ช่วง 2 – 3 ปีที่ผ่านมาชื่อของ อินิโอะ อาซาโนะ (Inio Asano) เริ่มถูกพูดถึงในบ้านเรามากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยเพราะมังงะของเขามีลิขสิทธิ์แปลไทยให้อ่านแล้ว ไม่ว่าจะ Solanin (เพลงนี้ของเราสองคน) Goodnight Punpun (ฝันดีนะปุนปุน) Dead Dead Demon’s Dededede Destruction และหลังจากนี้น่าจะมีเรื่องอื่นตามมาอีก
อาซาโนะได้ความนิยมในญี่ปุ่นพอสมควร ผลงานของเขาจึงถูกดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ไลฟ์แอคชันมาแล้วถึง 3 เรื่อง ได้แก่ Solanin (2010 – หญิงสาวที่สูญเสียแฟนหนุ่มนักดนตรี) A Girl on the Shore (2021 – หนุ่มสาวในเมืองชายทะเลแสนหดหู่) และ Downfall (2023 – นักเขียนวัยกลางคนประสบวิกฤตทั้งด้านอาชีพและชีวิตแต่งงาน) แต่สำหรับ Dead Dead Demon’s Dededede Destruction นั้นต่างออกไปเพราะมันถูกดัดแปลงเป็นแอนิเมชัน
Dead Dead มีความเป็นไซไฟ มีมนุษย์ต่างดาว มียานอวกาศ มีฉากระเบิดตูมตาม ถ้าทำเป็นหนังไลฟ์แอคชันคงใช้เงินมหาศาล (และอุตสาหกรรมภาพยนตร์ญี่ปุ่นค่อนข้างจะอ่อนแอในเรื่องคอมพิวเตอร์กราฟิก) การทำเป็นอนิเมะเลยดูเป็นทางเลือกที่ถูกต้อง โดย Dead Dead แบ่งเป็นหนัง 2 ภาค เข้าฉายโรงที่ญี่ปุ่นในช่วงมีนาคมและพฤษภาคม 2024 และเอามาตัดต่อใหม่พร้อมเพิ่มฉากพิเศษ กลายเป็นอนิเมะ 18 ตอน สตรีมทาง Crunchyroll ในช่วงพฤษภาคมถึงกันยายน (อนึ่ง Crunchyroll มีบริการในไทยแล้ว แต่ซับไตเติลไทยยังน้อยอยู่)
เรื่องราวของ Dead Dead ว่าด้วยโตเกียวยุคอนาคตที่อยู่ดีๆ มีจานบินขนาดยักษ์มาลอยเท้งเต้งอยู่บนฟ้า จากนั้นมนุษย์ต่างดาวคล้ายคนแคระใส่หมวกกันน็อกลงมายังพื้นโลก รัฐบาลเรียกพวกเขาว่า ‘ผู้บุกรุก’ นอกจากนั้นยังมีข่าวลือสารพัดชวนสับสน ทั้งเรื่องรังสีอันตรายจากยานอวกาศ หรือตัวยานที่สักวันอาจจะร่วงลงมาจนเกิดระเบิดครั้งใหญ่และนำไปสู่วันสิ้นโลก
จากย่อหน้าที่แล้ว Dead Dead ดูเป็นอนิเมะโลกแตกหรือเอาชีวิตรอด หากแต่มันยังคงลายเซ็นของอาซาโนะที่พูดถึง ‘ชีวิตเรื่อยเปื่อยของวัยรุ่นหนุ่มสาว’ ในผลงานเกือบทุกเรื่อง เช่นนั้นแล้วแม้จะมีฉากหลังเป็นยูเอฟโอลำมหึมา เหล่าตัวละครใน Dead Dead กลับใช้ชีวิตตามปกติต่อไป ไปโรงเรียน ไปเรียนพิเศษ ไปเกมเซ็นเตอร์ ไปทัศนศึกษา ไปเดต ซึ่งมันทำให้ผู้เขียนนึกถึงผู้คนในยูเครน สงครามรัสเซีย-ยูเครนดำเนินมาตั้งแต่กุมภาพันธ์ 2022 ช่วงแรกชาวยูเครนลี้ภัยออกนอกประเทศ แต่ภายหลังมีจำนวนมากที่ตัดสินใจกลับประเทศ เหล่าผู้ใหญ่เข้าออฟฟิศทำงาน เมื่อมีระเบิดก็วิ่งไปยังหลุมหลบภัย ส่วนเด็กประถมย้ายไปเรียนในสถานีรถไฟใต้ดินเพื่อความปลอดภัยจนกลายเป็นข่าวไวรัลทั่วโลก
แต่ใช่ว่าตัวละคร Dead Dead จะใช้ชีวิตกันอย่างสุขสบาย ช่วงแรกเราอาจรู้สึกว่าทำไมเนื้อหามีแต่กิจกรรมสามัญนั่นนี่ของเหล่าเด็กสาว แต่เมื่อเรื่องดำเนินไป เนื้อหาเริ่มเข้มข้นขึ้น โลกภายนอกทวีความตึงเครียด กองกำลังรัฐบาลสังหารผู้บุกรุกอย่างดุเดือด ส่วนตัวเอกเผชิญกับปัญหาหัวใจ คนหนึ่งหลงรักอาจารย์ตัวเอง ส่วนอีกคนตกหลุมรักกับมนุษย์ต่างดาว นี่คือความชาญฉลาดของ Dead Dead ที่เล่าความล่มสลายของโลกกับความว้าวุ่นในใจตัวละครคู่ขนานกันไป
ในแง่โปรดักชัน ต้องชมเชยว่าสตูดิโอ Production +h. ทำอนิเมะเรื่องนี้ออกมาได้ดี ภาพสวยงาม การเคลื่อนไหวลื่นไหล ฉากแอคชันตระการตา ไม่ใช่งานเผาแบบอนิเมะหลายๆ เรื่อง (อย่างล่าสุดคืออนิเมะ Uzumaki ของจุนจิ อิโตะ ที่คุณภาพน่าผิดหวังในหลายจุด) นอกจากนั้นยังมีความเก๋ไก๋ด้วยการเรียงลำดับการเล่าเรื่องไม่เหมือนฉบับมังงะ เช่นว่าตอนแรกสุด Flash forward ไปเล่าเหตุการณ์ในอนาคตก่อนเลย ทำเอาคนงงกันใหญ่ ดังนั้นแม้จะเคยอ่านมังงะมาแล้ว การดูอนิเมะ Dead Dead ก็ได้รสชาติที่ไม่ซ้ำเดิม
อีกสิ่งที่ต้องชื่นชมคือการพากย์เสียง ปฏิเสธไม่ได้ว่า Dead Dead ได้รับความสนใจเพราะตัวเอกทั้งสองพากย์เสียงโดยศิลปินชื่อดังอย่าง Lilas Ikuta แห่งวง YOASOBI และ ano นักร้องสาวมาแรงแห่งยุค สำหรับผู้เขียนแล้วทั้งคู่สอบผ่านฉลุยในฐานะนักพากย์ โดยเฉพาะ ano ที่รับบท อนทัง เด็กสาวที่ดูเผินๆ อาจจะดูติ๊งต๊องและน่ารำคาญ แต่ช่วงหลังอนทังได้แสดงถึงด้านที่เปราะบางและอ่อนโยน ซึ่ง ano ก็พากย์เสียงได้อย่างน่าเชื่อถือ
ในฐานะที่อ่านงานของอาซาโนะเกือบทุกเรื่อง ผู้เขียนคิดว่า Dead Dead เป็นผลงานที่แตกต่างจากงานก่อนหน้าของเขาอยู่ไม่น้อย ประการแรกคือมีเรื่องการเมืองอย่างชัดเจน ปกติแล้วงานอาซาโนะจะเน้นความปัจเจกและความสับสนตัวเองของตัวเอก แต่ Dead Dead มีเรื่องการเมืองระหว่างประเทศ เช่น ความขัดแย้งระหว่างนายกญี่ปุ่นที่เป็นเพียงหุ่นเชิดกับประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาที่ดูยังไงก็รู้ว่าล้อเลียน โดนัลด์ ทรัมป์
ด้านการเมืองในประเทศคือการปะทะกันระหว่างกลุ่มปกป้องสิทธิของผู้บุกรุกกับแก๊งไล่ฆ่าผู้บุกรุก สิ่งที่น่าสนใจคือปกติหนุ่มสาวญี่ปุ่นจะขึ้นชื่อเรื่องการไม่ค่อยมีส่วนร่วมทางการเมือง เช่น ม็อบประท้วงใดๆ จะเห็นแต่คนสูงวัยหรือสัดส่วนวัยรุ่นที่ไปเลือกตั้งก็น้อยมาก แต่ใน Dead Dead เราจะเห็นหนุ่มสาวพาตัวเองกระโจนเข้าไปยังเรื่องการเมือง แต่ก็ชวนขบคิดว่าพวกเขาทำไปด้วยอุดมการณ์หรือเพียงเพื่อเหตุผลเชิงปัจเจกกันแน่
ส่วนข้อแตกต่างประการที่ 2 ของ Dead Dead คือ มันดูจะคลี่คลายอย่างมีความหวังหรือไม่ได้มีฉากหดหู่มากนัก อาจเพราะอาซาโนะเคยนำเสนอความดำดิ่งถึงที่สุดมาแล้ว ใน Goodnight Punpun คือความสิ้นหวังของวัยรุ่น อันสะท้อนถึงความคับข้องใจของเขาช่วงวัยรุ่น ส่วน Downfall เป็นความสิ้นหวังยามเติบโตเป็นผู้ใหญ่ ซึ่งน่าจะอ้างอิงจากชีวิตของอาซาโนะอยู่ไม่น้อย เพราะตัวเอกเป็นนักเขียนเหมือนกัน อย่างไรก็ดี สำหรับ Dead Dead อาซาโนะใช้เวลาเขียนยาวนานถึง 8 ปี (2014 – 2022) เขาผ่านช่วงวัย 30 ไปถึง 40 ผ่านช่วงที่โดดเดี่ยว มีคนรัก แต่งงาน (แต่ปัจจุบันเขาแยกทางกับภรรยาแล้ว) อาจเรียกได้ว่าอาซาโนะเข้าสู่เฟสใหม่ของชีวิต และมองโลกด้วยสายตาที่สงบสุขุมมากขึ้น
ทั้งนี้มีข้อสังเกตส่งท้ายถึงชื่อเรื่องที่ว่าเล่นเสียงซ้ำว่า ‘Dededede Destruction’ มันอาจเป็นแค่การยียวนของอาซาโนะ แต่ก็สอดคล้องกับตัวเรื่อง Dead Dead ที่ตัวเอก (ซึ่งคนหนึ่งมีฉายาว่า Demon) จะต้องผ่านความเจ็บปวดอยู่หลายครั้ง ทั้งการทำร้ายจากคนรอบข้าง และการทำลายล้างตัวเอง แต่ท้ายสุดแล้วเมื่อตัวละครผ่านพ้นวงจรเหล่านั้นมาได้ พวกเขาก็กลายเป็นคนที่เติบโตมาโดยมีความสงบทางใจมากขึ้น นี่อาจเป็นสิ่งที่อาซาโนะต้องการสื่อสารกับผู้คนผ่านผลงานชิ้นนี้ก็เป็นได้