Agnes of God : เมื่อแม่ชีกลายเป็น ‘แม่คน’ เมื่อเหตุผลปะทะศรัทธา

กำกับ: Peter O’Neil
สถานที่: Peel the Limelight Studio

1

ปี 2014, สำนักชีแห่งหนึ่งในเมือง Rieti ประเทศอิตาลี

Roxana Rodriguez แม่ชีวัย 31 ปีถูกนำส่งโรงพยาบาลกะทันหันหลังจากปวดท้องอย่างรุนแรง ก่อนที่เธอจะให้กำเนิดทารกเพศชายโดยมิได้คาดหมายมาก่อน แม่ชีให้สัมภาษณ์ว่า “ฉันไม่ทราบมาก่อนว่าตัวเองตั้งครรภ์ มันแค่รู้สึกเจ็บท้องเท่านั้น”

เธอตั้งชื่อลูกชายว่าฟรานซิสตามพระนามของพระสันตะปาปาองค์ปัจจุบัน ในตอนนี้ โรซานนากล่าวว่า เธอรู้สึกถึงความเป็น ‘แม่’ มากกว่าเป็น ‘แม่ชี’ เสียแล้ว

บาทหลวง Benedetto Falcetti เชื่อว่าแม่ชีผู้นี้เริ่มตั้งครรภ์ขณะกลับไปต่ออายุพาสปอร์ตที่เอลซัลวาดอ บ้านเกิดของเธอ และพ่อของเด็กน่าจะเป็นคนรักเก่าของเธอ

2

ปี 2011, จังหวัดชุมพร ประเทศไทย

ด.ญ.สุ (นามสมมติ) อายุ 14 ปี ถือศีลนุ่งขาวห่มขาวเป็นแม่ชีอยู่ที่วัดแห่งหนึ่งในชุมพร เพื่อจะได้อยู่ดูแลช่วยเหลือยายซึ่งบวชเป็นแม่ชีอยู่ที่วัดเดียวกัน แม่ชีสุให้การว่า ตนถูกพระสมชาย พระลูกวัดวัย 42 ข่มขืนกระทำชำเราในห้องเก็บของของวัดหลายครั้ง แต่ตนไม่กล้าบอกใคร จนกระทั่งเริ่มเกิดอาการคลื่นไส้และรอบเดือนไม่มาติดต่อกัน 2 เดือน เมื่อตัดสินใจบอกกับแม่และซื้อแผ่นทดสอบการตั้งครรภ์จากร้านขายยามาตรวจ ผลปรากฏว่าเธอตั้งครรภ์มา 1 เดือนแล้ว

3

ปี 2015, ชายฝั่งรัฐฟลอริดา

จากการวิเคราะห์ DNA ของปลาฉนากกว่า 190 ตัวบริเวณชายฝั่งของรัฐฟลอริดา นักวิทยาศาสตร์พบว่าปลาตัวเมียปรับตัวให้สามารถสืบพันธ์ุได้โดยไม่ต้องอาศัยปลาเพศผู้ได้ ในทางวิทยาศาสตร์เรียกวิธีดังกล่าวว่า Parthenogenesis ซึ่งเป็นการสืบพันธ์ุแบบไม่อาศัยเพศของสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าพืชและสัตว์มีกระดูกสันหลังบางชนิดอย่างมังกรโคโมโดและฉลามหัวค้อนใช้การสืบพันธุ์วิธีนี้ด้วย แต่ก็พบว่าสัตว์มีกระดูกสันหลังที่เกิดจากการสืบพันธุ์แบบนี้มักจะไม่แข็งแรงและเสียชีวิตในเวลาต่อมา

Parthenogenesis มีที่มาจากคำว่า pathenos ในภาษากรีก มีความหมายว่า บริสุทธิ์ และคำว่า genesis แปลว่าการสร้างขึ้นหรือการกำเนิด Parthenogenesis จึงมีความหมายตามคำศัพท์ว่า “การกำเนิดอันบริสุทธิ์”

4

ปี 2018, Peel the Limelight Studio กรุงเทพมหานคร

ในโรงละครขนาด 60 ตารางเมตร รองรับผู้ชมได้ไม่กี่สิบคน ครึ่งหนึ่งของห้องถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นสำนักนางชีที่ปิดตายจากโลกภายนอกและอีกครึ่งหนึ่งกลายเป็นห้องตรวจของจิตแพทย์

เรื่องราวเริ่มขึ้นเมื่อมีคนพบทารกกลายเป็นศพในสำนักชี ผู้ให้กำเนิดเด็กน้อยคือแม่ชี Agnes วัย 21 ปี เธอค่อนข้างจะเป็นคน ‘พิเศษ’ เพราะแอกเนสนั้นแสนซื่อบริสุทธิ์ยิ่งกว่าผ้าขาว โลกของเธอไม่ได้กว้างใหญ่ไปกว่าขอบรั้วของอาศรม อย่าว่าแต่จะไปมีอะไรกับใครเลย แม่ชีสาวไม่รู้ประสีประสา เธอไม่รู้ว่าตัวเองตั้งครรภ์ ไม่รู้จักโลกภายนอก ไม่รู้จักการร่วมเพศ และไม่รู้ว่าเด็กเกิดมาได้อย่างไรด้วยซ้ำ

แม่ชีมาเรียม คุณแม่อธิการผู้ปกครองอารามเป็นผู้นำแอกเนสมาพบจิตแพทย์ตามคำสั่งศาล 90 นาทีของการแสดงดำเนินไปกับการควานหาคำตอบว่าทารกกำเนิดขึ้นมาได้อย่างไรและใครเป็นคนฆ่าเด็ก

โลกเร้นลับหลังบานประตูที่ปิดมิดชิดมักเป็นที่สนอกสนใจของผู้คนภายนอกเสมอ Agnes of God คือบทละครที่โด่งดังของ John Pielmeier นักเขียนบทชาวอเมริกัน ตัวบทเขียนขึ้นตั้งแต่ปี 1978 และได้สร้างเป็นละครบรอดเวย์หลายครั้ง และถูกดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ในปี 1985 กำกับโดย Norman Jewlson

ล่าสุด คณะละคร Peel the Limelight นำโดย Peter O’Neil และ Jaime Zúñiga ผู้สั่งสมประสบการณ์ในแวดวงละครเวทีระดับโลกมาหลายสิบปี ได้หยิบบทละครเรื่องนี้มาปัดฝุ่นอีกครั้งโดยแสดงเป็นภาษาอังกฤษประกอบซับไตเติลภาษาไทย

นักแสดงและผู้ชมอยู่ในพื้นที่ที่ห่างกันแค่เอื้อมมือในห้องเหลี่ยมสีดำขนาดย่อม เข้ากันดีกับการจำลองเขตพรตหรือขอบเขตของอารามที่ถูกล้อมด้วยกำแพงอย่างมิดชิดเพื่อแยกเหล่านักพรตหญิงออกจากโลกภายนอก แม่ชีที่อาศัยในเขตพรตเรียกกันว่าชีลับหรือชีมืด ด้วยเธอเหล่านั้นอุทิศทั้งชีวิตที่เหลือเพื่อรับใช้พระเจ้าในเขตแดนของอาราม หันหลังให้กับญาติมิตร ตัดขาดจากโลกภายนอก (สำนักเช่นนี้ีมีอยู่ในไทยด้วย เช่น อารามคาร์แมล ถนนคอนแวนต์ ย่านสีลม)

ในฉากที่เรียบง่ายมีนักแสดงหญิงเพียง 3 คน ได้แก่ Claire Stanley ผู้ชนะรางวัลนักแสดงหญิงยอดเยี่ยมจาก Bangkok Theatre Festival 2017, ฮีน-ศศิธร พานิชนก ผู้เข้าชิงรางวัลนักแสดงหญิงยอดเยี่ยมจาก Thailand National Film Association Awards และสิรี ริ้วไพบูลย์ ผู้เข้าชิงรางวัลนักแสดงหญิงยอดเยี่ยมจาก Bangkok Theatre Festival 2015 ด้วยฝีไม้ลายมือที่ไม่ธรรมดาของพวกเธอทำให้ผู้ชมรู้สึกถึงความปั่นป่วนของคลื่นอารมณ์กับความคิดที่ซัดสาดเข้าหากันไปมา บรรยากาศหมอกมัวของความหม่นหมองทำให้ทั้งสมองและหัวใจของผู้ชมตื่นตัวเต็มที่

จุดเด่นของบทละครเรื่องนี้คือการตั้งคำถามกับความยึดมั่นถือมั่นในความเชื่อของมนุษย์ ในขณะที่แม่ชีแอกเนส (แสดงโดย สิรี ริ้วไพบูลย์) เชื่อในพระเจ้าสุดกายสุดใจ เรื่องที่ผู้อื่นคิดว่าเหนือธรรมชาติและอธิบายไม่ได้กลับเป็นเรื่องธรรมดาสามัญสำหรับเธอ แอกเนสทั้งล่วงรู้เหตุการณ์ในอนาคต และได้ยินเสียงของทูตสวรรค์ ตัวละครคู่ตรงข้ามของเธอคือ Dr.Martha (แสดงโดย ศศิธร พานิชนก) จิตแพทย์ประจำศาล ในสมัยเด็ก มาร์ทาเสียเพื่อนคนหนึ่งไปด้วยอุบัติเหตุ ซิสเตอร์ที่โรงเรียนบอกว่าเคราะห์ร้ายนั้นเกิดเพราะเธอขาดสวดมนต์ในตอนเช้า มาร์ธาตั้งคำถามว่าทำไมพระเจ้าไม่เอาชีวิตของเธอไปทั้งๆ ที่เธอก็ขาดสวดมนต์เหมือนกัน ประสบการณ์ชีวิตหลายอย่างทำให้เธอหันหลังให้ศาสนา และมุ่งศึกษาปรากฏการณ์ทางจิตใจด้วยวิธีการทางวิทยาศาสตร์ และถือตรรกะเหตุผลแทนพระเจ้าองค์เดิม

ตัวละครสุดท้ายคือ แม่ชีอาวุโสมาเรียม (แสดงโดย Claire Stanley) ผู้ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวทั้งทางโลกและทางธรรมมาแล้ว เธอผ่านการเป็นแม่คนมาก่อน รวมถึงผ่านประสบการณ์ทั้งรักและศรัทธาอย่างเอ่อล้นจนถึงการหมดศรัทธาเกือบทิ้งศาสนาไว้เบื้องหลัง แม่ชีมาเรียมเหมือนจะมีมุมมองทั้งสองด้าน เธอเห็นว่าโลกได้เปลี่ยนไปแล้ว ศาสนามีทั้งด้านที่ปลอบโยนและทารุณ ผู้คนสมัยใหม่ไม่เชื่อในปาฏิหาริย์อีกต่อไป อย่างไรก็ตาม เธอยังยืนยันการใช้ทั้งเหตุผลและศรัทธาในการปกป้องสิ่งที่ตนเองเชื่อ

ถึงแม้เรื่องราวที่เกิดขึ้นในอารามนักบวชในคริสตศาสนาดูจะห่างไกลสังคมไทยเหลือเกิน แต่เราอย่าลืมว่าสังคมที่เราอยู่ก็ดำรงอยู่บนพื้นฐานของความเชื่อนานัปการ (ที่อาจจะรุนแรงกว่าสังคมอื่นด้วยซ้ำ) ความศรัทธาสุดประมาณที่ไม่เหลือพื้นที่ให้กับตรรกะเหตุผลและการตั้งคำถาม หรือการยึดมั่นในกฎเกณฑ์โดยที่ไม่เหลือที่ยืนให้กับมนุษยธรรม ย่อมนำไปสู่จุดจบที่ไร้ทางออก เหตุการณ์เช่นนี้หรือเปล่าที่เกิดขึ้นซ้ำๆ ในบ้านเกิดเมืองนอนของเราเอง

Agnes of God แสดงรอบแรกในวันที่ 8 มีนาคม วันสตรีสากล ไม่ใช่เพื่อการเฉลิมฉลอง แต่ชวนให้สังคมพินิจพิเคราะห์เบื้องหน้าและฉากหลังของความเป็นผู้หญิง ในขณะที่โลกตื่นตัวกับแคมเปญอย่าง #MeToo หรือ #TimesUp หลายคนกล่าวว่านี่เป็นแสงสว่างของพลังการต่อต้านการคุกคามทางเพศ ละครเวทีเรื่องนี้เลือกที่จะส่องสำรวจพื้นที่ภายในหลืบเงาที่แสงนั้นยังสาดส่องเข้าไปไม่ถึง แน่นอนว่าน่าจะยังคงมีผู้คนที่หลบซ่อนอยู่ในเงามืดนั้นอย่างหวาดผวา และเราก็ไม่เคยมองเห็นพวกเธอเหล่านั้นเลย


Agnes of God โดย Peel the Limelight จะจัดแสดงอีก 2 รอบ ในวันพฤหัสบดีที่ 22 และศุกร์ที่ 23 มีนาคม 2561 ที่ Peel the Limelight Studio ชั้น 2 อาคาร Jasmine City BTS อโศก

ติดตามข่าวสารของการแสดงได้ที่ facebook | Peel the Limelight

http://www.peelthelimelight.com

AUTHOR