความแปลกออกมา นำเสนอมุมมองว่ามันก็กลายเป็นแบบนี้ก็ได้”
เพราะเป็นคนแปลก เลยขายของแปลกหรอ? เราถามต่อ
“สำหรับเราสินค้าที่ขายไม่ได้มองว่าแปลก เพราะมันเป็นสินค้าที่มีขายทั่วไปอยู่แล้ว แต่ขั้นตอนในการเลือก เวลาเราเลือกดูสินค้า เราเลือกที่มันทัชใจเรา มันน่าหยิบมานะ คือใช้อารมณ์ตัดสินเลย ซึ่งสิ่งนี้มันสามารถเข้าถึงคนได้ดี แล้วค่อยมาดูกันว่า มันสามารถทำอะไรได้บ้าง แล้วก็ใส่อารมณ์ของเราร่วมไปเลย
“เพราะเราเชื่อว่า ถ้าเลือกจากสิ่งที่เราชอบก่อน มันน่าจะต้องมีคนที่ชอบอะไรแบบนี้อยู่แน่ๆ ในกลุ่มเรา เพราะเพจเรามันเริ่มต้นมาแบบนี้แล้ว มันมีคนติดตาม มันก็น่าจะมีคนชอบสไตล์แบบนี้แน่ๆ”

ขายคาแรกเตอร์ ไม่ขายตาม แต่ขายนำคนอื่น
จุดเด่นของเพจขายคือการเลือกสินค้าที่มีเอกลักษณ์ พ่อค้าแม่ค้าน้อยคนนักที่จะกล้าหยิบสิ่งของที่มีรูปลักษณ์โดดเด่นมากกว่าเน้นประโยชน์ใช้สอยที่ตอบโจทย์ในชีวิตประจำวัน อะไรคือเกณฑ์ในการเลือกสิ่งของเหล่านี้ โอตอบอย่างมั่นใจว่า ของที่มี ‘คาแรกเตอร์’
“การเลือกของที่จะมาขาย มันต้องมีคาแรกเตอร์ มีดีไซน์ที่แตกต่าง คือเราเหมือนเป็นคนประมวลผลแล้วว่า อันนี้มันมีความพิเศษในตัวเองก็จะหยิบมาเลย แต่ถ้าของนั้นมันธรรมดามาก เราจะเลื่อนหันไปเลย ยกตัวอย่างจานใบหนึ่งสีขาวแบน กับจานอันหนึ่งที่เพนต์เป็นรูปมือโดราเอมอนสอดเข้าไปในจานเฉยๆ สองอันนี้แตกต่างกันแล้วละ เพราะจานที่มีมือโดราเอมอน ถ้าเราเอาของไปวาง มันก็เหมือนโดราเอมอนหยิบของจากกระเป๋าแล้วเอามาให้คนกิน
“เรามักจะเลือกสิ่งที่มันมีกิมมิกเสมอ เช่น โอจะขายจาน มันก็ต้องเป็นจานที่ใหญ่เท่ากระทะทองแดงถึงจะเอามาขาย ซึ่งเราจะเน้นเลือกของสิ่งนั้นที่มันมีความพิเศษอะไรบางอย่าง ที่สามารถดึงมาขายในเพจขายได้ รวมถึงเราไม่ค่อยอยากขายของธรรมดาเท่าไหร่ เอาจริงขายของธรรมดายากกว่าขายของมีกิมมิกตั้งเยอะ เพราะเราต้องหาคาแรกเตอร์ให้กับของธรรมดาอีก
“อีกอย่างหนึ่งที่สำคัญ เราไม่อยากอยู่ในตลาดกลุ่มของธรรมดาที่มันค่อนข้างจะมีเยอะ ซึ่งเราไม่อยากจะอยู่ในกลุ่มที่เหมือนคนอื่นเท่าไหร่ เพราะเรามองว่ามันมีคนขายเยอะอยู่แล้ว เราก็ไม่อยากขาย สังเกตดูในเพจขายจะไม่ขายของตามกระแสมากเท่าไหร่ เช่น ที่มีตุ๊กตาเป็ดสีเหลืองยกมือขายเต็มเลย คือเราไม่ชอบขายตามคนอื่น แต่ชอบขายนำคนคนอื่นมากกว่า”

ขายขำ จากสโลแกนปั่นๆ ตามกระแส
ซิกเนเจอร์ของเพจขายไม่เพียงเลือกขายของที่แตกต่าง แต่ยังคิดสตอรีขายสินค้าโดดเด่นไม่แพ้ใคร แถมออกไปทางขายขำที่ทำให้ทุกคนเวลาไถโซเชียลฯ ต้องแชร์ต่อ ยกตัวอย่างขายตุ๊กตาลมที่ล่องลอยไปมา ใครจะไปนึกถึงสาวบางโพนั้นโก้จริงๆ ติ๊ด ตือ ติ๊ด ตะลิ๊ด เพลงของตู้ ดิเรก หรือจะเป็นขายกล่องเพลงธรรมดา ที่ทำให้นึกถึงละครสมัยก่อนอย่าง พริกขี้หนูกับหมูแฮม กับท่อนสำคัญ “จอห์นคะ กว่าคุณจะได้ยินเสียงฉัน ตัวของฉันคงไปอยู่นิวยอร์กแล้ว อีกครั้งแล้วสินะที่ฉันต้องโยกย้าย”
“เวลาเราคิดสตอรีสินค้า สนุกมากเลย บันเทิงมาก (ลากเสียงยาว) เราคิดคำดูจากสินค้าเลย แล้วหัวมันจะประเมินผลเลย ปรึ๊ดๆ เป็นคอมพิวเตอร์เลยว่าตัวนี้ เอาไปเล่นกับอะไรได้บ้าง อาจจะเป็นเรื่องในสถานการณ์ปัจจุบัน ข่าว กระแส สิ่งที่เราอ่านเจอนานแล้วตกตะกอนมา หรือว่าสิ่งที่มันอยู่ในชีวิตประจำวัน บวกกับคาแรกเตอร์ของสินค้ารวมกันแล้วก็ขายได้เลย
“เรื่องเหล่านี้ย้อนความไปตั้งแต่เด็กจนโต เราชอบอ่านหนังสือการ์ตูนมากๆ แล้วก็อ่านนิตยสารต่างๆ ชอบดูทีวี สื่อต่างๆ เราถูกเลี้ยงดูมาในห้องสี่เหลี่ยม คุณพ่อเป็นครูก็จะไปอยู่เวร คุณแม่ก็จะทำทำงานเวรดึก เราก็อยู่แต่ในห้องสี่เหลี่ยมที่ดูการ์ตูนเน็ตเวิร์กและอ่านขายหัวเราะ ออกไปซื้อการ์ตูนเล่มละ 5 บาท 10 บาทมาตั้งแต่เด็กจนถึงตอนนี้ เราว่าการอ่านมันทำให้จินตนาการได้มากกว่าการดูในจอนะบางที
“ยกตัวอย่างมันจะมีตัวหนึ่งเป็นช่วงโควิดมาพอดี รู้สึกเอาละ คนอื่นก็ขายแมส ขายที่ตรวจโควิด เราจะขายอะไรดีวะ ก็ลองเลื่อนๆ ไปเจอตัวหนึ่ง ปลอกพ่นสเปรย์แอลกอฮอล์ เป็นไก่สีเหลือง มันจะอ้าปากแล้วพ่นน้ำออกมาฟึดๆ เราก็ตั้งชื่อเป็นภาษาเหนือว่า ‘สเปรย์ไก่แก้นน้ำลาย’
“ซึ่งคำว่าแก้นเหมือนแปลว่า สำลัก แล้วเผอิญตัวนั้นไปโดนโพสต์ในกลุ่มของคนเชียงใหม่และก็คนภาคอีสาน เขาเรียนแค้นอะไรสักอย่าง แล้วคนเหนือเรียกว่าแก้น ไปโดนกลุ่มพวกนั้นพอดี เดือนนั้นมียอดสั่งซื้อสูงมาก สูงสุดในเพจเลย เป็นวันที่ใครไม่รู้เอารูปในเพจหลายรูปอยู่ ประมาณ 10 กว่ารูปไปลงในทวิตเตอร์ และก็มีคนแคปต่อ มีคนแชร์เป็นหมื่นๆ เยอะมาก เราก็เลยรู้สึกว่านี่คือช่วงพีกที่สุดของเราที่มีคนติดตามมาจากการตั้งชื่อสินค้า”

สร้างเพจไม่ต้องเป็นใคร เป็นตัวเองให้เก่ง
“แม้ว่าลูกเล่นและลีลาการขายสินค้าของเพจขายจะเป็นที่จดจำและเป็นที่พูดถึงอยู่ตลอด แต่ในทางกลับกันก็มีหลายเจ้าที่ขายสินค้าแบบเพจขาย ทั้งการคิดสตอรีและสินค้าที่เลือกมา มิหนำซ้ำ ลูกค้ายังกดซื้อเองจากแหล่งซื้อของได้เองอีกด้วย อะไรกันที่ทำให้ลูกค้ามาซื้อของที่เพจขายดีกว่า
“เพจตอนนี้มันเหมือนเป็นไดอารีที่เราจดบันทึกเล่น แต่ความพิเศษของเพจเราคือ มันมีเพื่อนของเราอยู่ในนั้นหลายแสนคน ซึ่งเรารู้สึกมันก็เป็นสังคมหนึ่งของเราดี ที่ทำให้เราสนุกกับมันด้วยและได้รายได้จากมันด้วย
“ในเมื่อของที่ขายก็สามารถหาซื้อได้ที่อื่นก็ได้ แต่อะไรที่เขาทำให้ซื้อของเรา เราคิดว่าพอเขาติดตามเพจแล้วรู้สึกประทับใจ เขาอยากซื้อและเขาก็อยากรีวิวให้เพจ คือถ้ามองในเพจ เราจะชอบเอารีวิวและแชทของลูกค้าขึ้นมาเล่นสนุกด้วย ลูกค้าที่ติดตามเรามานานที่เขาได้เป็นแฟนตัวยงจะชอบการพรีเซนต์เป็นพิเศษ
“เพราะฉะนั้น เวลาซื้อของ เขาก็จะส่งมารีวิว สามารถคุยเล่นกับแอดมินได้โดยตรง เรารู้สึกว่าน่าจะทำให้เขามีการตอบสนองกับเพจได้สนุกกว่าไปซื้อเฉยๆ ส่วนตัวก็ยังไม่ชัวร์นะ เพราะสินค้าบางชิ้น ถ้าไปดูในแอปฯ ส้มอะไรแบบนี้ ก็จะถูกกว่า รอสินค้าส่งจากจีนเหมือนกัน แต่ของเราอาจจะแพงกว่า ไม่แน่ใจว่าลูกค้าตัดสินใจจากอะไรจากเพจ ซึ่งเราก็ขอบคุณมากๆ ที่ลูกค้ายังติดตาม ยังดูอยู่แล้วสนุกมาก คลายเครียดมาก
“ส่วนหนึ่งเราใช้ตัวเองสร้างคาแรกเตอร์เพจ ในมุมมองนี้ก็อยากให้คนอื่นรู้เหมือนกันว่า มันมีคนทักมาถามว่า เราอยากจะทำเพจบ้าง ขายของอะไรแบบนี้บ้าง เราจะทำยังไง เราบอกเขาไปเลยว่า คุณเป็นคนแบบไหน ถ้าคุณเป็นคนเรียบร้อยก็ขายแบบเรียบร้อยไปแหละ คุณอย่าเชื่อว่าจะต้องไปเหมือนคนนั้น เหมือนคนนี้ แล้วจะทำให้ทุกอย่างโอเค
“พอถึงจุดนี้ที่คุณฝืนพยายามที่จะไม่เป็นตัวของตัวเอง คุณจะไม่สนุกกับมันเลย คุณจะเบื่อมันมากๆ ทันที เพราะฉะนั้นถ้าคุณจะทำอะไร หรือจะสร้างอะไรสักอย่าง ให้คุณเป็นตัวเองและขายไปเลย เชื่อสิ คนไทยมีกี่ 60 ล้านคน มันจะต้องมีคนในกลุ่มหนึ่งที่ชอบในสิ่งที่คุณเป็น ถ้าคุณเป็นคนเรียบร้อย มันก็มีกลุ่มคนเรียบร้อยของมันอยู่ เขารู้ เขาก็จะซื้อของคุณแน่ เพียงแต่เราต้องยืนหยัดในสิ่งที่คุณเป็น และสร้างจากคาแรกเตอร์ตัวคุณออกมา แล้วมันจะเป็นคุณมาก และลูกค้าก็จะซื้อเพราะความเป็นตัวคุณ ไม่ใช่คนอื่น”

บทเรียนธุรกิจออนไลน์ ขายของอย่างจริงใจต้องมาที่ 1
ปัจจุบันเพจขายเปิดขายสินค้าออนไลน์มาหลายปีและมีลูกเพจมากมายที่ยังอยู่เคียงข้างเสมอ หากถามเขาว่าปัจจัยในการทำธุรกิจที่สำคัญสำหรับเขาคืออะไร โอรีบตอบอย่างหนักแน่นว่า ‘ความจริงใจ’ ทั้งการพูดความ ‘จริง’ ในการขายของและใช้ ‘ใจ’ ในการเป็นตัวของตัวเอง
“ความจริงใจสำคัญมากที่สุด (ลากเสียงยาว) มันอาจจะฟังดูเป็นคำพูดเชยๆ เฉยๆ แต่ว่าความจริงใจมันเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในการทำธุรกิจแล้ว เช่น สินค้ามาถึงช้า โดนโกง โดนแกะหรือเสียหาย เราต้องบอกความจริงให้ลูกค้าฟังทั้งหมด เราเตรียมได้เลยว่า เราจะโดนลูกค้าด่าแน่นอน 90-100 เปอร์เซ็นต์ แต่เราจะซื้อความจริงใจของลูกค้าคืนมาทันที 100 เปอร์เซ็นต์”
“บางทีลูกค้ารอของนาน บางทีของมาไม่ถึง แน่นอนว่าโดนด่าแน่นอน ทำไมถึงนาน แต่เราจะต้องเตรียมการรับมือต่างๆ การขอโทษหากเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ส่งหลักฐานทั้งหมด รู้แหละว่าไม่พอใจ แต่เราก็จะมีการคืนเงินให้กับเขาดีกว่าแอบปกปิด ทำให้ลูกค้าไม่สบายใจทีหลัง”
“สิ่งสำคัญที่สุดอีกอย่างคือการเป็นตัวของตัวเอง การนำเสนอสินค้าในแบบที่ตัวเองอยากให้เป็น อย่าไปเหมือนใครเลยครับ เรารู้สึกเหมือนคนอื่นไปเยอะแล้ว เราเหมือนตัวเองบ้างดีกว่า บางทีตอนที่เราค้นหาตัวเอง เราอาจจะลืมมองตัวเองไปก็ได้ เพราะเราไปค้นหาตัวเองจากคนอื่นซะเยอะ ซึ่งที่จริงความเป็นตัวเองมันก็ไม่ได้หนีไปไหนไกลหรอก แค่คุณรู้ว่า ตัวเองเป็นอย่างไร แค่นั้นแหละ”
คำถามสุดท้าย ถ้าให้คุณคิดโฆษณาเพจตัวเองจะขายว่าอะไร
“เพจขาย ถ้าไม่มีคนซื้อ ก็จะขาย” โอตอบพลางหัวเราะ