SELF COMPASSION ถึงเวลาที่ฉันต้องให้อภัยและใจดีกับตัวเองบ้าง

บ่อยครั้งที่เราต่อว่าตัวเองแม้ว่าทำผิดพลาดไปเพียงเล็กน้อย

บ่อยครั้งที่เราโทษตัวเองเวลาที่ทำอะไรก็ไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง

บ่อยครั้งที่เราเข้มงวดกับตัวเองเกินไปจนไม่อนุญาตให้ตัวเองมีความสุข

เราทุกคนล้วนมีแนวโน้มที่จะตั้งมาตรฐานสูงเกินไปสักหน่อยในบางครั้ง เราเข้มงวดถึงขั้นตำหนิตัวเองในเรื่องต่างๆ จนทำให้ตัวเองรู้สึกไม่มีความสุข หรือบางคนที่ยึดติดกับความผิดพลาดของตัวเองในอดีตมากเกินไปจนทำให้ไม่สามารถใช้ชีวิตก้าวต่อไปข้างหน้าได้อย่างเต็มที่ 

ทั้งๆ ที่รู้ว่าทุกคนต่างเคยทำผิดพลาดกันบ่อยครั้ง แต่ทำไมเราถึงให้อภัยตัวเองได้ยากจัง?

จากข้อมูลในหนังสือ ‘ไม่ต้องทำเหมือนว่าโอเคทุกวันก็ได้’ ของ โช ยูมี (Jo Yumi) ริก แฮนสัน (Rick Hanson) นักจิตวิทยาด้านประสาทวิทยา ได้บอกไว้ว่าการที่มนุษย์เราจดจ่อกับข้อมูลในแง่ร้ายมากกว่าในแง่ดีเป็นวิวัฒนาการเพื่อรักษาชีวิตรอด เพราะความผิดพลาดเพียงเล็กน้อยอาจจะส่งผลกระทบยิ่งใหญ่ อย่างการล่าสัตว์ที่ไม่สำเร็จจนอาจจะทำให้ถึงขั้นที่เราต้องอดอาหาร ในกรณีที่ต้องเผชิญหน้ากับสัตว์ร้าย หรือแม้แต่การกินผลไม้มีพิษก็อาจจะกลายเป็นอุปสรรคใหญ่ในชีวิตได้ทันที ซึ่งเป็นสัญชาตญาณของมนุษย์จากวิวัฒนาการดังกล่าว จึงเป็นผลทำให้เรากังวลใจว่า ทำไมสิ่งนี้ถึงไม่ดี ควรแก้ไขยังไง และต้องมีการจัดเตรียมแผนสำรองอย่างไรบ้าง อคติในแง่ลบจึงไม่ใช่เรื่องที่แย่เสมอไป เพราะความรู้สึกผิดหรืออับอายก็เป็นการตอบสนองอีกทางหนึ่งที่จะช่วยให้เราได้เรียนรู้จากความผิดพลาดเหล่านั้น แต่หากมากเกินไปก็อาจจะทำให้เราเป็นทุกข์ได้เช่นกัน ดังนั้นการใจดีกับตัวเองจึงเป็นเรื่องสำคัญสำหรับทุกคน

Self Compassion หรือ ความเมตตาต่อตัวเอง คือการยอมรับความไม่สมบูรณ์แบบของตัวเอง โดยไม่คิดโทษตัวเองและเข้าใจว่าการทำผิดพลาดเป็นเรื่องปกติที่สามารถแก้ไขได้ หากเรามี Self Compassion ต่อตัวเอง จะช่วยลดภาวะวิตกกังวล ซึมเศร้า และความเครียดได้ นอกจากนี้หากเราฝึกฝนที่จะเมตตากับตัวเองจนกลายเป็นนิสัยก็จะทำให้เราสามารถใช้ชีวิตต่อไปข้างหน้าได้อย่างมีความสุข ด้วยวิธีดังต่อไปนี้

ยอมรับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น

เมื่อเราทำผิดพลาดในชีวิต เราต้องคิดไว้เสมอว่าความผิดพลาดสามารถเกิดขึ้นได้เสมอ เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นเราเองก็อาจจะไม่เคยมีประสบการณ์ในเรื่องนั้นมาก่อน จึงไม่แปลกเลยถ้าเราจะทำผิดพลาดในเรื่องที่เราไม่รู้ ดังนั้นการมองตัวเองในแง่ลบหรือกล่าวโทษตัวเองซ้ำๆ จากความผิดพลาดของตัวเองก็ไม่มีประโยชน์อะไร

ต้องรู้จักปล่อยวางความผิดพลาดในอดีต

การที่เราจะให้อภัยตัวเองได้ เราต้องรู้ว่าอะไรคือสิ่งที่เป็นอุปสรรคในจิตใจที่ขัดขวางทำให้เราไม่สามารถก้าวต่อไปข้างหน้าได้ ดังนั้นการจัดลำดับความคิด อารมณ์ และพฤติกรรมของตัวเอง จึงเป็นอีกทางหนึ่งที่จะช่วยให้เราปล่อยวางความผิดพลาดในอดีตและให้อภัยตัวเองได้ง่ายขึ้น

เรียนรู้และแก้ไขจากประสบการณ์ที่เคยทำพลาด

เราทุกคนต่างก็เคยพบเจอกับความผิดพลาดและความล้มเหลวทั้งนั้น ในฐานะที่เราเป็นมนุษย์คนหนึ่งก็ต้องอนุญาตให้ตัวเองมีข้อบกพร่องบ้าง แต่เราต้องเรียนรู้จากความล้มเหลวหรือความผิดพลาดนั้นด้วยการใช้ประสบการณ์ที่เกิดขึ้นมาแก้ไขหรือปรับปรุงเพื่อไม่ให้เกิดขึ้นซ้ำอีกในอนาคต กลายมาเป็นบทเรียนให้เราได้เติบโต และก้าวไปข้างหน้าโดยไม่เสียใจและเจ็บปวดอีกต่อไป

ให้โอกาสตัวเองได้เริ่มต้นใหม่โดยไม่ต้องรู้สึกผิด

บ่อยครั้งที่ความผิดพลาดมีอิทธิพลทำให้คนเรากลัวการเริ่มต้นใหม่ แต่หากมองในอีกมุมหนึ่ง ความผิดพลาดนั้นก็กลับกลายมาเป็นบทเรียนราคาแพงให้กับชีวิต เราควรเริ่มต้นใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบันโดยที่เราไม่ต้องรู้สึกผิดกับตัวเองอีกต่อไป แน่นอนว่าเราก็คงไม่สามารถให้อภัยตัวเองสำหรับความผิดพลาดที่เกิดขึ้นได้อย่างทันที แต่เวลาก็จะช่วยเยียวยาให้เราก้าวข้ามผ่านความรู้สึกผิดในใจไปได้ในที่สุด

ท้ายที่สุดแล้ว ความผิดพลาดเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่ทุกคนต้องเคยพบเจอ เราควรโอบรับทุกส่วนที่เราเป็นและใจดีกับตัวเองให้มากๆ ถึงแม้จะรู้ดีว่าตัวเองยังมีข้อบกพร่อง ดีไม่พอ เก่งไม่พอ แต่สิ่งสำคัญคือเราควรจะตระหนักไว้เสมอว่าทุกคนก็มีข้อดี ข้อเสีย มีทั้งสิ่งที่ทำผิดพลาดและทำสำเร็จ เพราะเราทุกคนต่างก็เป็นแค่มนุษย์คนหนึ่งที่ไม่สมบูรณ์แบบ 

อ้างอิง

https://shorturl.at/uwCQU

https://shorturl.at/uIMX6

ILLUSTRATOR

banana blah blah

นักวาดภาพประกอบ ที่ชอบกินอาหารสุกๆดิบๆ เป็นชีวิตจิตใจ ส่วนชีวิตนั้นก็สุกๆดิบๆไม่ต่างกัน