Charming City

สกลนครเปี่ยมด้วยสีสันและเรื่องราว โดยเฉพาะเมื่อถูกเล่าโดยคนคุ้นเคย

Humans of Sakon Nakhon เพจเฟซบุ๊กสุดเก๋ทำให้เรารู้จักความสวยงามของจังหวัดนี้ผ่านโลกออนไลน์ ทั้งภาพถ่ายและเรื่องเล่าสั้นๆ ที่หยิบแง่มุมน่ารักของเมืองสกลมาสื่อสารกับคนรุ่นใหม่อย่างมีชีวิตชีวา เมื่อเดินทางมาถึงสกลนคร เราพูดคุยกับกลุ่มเจ้าบ้านหนุ่มสาวผู้อยู่เบื้องหลังแฮชแท็ก #VerySakhon

“เราได้แรงบันดาลใจมาจาก Humans of New York หรือเพจ Humans ต่างๆ นั่นแหละครับ คือเราอยากนำเสนอสกลในรูปแบบใหม่ๆ ไม่ใช่ในแบบเมืองท่องเที่ยวที่คนรู้จักกันอยู่แล้ว”

นุ-วิษณุ พชรโชค อธิบายขณะที่เพื่อนๆ พยักหน้าอย่างเห็นพ้องต้องกัน เมื่อพูดคุยกันถูกคอ กลุ่มหนุ่มสาวที่กลับมาสืบทอดกิจการของที่บ้านจึงตัดสินใจถ่ายทอดความเป็นสกลในรูปแบบที่พวกเขาชอบ

“หลักๆ เราจะลงภาพถ่ายสิ่งที่เราเห็นแล้วรู้สึกว่าสก๊ลสกล คนสกลเห็นแล้วต้องรู้ คำว่า ‘เวรี่สกล’ เลยเป็นคำจำกัดความของเรา ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ ของกิน หรือคนที่เราเห็นตั้งแต่เด็กๆ เช่น คนขายขนมโตเกียวหน้าโรงเรียน หรือคนส่งหนังสือพิมพ์” ฟ้า-ชลธิชา อิทธิสมบัติ และ พอย-ธัญญพัทธ์ ภิญโญชัยอนันต์ กล่าวเสริม “นอกจากสื่อสารกับคนภายนอก มันเลยโดนใจคนในจังหวัดด้วยค่ะ”

“มันเป็นความกดดันตั้งแต่ผมไปเรียนกรุงเทพฯ เพื่อนถามว่าสกลนครมีอะไรบ้าง คนจะคิดว่าบ้านเราลำบาก ทั้งที่จริงๆ บ้านเราอุดมสมบูรณ์มาก เลยอยากเล่ามาตั้งนานแล้ว อึดอัดใจ” เน-อเนชา สุขเกษม และ เสือ-ธรรมวิทย์ ลิ้มเลิศเจริญวนิช ช่างภาพหลักของเพจอธิบายที่มาของรูปสวยๆ ในเพจ “เราอยากนำเสนอบ้านเกิด ที่นี่แหละทำให้เราเติบโตมา คือเมืองมันไม่ได้โตไปตามยุคตามสมัย จริงอยู่เมืองมันขยาย แต่ความเป็นสกลมันยังอยู่ บุคคลหรือสภาพแวดล้อม นิสัยความเป็นสกลมันก็ยังอยู่”

ความใจดี ความสนุกสนาน สำเนียงอีสานแบบช้าๆ ของชาวเมืองหนองหานยังคงหล่อเลี้ยงอดีตเมืองขอมโบราณ สถานที่รวมวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ของผู้คนจาก 7 เผ่าพันธุ์ และแหล่งของกินอร่อยแทรกตัวอยู่ในความทรงจำและชีวิตประจำวันของพวกเขาและเธอ และกลายเป็นความสนุกที่ได้ถ่ายทอดความรักบ้านเกิดแบบไม่แสวงหากำไร

“สกลมีมุมดีๆ เพียงแต่ว่าไม่เคยเล่าออกไปเยอะแยะ ภาพที่เราแต่ละคนอยากเล่าก็แตกต่างกัน ส่วนตัวเราอยากเสนอความน่ารัก ความงาม หรือแม้กระทั่งความไม่เรียบร้อย ทุกอย่างเป็นองค์ประกอบของสกล ต่อไปเราอาจจะมีวิดีโอสัมภาษณ์หรือบทสัมภาษณ์ในเพจค่ะ และในอนาคตก็อาจจะจัดนิทรรศการภาพถ่ายหรือทำทริปเที่ยว เพราะเราก็ต้อนรับคนกันเยอะอยู่แล้ว”

อิ๋ม-รติกร ตงศิริ กล่าวยิ้มๆ เจ้าบ้านหนุ่มสาวแนะนำสถานที่น่าไปในจังหวัดอย่างออกรส ก่อนพาเราไปทำความรู้จักเมืองแบบเวรี่สกล

ชาวมนุษย์สกลนครพาเราเวิร์กช็อปย้อมผ้าครามที่ร้าน ‘ศักดิ์ดา ครามสกล’ ร้านเสื้อผ้าและผลิตภัณฑ์ครามแนวมัดย้อมและ patchwork ที่ปะติดปะต่อภูมิปัญญาโบราณกับแฟชั่นได้เก๋ไก๋ลงตัว พี่ศักดิ์ พาเราไปหลังร้านที่มีหม้อครามตั้งเรียงอย่างเป็นระเบียบ เสื้อและผ้าสีขาวฟ้าอวดโฉมไม่ซ้ำกันบนราวตากผ้า การเวิร์กช็อปที่นี่สามารถติดต่อล่วงหน้าเพื่อให้ทางร้านจัดเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อมก่อนแขกมาถึง

เราล้างมือและแขนให้สะอาด เจ้าของร้านใจดีส่งเสื้อยืดขาวเรียบและผ้าเช็ดหน้าให้เรานำไปแช่น้ำซักครู่ ก่อนจะพับหรือมัดผ้าให้เป็นลวดลายตามต้องการ และส่งถุงมือยางให้เราสวม

“ถ้าได้อยู่กับครามจะรัก ครามมันมีชีวิตครับ แต่ละหม้อจะให้สีไม่เหมือนกันเสียทีเดียว แต่ก่อนจะย้อมเราต้องมั่นใจว่าสะอาด เพราะเครื่องสำอางหรือสิ่งแปลกปลอมบนผิวจะทำให้หม้อป่วยได้”

พี่ศักดิ์เปิดฝาหม้อคราม ตักน้ำในหม้อออกขันนึง และปล่อยให้เราก้มลงดูหม้อสีน้ำเงินข้น กลิ่นครามที่เป็นเอกลักษณ์ลอยคละคลุ้ง

“จุ่มผ้าลงน้ำให้ท่วม ค่อยๆ บีบไปเรื่อยๆ 30 ครั้ง ก่อนพลิกด้านแล้วบีบใหม่ ทำประมาณ 3 ครั้ง ยิ่งย้อมมากหลายๆ หม้อ สีจะยิ่งเข้มขึ้นครับ”

ผ้าขาวในมือดูดสีครามอย่างว่องไวเมื่อเราปฏิบัติตาม ทุกรอยยับจะกลายเป็นลายเฉพาะตัวของผืนผ้า เราบีบผ้าจนเปียกหมาดเพื่อนำไปตาก เจ้าบ้านหนุ่มเทน้ำครามที่ตักแยกไว้ในขันลงหม้อไปผสมใหม่ หม้อครามจะใช้เวลาอีกหนึ่งวันเต็มๆ เพื่อฟื้นเม็ดสีให้กลับมาย้อมได้ดีอีกครั้ง

กลิ่นครามหอมจางๆ ติดผ้ามัดย้อมที่เราได้ลงมือทำด้วยตนเอง ย้ำเตือนแรงอุตสาหะของการย้อมและทอผ้าด้วยสีธรรมชาติ เรากลับออกจากร้านศักดิ์ดาด้วยความตื่นเต้นกับเฉดสีสวยของสกลนคร

สีฟ้าน้ำเงินละลานตารอคอยเราอยู่ที่ถนนผ้าคราม ชาว Humans of Sakon Nakorn ชี้ทางให้เราเยี่ยมชมแหล่งท่องเที่ยวที่เปิดทุกวันเสาร์-อาทิตย์ บนถนนเส้นยาว เฉดครามสร้างสรรค์ของฝากแตกต่างหลากหลาย ทั้งผ้าทอผ้าถุงลายวิจิตรจากอำเภอต่างๆ ที่เหมาะกับการแต่งกายทางการ เสื้อผ้ามัดย้อมหรือทอลายเก๋ไก๋จากผู้ประกอบการรุ่นใหม่ และของแต่งบ้านและของใช้กระจุกกระจิกน่ารัก ตลาดชั่วคราวเปิดโอกาสให้เจ้าบ้านและนักท่องเที่ยวได้สนทนาซื้อขาย แลกเปลี่ยนรอยยิ้มในบรรยากาศดนตรีสดตั้งแต่ช่วงบ่ายแก่ๆ จนพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า เราหอบหิ้วของฝากและความสุขเต็มมือไม้ เตรียมพับผืนผ้าใส่กระเป๋าเดินทาง และเก็บพลังงานจากสกลนครใส่ในหัวใจ

จิตวิญญาณหนุ่มสาวถ่ายทอดความน่ารักน่ามองของเมืองหนองหาน ยิ่งเข้าไปทำความรู้จักเบื้องหลังเรื่องเล่าเสน่ห์สกลนครที่เราค้นพบก็เข้มข้นจนตกหลุมรักโดยไม่ทันรู้ตัว

“เราอยากเล่าเรื่องสกลนครเหมือนเล่าให้เพื่อนฟัง ทำให้เขาเห็นความธรรมดาของบ้านเรา ว่าเรากิน อยู่ ใช้ชีวิตกันแบบนี้ ไม่ได้พยายามประดิษฐ์ แต่มีของดีซ่อนอยู่เยอะแยะที่เราอยากเก็บรักษาและถ่ายทอดออกไป”

ผู้ดูแลเพจ Humans of Sakon Nakhon และเจ้าบ้านชาวเมืองสกลนคร

ภาพ มณีนุช บุญเรือง

อ่านเรื่องราวดีๆ เจือสีครามจากสกลนครได้ที่ด้านล่างเลย

AUTHOR