เมื่อไม่นานนี้ เรามีโอกาสได้ไปดูงานวิทยานิพนธ์แฟชั่น FASH17 ปี 2017 ของนักศึกษาคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ แนวคิดการจัดงานทุกปีคือ Thai Wisdom ที่สร้างความแปลกใหม่ให้เสื้อผ้าด้วยการนำศิลปะและประเพณีไทยมาใส่ มีทั้งเทคนิคการถัก
การปัก การลงสี แบบไทยๆ ซึ่งอาจจะฟังดูธรรมดา แต่ความโดดเด่นของงานคือนักออกแบบทุกคนนำโจทย์ไปผสมกับแนวทางเฉพาะตัว
จนทำให้ความเป็นไทยไปไกลเกินกว่าที่เราจินตนาการ
เราลองมาดูตัวอย่างผลงานของนักศึกษากันดีกว่า
เริ่มด้วยงานของ
ข้าวหอม-ปวริศร์
สุขุกุมารชาติ
ที่ได้แรงบันดาลใจจากการ์ตูนชื่อดังทางช่อง
Cartoon
Network อย่าง KIDS NEXT DOOR
ซึ่งเกี่ยวกับเด็กๆ ที่รวมตัวกันออกไปทำภารกิจต่างๆ ด้วยของใช้รอบตัวมาประยุกต์กับการละเล่นของเด็กไทย
ทำให้งานชิ้นนี้ดูมีความซุกซนของเด็กๆ
แต่ก็ยังแฝงไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ในการรวมสิ่งของและเสื้อผ้าเข้าไว้ด้วยกัน เช่นเอากระสอบทรายที่ใช้เล่นวิ่งกระสอบมาทำเป็นเสื้อผ้า
หรือเอาไม้มาทำเป็นอาวุธของเล่น ประดับเป็น accessories
คงไม่มีใครนึกว่าตุงกับมโหตร (ของประดับของชาวล้านนา) จะเอามาทำเป็นเสื้อผ้าได้ แต่
แชมป์-ปราโมทย์ เตชะวิเชียร ได้เอาของประดับสองชิ้นนี้มาดัดแปลงใช้กับผ้า
และสร้างสรรค์เป็นชุดที่เรียกเสียงฮือฮาได้มากที่สุดชุดหนึ่งในงาน แชมป์ยังได้แรงบันดาลใจมาจากหนังเรื่อง Equal
ซึ่งเกี่ยวกับมนุษย์ที่ถูกห้ามไม่ให้มีความรู้สึก มีการใช้เสื้อผ้าที่ค่อนข้างดูทางการเพื่อแสดงถึงกฎที่ปิดกั้นความคิดและความรู้สึกของมนุษย์
แต่ยังมีพุ่มน้อยๆ คล้ายดอกไม้เล็ดลอดออกมาจากเสื้อผ้า ซึ่งแสดงถึงความเป็นมนุษย์ที่เล็ดลอดออกมาอยู่ดี
ส่วนด้าน เก๋–กมลวรรณ ชาตะเมธีวงศ์ ก็ได้เอาแนวคิดเรื่องการย้อมสีเสื้อผ้าด้วยพืชจากหมู่บ้านคีรีวง
จังหวัดนครศรีธรรมราช มาใช้ในการทำเสื้อผ้า และยังมีการใช้ดอกไม้มาตกแต่งเป็นรายละเอียดทำให้เสื้อผ้าดูเด่นขึ้น
เรียกว่าเป็นแรงบันดาลใจจากธรรมชาติก็ว่าได้ ทำให้ชุดดูร่วมสมัยมากทีเดียว
ต่อด้วยงานของ นัดดา-ณัฐธิดา โชคมีทรัพย์ นักออกแบบอีกคนที่ได้รับแรงบันดาลใจจากหนัง
The Pillow
Book หนังเกี่ยวกับเด็กสาวที่คลั่งไคล้งานกวีและงานเขียนบนร่างกาย
เช่นเดียวกับนัดดาที่ชอบงานสัก และได้ถ่ายทอดความหลงใหลลงบนชุด
งานนี้ไม่ได้มีดีแค่ไอเดียเท่านั้น
แต่ยังได้เทคนิคการย้อมผ้าบาติกมาทำให้ลวดลายบนชุดดูมีชีวิตชีวาและโดดเด่นมากขึ้นด้วย
ขอปิดท้ายด้วยคอนเซปต์สุดแหวกแนวของ กอล์ฟฟี่-ศุภกร บัวเรือน ที่พูดถึงความตายผ่านเสื้อผ้า
ประหนึ่งจัดงานศพไว้อาลัยให้ความทรงจำของตัวเองแบบไทยๆ ผ่านชุดที่โดดเด่นมากสองชุดคือ
ชุดที่นำผ้าดิบห่อศพมาตัดพร้อมทำพวงหรีดติดแขนเสื้อ อีกชุดหนึ่งเขาเอาไปเคลือบเรซิ่นเพื่อแสดงถึงความทรงจำที่จับต้องไม่ได้ ในงานกอล์ฟฟี่เปลือยกายเดินถือผลงานเคลือบเรซิ่นนี้เองด้วยความภาคภูมิใจ
นับเป็นงานที่เรียกเสียงฮือฮาได้มากที่สุดเลยก็ว่าได้
ภาพ Bone China
ภาพ Semic0lon
จากที่ได้เห็นงานของน้องๆ นักออกแบบหน้าใหม่ เราเชื่อว่าพวกเขาจะเป็นพลังใหม่ให้วงการแฟชั่นแน่นอน
ภาพ ปวริศา สันติวิริยกาญจน์ และ Semic0lon/Bone China