Scenes by the sea

“สีชังชังแต่ชื่อ เกาะนั้นหรือจะชังใคร ขอแต่แม่ดวงใจอย่าชังชิงพี่จริงจัง…”

เสียงตามสายจากลำโพงครวญเพลงเก่าประจำเกาะรับยามเช้า แสงอาทิตย์อ่อนๆ ลูบผิวน้ำทะเลเป็นประกายระยิบระยับรับวันใหม่เรือหาปลาและตกหมึกกลับเข้าฝั่งกันหมดแล้ว เมื่อเดินออกมาที่ท่าเรือบน ฉากชีวิตที่เราพบในวันลมแรงจึงเริ่มต้นด้วยเรื่องราวของปลาหมึกขาวใส

พ่อค้ายี่ปั๊วะขับมอเตอร์ไซค์พ่วงข้างบรรทุกหมึกสดเพียบแปล้จากเรือมาส่งอย่างแข็งขัน แผ่นตากปลาหมึกถูกกางเตรียมไว้ริมทะเล หมึกขาวๆ ทั้งแบบธรรมดาและแบบมีไข่ถูกคัดขนาดและส่งต่อมาล้างทำความสะอาดที่ท่าบน หลังยืนเมียงมองอยู่ซักพัก เจ้าบ้านหนวดเฟิ้มที่ท่าเรือ ลุงวรวุฒิ รุจิโมง ก็หันมาบอกเคล็ดลับเลือกหมึกให้เราอย่างใจดี

“ดูง่ายๆ หมึกที่นี่จะตัวขาวใส หมึกบนฝั่งจะตัวแดงเพราะเก็บไว้นาน เรือตกหมึกแถวนี้จะออกไปไกลราวสิบไมล์แล้วกลับเข้ามาทุกวัน หมึกเลยสด หวานอร่อย ไม่ต้องใส่สารอะไรเลย เอาไปทอดพอเหลืองกินกับซอสพริกศรีราชานะ อร่อยมาก”

เจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลเกาะสีชัง และอดีตชาวประมงผิวเกรียมแดดอธิบายอย่างเชี่ยวชาญ ขณะที่ชาวบ้านหลายคนขี่มอเตอร์ไซค์มารับซื้อหมึกทั้งสดและตากแห้ง ลุงวรวุฒิชี้ให้ดูตะกร้าใส่หมึกที่เรียงราย

“เขาจะผ่าหมึก ควักขี้ ควักตาออก แล้วก็เอาไปตาก ถ้าหมึกไม่มีไข่จะผ่าแบนๆ อีกอย่าง ราคานี่แล้วแต่ไซส์ หมึกแดดเดียวก็ตากวันเดียว หมึกแห้งก็ตากสามวัน มีตรงจุดนี้กับตรงท่าล่างที่เป็นท่าเรือที่เรามากันนั่นแหละ”

ชาวเกาะสีชังเล่าให้ฟังต่อว่าคนเกาะยังมีอาชีพต่อยหอยนางรม มีอุปกรณ์พิเศษคล้ายตะขอ ไว้ต่อยหอยนางรมขาย และหาหอยกระปุกช่วงน้ำลงในเดือนเมษายน-พฤษภาคม โดยขุดดินตามหาดและพลิกหินหาหอยกระปุกแสนอร่อย แถมสมัยก่อนแถวนี้มีเรือลากกุ้งและปลาหาทานยากอย่างปลาดาบ แต่ปัจจุบันไม่ค่อยมีให้เห็น ของเด็ดที่มีมากตอนนี้คือปลาหมึกซึ่งจะซื้อสดๆ จากท่า หรือออกไปไดหมึกตอนกลางคืนกับเรือก็ได้เหมือนกัน เราทดกิจกรรมประมงสมัครเล่นไว้ในใจเผื่อมาแก้ตัวรอบหน้า ก่อนจะบอกลาคุณลุงไปสำรวจท่าเรืออีกมุมของเกาะ

ผัก ผลไม้ ของสดของใช้ต่างๆ จากบนฝั่งถูกลำเลียงขึ้นเกาะที่ท่าล่าง ท่าเรือใหญ่ที่ทุกคนใช้สัญจร ถนนสองฝั่งติดท่านี้จึงเป็นตลาดเล็กๆ น่าเดิน ร้านขายของสด เสื้อผ้า ตุ๊กตา ของใช้จิปาถะเปิดตั้งแต่เช้าตรู่ สินค้าอาจไม่มีเหลือเฟือ แต่ก็ครบถ้วนไม่ต่างอะไรจากแผ่นดินใหญ่ แถมยังมีซีฟู้ดสดใหม่เป็นข้อได้เปรียบ อาหารสดละลานตาทำให้กระเพาะเริ่มร้องครางหาอาหารเช้า เมื่อได้กลิ่นหอมฉุยเตะจมูกจากร้านกล้วยทอดป้าวิง เราจำเป็นต้องเดินเข้าไปซื้อของทอดร้อนๆ ตามเสียงเรียกร้องของหัวใจนอกจากกล้วยฝานแบนๆ รสกรุบกรอบ ป้าวิง ยังมีกล้วยทอดทั้งลูกที่หวานฉ่ำและนิ่มกำลังดีและมะกอกสดๆ วางขาย

“กล้วยที่งอมแล้ว ทอดไม่ได้ เราก็ประคบประหงมมัน ต้องเอาไปตากแดดก่อนแล้วทอด มันจะหวาน นิ่มเลยล่ะ ป้าลองทำเอง ส่วนลูกมะกอกนี่ไว้ใช้ตำส้มตำ ตำน้ำพริกกะปิ ชาวเกาะเขากินอย่างนี้ ปีนึงมีหนเดียวช่วงหน้าหนาว นี่ใกล้จะหมดแล้วล่ะ”

เจ้าบ้านยิ้มกว้างขณะที่เราฟังไปชิมไปลูกค้าคนอื่นๆ ทยอยมาทักทายและซื้อของไม่หยุด บรรยากาศกันเองที่ผู้ซื้อผู้ขายสนิทกันทั้งเกาะ เป็นเสน่ห์น่ารักที่ทำให้เรารู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก ความผ่อนคลายเป็นมิตรของสีชัง ทำให้เกาะนี้น่ารักน่าชังจนอยากกลับมาเยือน

“ผมก็ทำแบบนี้มาตลอด ใครมาถามอะไรเราก็ตอบ ไม่ใช่ว่าเก็บของใครมาแล้วไม่คืน นักท่องเที่ยวเขามาแล้วเราก็ต้องต้อนรับให้ดี อย่าให้เสียชื่อคนเกาะครับ”

วรวุฒิ รุจิโมง
เจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลเกาะสีชัง และเจ้าบ้านชาวเกาะสีชัง

ภาพ มณีนุช บุญเรือง

อ่านเรื่องราวแสนสุขบนเกาะสีชังเพิ่มเติมได้ทางด้านล่างนี้เลย

AUTHOR