JOY TABLE ตารางพื้นที่ความสุขเล็กๆ ที่มีแรงบันดาลใจจาก Little Forest

“ทุกๆ คนมีความฝันและมีสิทธิ์ที่จะทำความฝันนั้นให้เป็นจริง”

ประโยคนี้อาจเป็นประโยคที่เราพบในภาพยนตร์ชวนฝันบ่อยๆ แต่พอเวลาค่อยๆ ผ่านไป ความฝันพวกนี้คงเป็นเพียงความฝันที่อยู่แต่ในความคิด หลายคนอาจต้องยอมแพ้ ทิ้งความฝันของตัวเอง แล้วทำตามสิ่งที่โลกแห่งความเป็นจริงต้องการ

ทันทีที่เราก้าวเข้าไปในร้านขนาดเล็กกว่าคอนโดมิเนียมขนาดหนึ่งห้องนอน มวลความอบอุ่นปะทะกับจิตใจอันว้าวุ่นของคนวัยค้นหาตัวเอง ค่อยๆ ชวนให้เรานั่งลงตรงโต๊ะบาร์ หายใจ และมองสิ่งรอบตัวให้ช้าลง แสงแดดยามบ่ายลอดผ้าม่าน สร้างไออุ่นละมุนละไมให้กับทุกคนที่แวะเวียนเข้ามา บรรยากาศและอัธยาศัยของ จอย-จุฑามาส ชัยเมือง ทำให้ JOY TABLE คาเฟ่ขนาดเล็กแห่งนี้รวยความอบอุ่นและความเป็นกันเอง เหมือนตัวตนของหญิงสาวเจ้าของร้าน

“เราอยากทำอะไรที่มันเป็นตัวของเราเอง”

คำพูดของจอยสะกิดใจของคนที่กำลังวิ่งตามหาความฝันของตัวเองในเมืองหลวงอันยิ่งใหญ่ จอยเป็นอีกหนึ่งคนที่มีความฝันลอยๆ มาตลอด แต่วันนี้เธอได้ทำความฝันให้เป็นจริง จากภาพยนตร์เรื่องหนึ่งที่เปรียบเสมือนตัวจุดประกายหลักให้เธอลุยเดี่ยวไปตามชนบทที่ญี่ปุ่น จนเกิดมาเป็นร้านอาหารเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยความสุขของเธอ

จากภาพยนตร์สู่การเดินทางประกอบสร้างตัวตน

“เราจบวารสารฯ มา แต่ก็ล่องลอยไปเรื่อยๆ เพราะไม่ชอบงานในระบบ เรารู้ตัวว่าเราชอบถ่ายรูป ชอบทำอาหาร อยากให้คนมีความสุขจากสิ่งที่เราทำ แต่เหมือนเราไม่มีโอกาสได้ลงมือทำสักที มีวันหนึ่งเราได้ดูหนังเรื่อง Little Forest เหมือนกับว่าหนังเรื่องนี้เป็นแรงบันดาลใจหลักที่ทำให้เราตัดสินใจสร้างร้านนี้ขึ้นมา”

ภาพยนตร์เรื่อง Little Forest ดัดแปลงมาจากการ์ตูนมังงะเกี่ยวกับอิจิโกะ หญิงสาวในเมืองใหญ่ที่มีโอกาสกลับไปใช้ชีวิตที่บ้านเกิด ซึบซับกับธรรมชาติรอบตัวต่างๆ เหมือนกับที่จอยได้มีโอกาสไปญี่ปุ่นและซึบซับบรรยากาศ ความอบอุ่น และความใส่ใจจากคนที่นู่นกลับมา

“บางคนดูหนังเรื่องนี้แล้วอาจรู้สึกว่ามันไม่มีอะไร ก็แค่การใช้ชีวิตและทำอาหาร ดูเนิบช้าเกินไปด้วยซ้ำ แต่ไม่รู้ทำไมเราดูแล้วตาวาวเลย เรากลับมาดูซ้ำหลายรอบมาก เพราะรู้สึกว่าเราอยากมีชีวิตแบบนั้น จากเราที่เคยเป็นเหมือนไข่ในหินที่ยังไม่กะเทาะออกมา หนังเรื่องนี้กลับทำให้เรากล้าไปเที่ยวญี่ปุ่นคนเดียว กล้าทำในสิ่งที่ท้าทายตัวเองมากๆ

“เราจำได้ว่า เราออกเดินทางเพราะอยากไปซึบซับอารมณ์ที่ดูมาจากหนัง ไปตามที่ที่ไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยว บวกกับเราเป็นสายธรรมชาติด้วย เราชอบความรู้สึกที่ได้ไปเที่ยวคนเดียว ไปตามภูเขาและหมู่บ้านเล็กๆ ต่างๆ ตามใจตัวเอง ตามความสุขของเรา ยังจำความรู้สึกที่ไปอุทยานทากายามะ เมืองนากาโนะได้ ระหว่างทางก็มีเหนื่อยบ้าง แต่พอถึงยอดแล้วก็เกิดความรู้สึกที่เราไม่เคยเจอมาก่อน ได้สูดลมหายใจลึกๆ นั่งชมวิวรอบตัว แล้วได้ถอนหายใจยาวๆ เรามีความสุขมาก”

ต้นแบบแรงบันดาลใจจากญี่ปุ่น

ทันทีที่ก้าวเท้าแรกเข้ามาในคาเฟ่ เราแทบไม่ต้องเดาเลยว่า การจัดวางสิ่งของ รายละเอียดต่างๆ ในร้าน ไม่ว่าจะเป็นหน้าต่างที่จัดไว้ให้นั่งชมสวนผัก ผ้าม่านที่ทำมาจากผ้าดิบ จานชามเซรามิกสีอ่อน สิ่งของเล็กๆ น้อยๆ ที่จอยคัดสรรมาจัดวางนั้น แสดงถึงกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นอย่างชัดเจน

“อย่างหน้าต่างวิวสวนผักก็ได้ไอเดียมาจากที่ญี่ปุ่น แต่จริงๆ แล้วถ้าไม่ได้ไปทริปครั้งนั้นก็คงไม่เกิดร้านนี้เหมือนกัน ทริปนั้นให้อะไรหลายอย่างมาก ทั้งเรื่องความคิด ความกล้าที่จะกลับมาทำที่ไทย

“คาเฟ่ในญี่ปุ่นที่เราชอบที่สุดคือ WIFE&HUSBAND เราประทับใจร้านนี้ตรงที่มีเก้าอี้ให้คนเช่าไปนั่งปิกนิกชิลๆ ริมแม่น้ำ อีกร้านคือ Bird COFFEE ร้านนี้มี 2 ส่วน คือส่วนที่เป็นร้านเฟอร์นิเจอร์ชื่อ TRUCK และส่วนที่เป็นร้านกาแฟ ร้านนี้ลึกลับมาก ต้องเดินเข้าตรอกไปเรื่อยๆ แต่เขาก็มีลูกค้าเยอะนะ เราเลยเกิดไอเดียว่า จริงๆ แล้ว เราไม่ต้องพยายามแมสหรือมีลูกค้าเยอะๆ ก็น่าจะอยู่ได้ เป็นสิ่งที่ทำให้เราเห็นภาพความฝันของเราชัดขึ้น”

ความฝันที่ค่อยๆ ก่อร่างสร้างตัวเป็นความจริง

จอยเล่าให้เราฟังว่า เธอก็เหมือนคนหลายๆ คนที่มีความฝันแต่ไม่เคยทำมันสักที แต่หลังจากกลับมาจากทริปนั้นเหมือนทุกอย่างลงตัวกันพอดี จึงตัดสินใจขอแชร์พื้นที่เล็กๆ ส่วนหนึ่งจาก แมวน้ำ-บุษกร เบญจกุล ที่เป็นทั้งเพื่อนสนิทและเจ้าของฟาร์มต้นผักแมวน้ำ เพื่อต่อยอดความฝันของเธอให้เป็นจริง

“เราทำทุกอย่างเองตั้งแต่แรกเลย ตั้งแต่ออกแบบ ซื้อของ และดูคนงาน เราอยากได้หน้าต่างแบบไหนก็วาดไปให้ช่างดู แก้กันไปแก้กันมา ช่วงนั้นโทรมมาก แต่ก็มีความสุข”

Fine Joy in the Ordinary

“JOY TABLE มีความหมายตรงตัวตามชื่อเลย ที่นี่คือตารางพื้นที่ความสุขของเรา เรามีความสุขกับการทำอาหาร แม้ว่าเราจะไม่ได้มีฝีมือเท่าเชฟ เราอยากทำร้านสไตล์ home cooking ที่ส่งต่อความสุขของเราให้กับลูกค้ามากกว่าการเป็นร้านอาหารที่แค่เข้ามาทานอาหารหนึ่งมื้อแล้วก็กลับไป เราอยากให้ที่นี่เป็นพื้นที่ให้ได้มานั่งพักใจ ได้นั่งคุย และทำความรู้จักกัน”

ความอบอุ่นไม่ได้ส่งผ่านแค่การตกแต่งร้านสไตล์ญี่ปุ่นและความเป็นกันเองของเจ้าของร้านเพียงอย่างเดียว ในอาหารทุกๆ จานยังสอดแทรกความใส่ใจและความสุขที่เธออยากส่งต่อให้กับลูกค้า เมนูอาหารของที่นี่ล้วนเกิดจากไอเดียทดลองสนุกๆ ของหญิงสาวที่หลงรักการทำอาหาร และการผสมผสานวัตถุดิบดีๆ ที่เธอมีอย่างพอดีและลงตัว

“เราอยากทำอย่างพอดีตัวมากกว่า ช่วงเปิดร้านแรกๆ เราตั้งเป้าไว้ว่าจะเปลี่ยนเมนูทุกๆ เดือน ช่วงนั้นเราคิดว่าเราต้องทำตามทุกอย่างที่ตัวเองคิดไว้เป๊ะๆ ให้ได้ พอถึงเวลาแล้วเราทำไม่ได้ เราก็เครียด เราเลยหันมาทำให้พอดีกับตัวเอง ทำเท่าที่สะดวก เพราะกดดันตัวเองมากไปก็ทำให้เราไม่มีความสุข”

เมนูพื้นฐานของที่นี่คือเมนูสลัดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสลัดเต้าหู้ย่าง สลัดแซลมอน ผักสลัดเหล่านี้ก็ไม่ได้มาจากที่ไหนไกล แต่มาจากฟาร์มต้นผักแมวน้ำข้างๆ ร้าน และยังมีเค้กโฮมเมด เมนูของหวานที่จะสลับสับเปลี่ยนไปเรื่อยๆ หลายคนที่มาที่นี่บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า พวกเขาติดใจเค้กช็อกโกแลตรสชาติเข้มข้น และเลมอนชีสเค้กที่จอยบิดสูตรโดยโรยป๊อปปี้ซี้ดเพื่อเพิ่มความแปลกใหม่

“เมนูที่นี่เราคิดเองหมดเลย ไม่ว่าจะเป็นของคาว ของหวาน และเครื่องดื่ม อย่างสลัดเต้าหู้ย่างก็เกิดจากความคิดว่า เราจะทำอะไรดีที่เป็นอาหารเพื่อสุขภาพ ถ้าเป็นอาหารเพื่อสุขภาพก็ต้องเน้นปรุงน้อยๆ ไม่ใส่สารปรุงแต่ง เราลองนำเต้าหู้มาใส่ แต่ไม่อยากให้เป็นแค่เต้าหู้ธรรมดา เราเลยใส่เกลือ ใส่พริกไทยเพิ่ม ส่วนเครื่องดื่มตอนนี้ก็มีกาแฟ เสาวรสโซดา ลิ้นจี่โซดา ซึ่งเราก็คิดเองหมดเลยนะ” รอยยิ้มของจอยผุดขึ้นมาระหว่างเล่ากระบวนการต่างๆ ให้เราฟัง

เบื้องหลังของ JOY TABLE ทุกอย่างนั้นผ่านกระบวนการคิดที่สะท้อนตัวตนของจอย ไม่ว่าจะเป็นความอบอุ่นที่แฝงไปด้วยความชอบทดลองซึ่งเห็นได้จากเมนูอาหารทุกจาน ระหว่างบทสนทนาก็อดไม่ได้ที่จะเห็นแววตาที่เต็มไปด้วยความภูมิใจ

“ส่วนเมนูที่เราภูมิใจที่สุดคือ ข้าวกุ้งเนยกระเทียม คือเอากุ้งไปคลุกกับเนยและกระเทียมสด ดูจากชื่อเหมือนจะไม่มีอะไร แต่เราจะเปลี่ยนหน้าตาไปเรื่อยๆ ตามวัตถุดิบที่มี บ้างก็ผสมข้าวไรซ์เบอร์รี บ้างก็ผสมกับควินัวบ้าง ไม่ได้กำหนดตายตัว เรามีวัตถุดิบเท่าไหน เราก็ทำเท่านั้น ปรับเท่านั้น”

ความสุขในความพอดี

“เราพูดถึงความสุขบ่อยมากเลยนะ มันคือสิ่งที่เราต้องการในชีวิต ที่นี่เปิดแค่ 4 วัน เพราะเราเคยเปิดทั้งสัปดาห์มาก่อน แล้วก็พบว่ามันทำให้เราไม่ได้พักผ่อน ไม่ได้ออกไปเติมพลังให้ตัวเอง เราเลยคิดได้ว่า ทำที่พอดีกับตัวเราแล้วเรามีความสุขดีกว่า แล้วตอนนี้เราพอใจกับชีวิตเรามากๆ นี่คือชีวิตที่เราอยากได้”

จอยแอบกระซิบเคล็ดลับการหาความสุขของชีวิตให้เราฟัง

บทสนทนายามบ่ายอันแสนอบอุ่นในร้าน JOY TABLE ก็เหมือนกับตัวร้านที่แม้ว่าไซส์จะเล็ก แต่กลับเต็มไปด้วยมวลความสุขที่ส่งต่อมาจากจอย ทำให้เราได้หยุดพักจากชีวิตที่เร่งรีบ หันมามองและขอบคุณกับสิ่งเล็กๆ รอบตัว ก่อนที่จะเดินทางหาความสุขในหนทางของตัวเองต่อไป

JOY TABLE

address : 56 ซอยลาดพร้าว 64 แยก 6 แขวงวังทองหลาง เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร 10310
hours : 09:00-18:00 น. (วันพฤหัสบดี-วันอาทิตย์)
facebook | JOY TABLE
instagram | @joy.table

ภาพ นิติพงษ์ การดี

AUTHOR

PHOTOGRAPHER

นิติพงษ์ การดี

ช่างภาพเจ้าของเพจ Rename. ที่ลงงานปีละครั้ง และมีความคิดว่า ถ้าได้กินกาแฟในตอนเช้าหนึ่งแก้ว ถือว่าวันนั้นเป็นวันที่ดี