Shigeru Ban, เมือง Milan และอีกมากมายที่กำลังร่วมออกแบบ ‘อนาคต’ กับประเทศสิงคโปร์
สิงคโปร์เป็นประเทศที่พัฒนาตัวเองไม่เคยหยุด สังเกตได้จากการก่อสร้างที่ไม่เคยหมด สถานที่ใหม่ๆ โครงการใหญ่ๆ เกิดขึ้นตลอดเวลา และในตอนนี้สิงคโปร์ก็กำลังจับมือกับนานาประเทศเพื่อ ‘ออกแบบ’ หนทางสู่อนาคตและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
เมื่อปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา Singapore Design Council ได้นำเสนอ ‘Singapore Design Week 2024’ ในธีม ‘Designing Futures’ โดยครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากประเทศต่างๆ ทั่วโลกอย่างน่าประทับใจ
ด้วยความที่สิงคโปร์เป็นประเทศที่มีธุรกิจและลงทุนจากประเทศใหญ่ๆ ของโลกเป็นทุนเดิม การสร้างความร่วมมือในเรื่องการพัฒนาประเทศ จึงเป็นเรื่องที่ตามมาเป็นลำดับ
ประเด็นต่างๆ ที่สิงคโปร์กำลังมุ่งเป้าไปเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต มีทั้งเรื่องสถาปัตยกรรมและความยั่งยืน ธุรกิจและการออกแบบ สุขภาพกายและสุขภาพใจ
สถาปัตยกรรมและอนาคตแห่งความยั่งยืน (Design for the Future of Sustainability)
ความยั่งยืนคืออะไร?
ความยั่งยืนก็คือการที่เราสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างมีคุณภาพ ตั้งแต่ตอนนี้ไปจนถึงในระยะยาว
ภาพของความยั่งยืนในสายตาของประเทศสิงคโปร์ คือสภาพภูมิประเทศที่ปลอดมลพิษ ธรรมชาติกับมนุษย์ที่อยู่ร่วมกันอย่างสมดุล ความเจริญของเมืองและธรรมชาติที่เป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน และผู้คนที่ใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพ
แล้วส่วนสำคัญที่สร้างให้เกิดสิ่งเหล่านี้ได้ก็คือ ‘สถาปัตยกรรม’
ชิเงรุ บัง (Shigeru Ban) สถาปนิกอันดับต้นๆ ของโลกชาวญี่ปุ่น มาร่วมบรรยายและแสดงความคิดเห็นในเรื่องอนาคตของความยั่งยืน
ลักษณะเฉพาะของสถาปัตยกรรมในแบบของ ชิเงรุ บัง คือการสร้าง ‘ที่อยู่อาศัย’ และ ‘ที่พักพิง’ ของมนุษย์ ด้วยการผสมผสานวัสดุจากธรรมชาติอย่างไม้และวัสดุรีไซเคิล เข้ากับนวัตกรรมทางสถาปัตยกรรม ผลงานของ ชิเงรุ บัง มีทั้ง Mount Fuji World Heritage Center ที่จังหวัดชิซึโอกะของญี่ปุ่น อาคาร Center Pompidou แห่งใหม่ในฝรั่งเศส (ร่วมกับสถาปนิกชาวฝรั่งเศสชื่อว่า ‘Jean de Gastines’)
แล้วในครั้งนี้ ชิเงรุ บัง ได้มาร่วมแชร์มุมมองของเขาให้กับชาวสิงคโปร์ได้รับฟังกัน…
ส่วนในภาคธุรกิจ สิงคโปร์มาพร้อมกับแบรนด์มูจิ เพื่อแสดงถึงตัวเลือกที่นำสู่ความยั่งยืนจากมุมมองของธุรกิจแฟชั่น
เสื้อผ้าแต่ละชิ้นที่มนุษย์สวมใส่ และปริมาณเครื่องแต่งกายที่ธุรกิจผลิตแฟชั่นขึ้นมา แบรนด์สามารถเพิ่มการใช้เส้นใยธรรมชาติในการทอเสื้อผ้า และนำเทคนิควิธีจากท้องถิ่นมาเข้ามาใช้
ในปีนี้มูจิจึงได้ทำงานร่วมกับดีไซเนอร์ชาวสิงคโปร์ในหัวดังกล่าว เพื่อให้หนทางสู่ความยั่งยืนใกล้เข้ามามากยิ่งขึ้น
ธุรกิจและการออกแบบ
‘ธุรกิจ’ ขับเคลื่อนให้สิงคโปร์เป็นประเทศแถวหน้าทางด้านเศรษฐกิจ การที่สิงคโปร์และเมืองมิลานจัดทำโครงการความร่วมมือระหว่างดีไซเนอร์ชาวสิงคโปร์และอิตาเลียน นับว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของความร่วมมือของทั้งสองประเทศ
เมือง ‘มิลาน’ เป็นศูนย์กลางทางด้านธุรกิจและการออกแบบของประเทศต้นแบบงานดีไซน์ของโลกอย่างอิตาลี เมืองมิลานมีความเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจบนรากฐานอารยธรรมที่เก่าแก่ ทำให้มิลานกับสิงคโปร์เป็นส่วนผสมที่ลงตัว
ในช่วงเทศกาลงานออกแบบสิงคโปร์ 2023 ที่ผ่านมา สิงคโปร์และเมืองมิลานจึงแสดงให้โลกเห็นว่าอะไรจะเกิดขึ้นเมื่อการออกแบบมาพบกับวัฒนธรรมและนวัตกรรม ผลลัพธ์ก็คืองานดีไซน์ที่ตอบโจทย์ทั้งเรื่องการใช้งานและรูปลักษณ์ที่น่าพึงพอใจ จากวัฒนธรรมที่แข็งแกร่งในแบบของสิงคโปร์และอัจฉริยภาพทางการออกแบบของอิตาลี
สุขภาพกาย สุขภาพใจ
ชาวสิงคโปร์ใส่ใจสุขภาพเป็นอันดับหนึ่ง ตามแนวคิดของการแพทย์แผนจีนและอินเดีย โดยมีความเชื่อว่าร่างกายเป็นศูนย์รวมของพลังในการดำเนินชีวิต จึงไม่แปลกที่จะพบเห็นร้านขายสมุนไพรและยาตามหลักแพทย์แผนจีน และคลินิกอายุรเวทตามย่านต่างๆ ในสิงคโปร์
เนื่องจากสุขภาพที่ดีเป็นเรื่องพื้นฐานของชีวิต งานออกแบบเพื่อสุขภาพจึงหยั่งรากลึกในชีวิตประจำวันของชาวสิงคโปร์ ขนาดที่การออกแบบบรรจุภัณฑ์ของผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ในสิงคโปร์ไม่ลืมที่จะคำนึงถึงการตอบโจทย์การใช้งานและประสบการณ์ของผู้ใช้ ไม่ใช่เรื่องความสวยงามเพียงอย่างเดียว
ลองคิดดูว่าจะเป็นอย่างไรถ้าผู้สูงอายุแกะบรรจุภัณฑ์ขวดยาไม่ออก?
หรือว่าถ้าของเหลวหกในกระเป๋าขณะโดยสารรถไฟใต้ดินในชั่วโมงเร่งด่วน
ชีวิตประจำวันของชาวสิงคโปร์ไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องพื้นฐานเหล่านี้ จึงสามารถใส่ใจเรื่องอื่นๆ ในชีวิตได้
แต่ไม่เพียงแต่เรื่องสุขภาพกายเท่านั้น ‘สุขภาพใจ’ ก็กำลังเป็นประเด็นสำคัญในสิงคโปร์
ตามสถานีรถไฟ MRT จะพบเห็นป้ายรณรงค์เรื่องการใส่ใจ ‘ความรู้สึก’ ของผู้อื่น เนื่องจากมนุษย์ต้องอยู่ร่วมกัน การดูแลความรู้สึกของกันและกันจึงเป็นสิ่งที่พึงกระทำ
สำหรับภาคการศึกษา โครงการงานออกแบบของมหาวิทยาลัยหลายแห่งก็มุ่งเน้นในเรื่องนี้
การทำให้ทุกคน ‘มีส่วนร่วม’ และ ‘เป็นส่วนหนึ่ง’ ของสังคม (Inclusivity) ทั้งเด็ก ผู้สูงอายุ คนที่มีโอกาสน้อยกว่าเรา และทุกๆ คน เป็นสิ่งที่กำลังถูกพูดถึงในตอนนี้
เพราะสภาพจิตใจเป็นสิ่งที่จับต้องได้ยาก แตกต่างจากสุขภาพกายที่เพียงแค่ตรวจเช็คก็ทราบผล แต่ความรู้สึกของมนุษย์ไม่เคยอยู่นิ่ง ผันแปรตลอดเวลา ทำให้การ ‘ดูแล’ ความรู้สึกเป็นเรื่องท้าทาย
ประกอบกับการระบาดของไวรัสโควิดตั้งแต่เมื่อหลายปีก่อน สภาพจิตใจของมนุษย์จึงเก็บซ่อนความกลัวและหวาดระแวงเข้าไปในเลเยอร์ที่ลึกมากไปกว่าเดิม
แล้วเราจะสร้างอนาคตที่ดีกว่าเดิมได้อย่างไร?
สิงคโปร์เป็นประเทศแถวหน้าของเอเชียและในระดับโลก ซึ่งทุ่มเทความพยายามค้นหาเส้นทางสู่ ‘วันพรุ่งนี้’ ที่ดีขึ้น
หลายสิ่งประสบผสสำเร็จออกมาให้เห็นในปีนี้ แต่ก็ยังมีอีกมากมายหลายอย่างที่จะนำมาออกมาพูดถึงในปีต่อ ๆ ไป
อย่างน้อยเราก็เชื่อมั่นได้ว่าอนาคตที่ดีกว่าจะต้องมาถึงในเร็ววันนี้