Columbo Craft Village : หมู่บ้านเล็กๆ ของชุมชนผู้หลงใหลในงานคราฟต์

กลิ่นหอมฉุยของเบอร์เกอร์ร้อนๆ โชยมาแตะจมูกทันทีที่ก้าวเข้ามาในหมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่งกลางดงต้นไม้สีเขียวครึ้ม มีร้านค้าแฝงอยู่ในบ้านไซส์มินิที่กระจายอยู่รอบๆ เพียงกวาดสายตามองก็สัมผัสได้ถึงความทำมือแท้ๆ ในบ้านทุกหลัง และถ้าเดาไม่ผิด ด้านในก็คงมีงานคราฟต์ที่ไม่ธรรมดาซ่อนอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน

ที่นี่คือ Columbo Craft Village หมู่บ้านขนาดจิ๋วบนถนนโคลัมโบใกล้มหาวิทยาลัยขอนแก่น ที่เกิดจากความฝันของกลุ่มเพื่อนในสายงานศิลปะ พวกเขาเริ่มจากการพบปะกันตามอีเวนต์ศิลปะบ้าง ตลาดขายของทำมือบ้าง เมื่อเจอกันบ่อยขึ้นจึงสนิทสนมกันในเวลาไม่นาน ตลอดระยะเวลาที่ได้ทำความรู้จัก ทุกคนได้เรียนรู้และเห็นฝีมือของกันและกันจนพบความเจ๋งที่ซ่อนอยู่ในตัวแต่ละคน ทั้งงานเซรามิก งานไม้ งานผ้า งานเหล็ก งานเขียนการ์ตูน ไปจนถึงอาหารและกาแฟ กระทั่งวันหนึ่งก็มีสมาชิกผุดไอเดียในการสร้างพื้นที่เล็กๆ สำหรับรวบรวมงานฝีมือและความฝันที่ทุกคนมีร่วมกันขึ้นมา

จากความน่ารักของหมู่บ้านที่เห็นกัน คงไม่มีใครรู้ว่าความจริงหมู่บ้านแห่งนี้สร้างขึ้นบนอดีตป่ารกร้างแปลงหนึ่งที่เจ้าของให้เช่าในราคาไม่แพงนัก ในเมื่อสมาชิกทุกคนอยากใช้งบประมาณในการสร้างให้น้อยที่สุด จึงลงมือทำกันเองแทบทั้งหมด ตั้งแต่ทำสัญญา ถางหญ้า ออกแบบ วางผัง โชคดีที่มีญาติๆ ที่เป็นช่างและพี่น้องในชุมชนมาช่วยกันลงแรง

จุดแรกที่เมื่อใครเดินเข้าไปก็ต้องสะดุดในความหอมกรุ่นของกาแฟก็คือ DO homemade ร้านกาแฟที่ใช้เครื่องชงแบบทำมือทั้งหมดโดย ‘เดียร์’ เจ้าของร้านหนุ่มสุดติสท์ กาแฟที่นี่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ของตัวเองเพราะแต่ละถ้วยจะต่างกันตามน้ำหนักของมือ แถมยังมีมัฟฟินออร์แกนิกสไตล์ญี่ปุ่นอุ่นๆ จากเตาให้ทุกคนหวั่นไหวในความหอมหวานแบบสุขภาพดีปราศจากเนย นม น้ำตาล และด้วยความชอบในงานศิลปะด้านอื่นๆ ของเดียร์ ที่นี่เลยมีโปสการ์ดทำมือกับสวนจิ๋วในขวดแก้วน่ารักๆ วางขายด้วย

ส่วนสีสันสดใสของร้านข้างๆ ก็น่าเข้าไปเยี่ยมชมไม่แพ้กัน ร้านนี้มีชื่อว่า Numgunde Studio (นำกันเด๊ะ) ที่มีความหมายในภาษาอีสานว่า ‘ด้วยกัน’ ที่นี่โดดเด่นในเรื่องของงานผ้าหลากหลาย ทั้งกระเป๋าแบบต่างๆ หมวก สายคล้องกล้อง โดยมีสองสาว ‘แอม’ และ ‘ฮานะ’ เป็นผู้ออกแบบประดิษฐ์เองกับมือ จึงไม่แปลกที่สินค้าบางอย่างสามารถออร์เดอร์สีและรูปแบบได้ตามใจชอบ ที่นี่ยังมีเครื่องดื่มสมูทตี้ผลไม้เย็นจับใจให้ชิมกันระหว่างเดินเล่นด้วย

ถัดมาอีกหน่อยจะเป็นบ้านไม้ดิบๆ รูปทรงสวยที่ใช้ชื่อว่า Woodhaus บ้านหลังนี้มากไปด้วยงานไม้และผ้าปักลาย ที่เกิดจากความรักในงานไม้ของ ‘เบ๊ะ’ หนุ่มช่างไม้ขอนแก่น และความชื่นชอบในงานคราฟต์ของ ‘ฮันน่า’ สาวชาวอเมริกันที่ย้ายมาอยู่ขอนแก่น Woodhaus จึงเป็นการรวมเอาความชอบของทั้งคู่มาสร้างขึ้นเป็นบ้าน เป็นสตูดิโอ เป็นร้านเล็กๆ ให้คนรักงานไม้และงานทำมือมาเลือกซื้อและแลกเปลี่ยนไอเดียความคิดสร้างสรรค์กัน

ส่วนใครที่หลงใหลในงานเซรามิกคงต้องติดใจร้าน Clay-more studio ที่มีอาจารย์เปิ้ล ผู้เชี่ยวชาญด้านเซรามิกและทำเซรามิกในขอนแก่นมามากกว่า 6 ปีเป็นเจ้าของร้าน  เขาเริ่มจากความชอบในการปลูกกระบองเพชรและไม้อวบน้ำรูปทรงแปลกๆ แล้วอยากมีกระถางต้นไม้ที่ทำด้วยมือของตัวเอง เลยออกแบบกระถางรูปทรงต่างๆ ที่เน้นคุณสมบัติดินเผาซึ่งเก็บความชื้นและความเย็นให้รากต้นไม้ในทุกฤดูกาลได้ นอกจากงานกระถางก็ยังมีเซรามิกรูปแบบอื่นๆ เป็นของที่ระลึกเจือกลิ่นอายภาคอีสานให้ได้ซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้านไปเป็นของฝากน่ารักๆ ด้วย

สิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้ในหมู่บ้านแห่งงานคราฟต์คือสตูดิโอเขียนการ์ตูนของ ‘โน้ต’ นักวาดการ์ตูนและนักวาดภาพประกอบมันๆ ที่ถนัดเรื่องของการจับบุคลิกของคน สตูดิโอแห่งนี้ใช้ชื่อสั้นๆ ว่า Yub ซึ่งมาจากคำว่า ‘วาดยับ’ เพราะเจ้าตัววาดรูปทุกวันในแนวการ์ตูนที่เข้าใจง่าย จึงใช้ร้าน Yub เป็นเหมือนแกลเลอรี่โชว์ผลงานและขายงานในรูปแบบโปสการ์ด

สุดท้ายคือ 1309 ร้านหัวมุมที่มีหน้าตาคล้ายบ้านเรือนกระจก บ้านหลังนี้ใช้โครงสร้างหลักเป็นเหล็กสีดำเก๋ๆ และหลังคาทำจากสังกะสีซึ่งเท่ไปอีกแบบ ไม่แปลกใจเลยที่ ‘หนุ่ม’ เจ้าของร้าน มีงานหลักเป็นงานเกี่ยวกับเหล็กในรูปแบบต่างๆ ทั้งโคมไฟ เชิงเทียน ชั้นวางกระบองเพชร แถมฝีมือการทำอาหารก็ไม่เบาเช่นกัน เพราะในช่วงบ่ายที่ร้านมีอาหารเมนูผสมผสาน ไม่ว่าจะเป็นเสต็กหมูพริกไทยดำจิ้มแจ่ว เบอร์เกอร์ร้อนๆ บะหมี่ลวกออนท็อปด้วยสเต็กเกรวี่พริกไทยดำหรือกะเพรา และอีกหลายเมนูที่แค่ฟังชื่อก็หิวไปตามๆ กัน ถ้ามีโอกาสได้มาลองของจริงกันสักครั้งคงวางช้อนกันไม่ลงแน่นอน

หมู่บ้านที่รายล้อมไปด้วยงานคราฟต์แห่งนี้จะจัดอีเวนต์ใหญ่ทุกครึ่งปี รวมเอาของทำมือ วงดนตรีนอกกระแส ร้านอาหารของชาวขอนแก่นและจังหวัดใกล้ๆ ในภาคอีสานมาไว้ด้วยกัน รวมถึงมีการจัดเวิร์กช็อปงานฝีมือของแต่ละร้านให้ผู้คนที่มีหัวใจในงานแฮนด์เมดได้มาเรียนรู้ไปพร้อมกัน ส่วนในอนาคต สมาชิกโคลัมโบทุกคนก็เห็นพ้องกันว่าจะทำแกลเลอรี่ ห้องสมุด และห้องพักที่เป็นสตูดิโอในตัว ให้ใครก็ตามที่อยากมาพักผ่อนและสร้างสรรค์ผลงานศิลปะไปด้วย

เมื่อได้ทำความรู้จักกับพื้นที่เล็กๆ แห่งนี้มากขึ้น ไม่ใช่เพียงกลิ่นเบอร์เกอร์หอมๆ ที่ทำให้เราอยากย่างก้าวเข้ามานั่งพักที่นี่ แต่ยังเป็นเพราะกลิ่นความแฮนด์เมดและความรักในงานคราฟต์ที่อบอวลไปทั่วทั้งหมู่บ้าน และความตั้งใจจริงจากกลุ่มคนผู้สร้างผลงานด้วยหัวใจ ที่ทำให้ใครๆ หลงรัก Columbo Craft Village ตั้งแต่ครั้งแรกที่มาเยือน

AUTHOR