‘พระนครบาร์แอนด์แกลเลอรี่’ บาร์ลุงที่มีหัวใจเป็นผู้คนและความเป็นกันเอง

“หัวใจของร้านเรา คือพลังงานของผู้คนและความเป็นกันเอง ที่ดึงดูดให้คนยังคงมาที่ร้านเรื่อยๆ ไม่ว่าจะผ่านไปกี่เจเนอเรชัน”

‘พระนครบาร์แอนด์แกลเลอรี่’ คือ บาร์อายุกว่า 26 ปีที่เกิดขึ้นมาจากการรวมตัวกันของนักเรียนศิลปะ ในรั้วศิลปากร เพาะช่าง มิตรภาพถูกบ่มเพาะจากรุ่นสู่รุ่น 

สถานที่แห่งนี้มีอายุมามากกว่า 2 ทศวรรษ แน่นอนว่าย่อมมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นมากมาย เพราะกาลเวลาที่หมุนผ่านไปเรื่อยๆ กระชากเราออกจากความคุ้นชินเดิมๆ สิ่งที่เคยขายได้คนอาจไม่ซื้ออีกต่อไป เหล่าผู้คนที่เเวะเวียนมาที่ร้านก็จำเป็นต้องเปลี่ยนเจเนอเรชันอย่างเป็นปกติสามัญ สถานที่แห่งนี้จึงตั้งอยู่เหมือนผู้เฝ้ามองการเปลี่ยนแปลงเหล่านั้น และจำเป็นต้องผันแปรตัวเองให้เข้ากับยุคสมัยใหม่ด้วยเช่นกัน

ช่วงเริ่มต้นเปิดร้าน ‘พระนครบาร์แอนด์แกลเลอรี่’ ยังเป็นเพียงร้านเล็กๆ ที่ไม่มีคนรู้จัก แต่ในปัจจุบันพื้นที่แห่งนี้ได้ขยับขยายทั้งพื้นที่ร้านและกลุ่มลูกค้า กลายมาเป็นทั้งคนที่ชอบอาหาร คนทำงาน เฟิร์สจ็อบเบอร์ หรือกลุ่มคนที่ชอบไวบ์บรรยากาศของร้าน 

ในช่วงเวลาเย็นย่ำก่อนพลบค่ำพวกเราชาว a team ฝ่ารถติดมาที่ถนนราชดำเนินกลางโดยมีหมุดหมายเป็นร้านบาร์ในซอยเล็กๆ ใกล้อนุสรณ์สถาน 14 ตุลาแห่งนี้ ทันทีที่เราก้าวขาเข้าไปในร้าน บรรยากาศความอบอุ่นเป็นกันเองของกลุ่มคนผู้ทำงานสร้างสรรค์ก็ยังคงตลบอบอวลอยู่ทั่วพื้นที่

พระนครบาร์แอนด์แกลเลอรี่ ร้านที่อ้าแขนรับทุกคนด้วยความเป็นกันเอง

เมื่อเดินทางมาถึงร้าน ‘สยาม-สยาม เนียมนำ’ และ ‘อาร์ม-รัฐการ น้อยประสิทธิ์’ ผู้เป็นเจ้าของร้านพาเราเดินชมร้านก่อนเพื่อเลือกจับจองที่นั่งที่น่าอภิรมย์ที่สุด โดยภายในร้านจะมีทั้งหมด 4 ชั้น 

ชั้นที่ 1 จะเป็นห้องกระจกใส เมื่อมองออกไปข้างนอกจะเห็นชีวิตข้างนอกซึ่งเต็มไปด้วยลุงๆ ป้าๆ ที่ขายอาหารรถเข็น รวมถึงผู้คนหลากหลายสัญชาติที่เดินผ่านไปมา เป็นวิวที่น่าจะถูกใจสาย Observe ที่อยากนั่งจิบแล้วมองชีวิตผู้คนไปด้วยพลางๆ ไม่เพียงแค่นั้นในทุกๆ ชั้นจะมีทีวีไว้สำหรับใครที่อยากดูกีฬามันส์ๆ ไปพร้อมกับสั่งอาหารรสเลิศมานั่งกินกัน อีกทั้งยังมีโต๊ะที่นั่งหลากหลายดีไซน์ให้เลือกนั่ง 

เมื่อเปิดประตูเข้ามาสิ่งแรกที่เห็นคือบาร์ที่เรียงรายไปด้วยเครื่องดื่มนานาชนิด แอบกระซิบว่าเป็นรสชาติที่คุณจะหาชิมไม่ได้จากที่ไหนแน่นอน 

“พี่อยากสนับสนุนชุมชนเลยออกไปเฟ้นเครื่องดื่มของชาวบ้านมาขายในร้าน อยากให้ผลิตภัณฑ์ของคนไทยเป็นที่รู้จัก คิดว่าถ้าเราเปิดโอกาสให้เขาได้ทำอย่างถูกต้อง เราจะได้มีเครื่องดื่มที่อร่อยและมีคุณภาพดี พี่เชื่ออย่างนั้น” พี่สยามเล่าอย่างเป็นกันเอง

อาหารรสเลิศจากกับแกล้มประจำใจ

ชั้นที่ 2  ในอดีตเคยเป็นแกลเลอรีสำหรับให้นักศึกษาศิลปะได้มีโอกาสจัดแสดงงาน ปัจจุบันกลายเป็นห้องครัวที่ตลบอบอวลไปด้วยอาหารรสเลิศ ทั้งยังมีพื้นที่เก๋ๆ ให้ได้เช็กอินถ่ายรูป ตอบโจทย์ยุคสมัยใหม่สุดๆ 

“ตอนพี่มาครั้งแรกในช่วงเริ่มต้น ร้านยังเป็นแค่ห้องแถวเล็กๆ แต่พอทำไปเรื่อยๆ คนชอบแล้วมากันเยอะทำให้ร้านขยายไปเรื่อยๆ และมีฟังก์ชันหลากหลาย อย่างข้างล่างเป็นบาร์ ชั้น 2 เป็นแกลเลอรี โดยมีเจตนาที่จะให้นักศึกษามีพื้นที่สำหรับแสดงงานด้วย” พี่อาร์มเล่าด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม เพราะที่แห่งนี้เป็นทั้งความทรงจำที่ดีและสถานที่ที่ทำให้นักศึกษาศิลปะละเเวกนี้เติบโตจนแยกย้ายกันไปตามเส้นทางของตัวเอง 

สำหรับเราแล้ว ถึงเเม้ตอนนี้ที่ร้านจะไม่ได้มีแกลเลอรี แต่ตะกอนความทรงจำดีๆ ยังคงมีอยู่ผ่านรูป กลิ่น เสียง สัมผัส ที่สำคัญคือรสของอาหารที่ไม่เคยหายไป อร่อยยังไงก็ยังคงเป็นแบบนั้น แต่ในขณะเดียวก็จะปรับเปลี่ยนเพื่อให้ตามทันยุคสมัย

“อาหารที่นี่บางส่วนมาจากการเป็นกับแกล้มประจำใจของแต่ละคน ตอนเริ่มต้นเรามีแม่ครัวชื่อ ป้าต้อย เขาเป็นแม่ครัวทำอาหารจัดเลี้ยงอยู่ที่โรงแรม ป้าต้อยแกทำอาหารเก่งมากๆ และปัจจุบันแม้ป้าต้อยจะเกษียณอายุไปตอนอายุได้ 70 ปีแล้ว แต่แกก็ยังส่งไม้ต่อให้ลูกศิษย์ที่เป็นแม่ครัวอาหารโรงแรมเหมือนกัน อาหารของเราเลยยังคงความอร่อยไว้เสมอ” พี่สยามเล่าให้ฟังไปพร้อมๆ กับจิบเครื่องดื่มเย็นๆ ไปด้วย

ต้องยอมรับเลยว่าในคราแรกเราไม่ได้คาดหวังในรสชาติอาหารเพราะตั้งใจที่จะไปนั่งชิลๆ เสพบรรยากาศยามค่ำคืน แต่เมื่ออาหารที่ทำเสร็จร้อนๆ มาเสิร์ฟ รสชาติของอาหารอร่อยจนน่าเหลือเชื่อ หากใครเป็นนักกินมากินอาหารที่ร้านนี้ เราเชื่อว่าคุณจะหอบเอาความประทับใจกลับบ้านไปด้วย ไม่ว่าจะเป็น ยำวุ้นเส้นชะอม ยำเนื้อเปื่อย ยำขนมจีน ปอเปี๊ยะกุ้ง และเมนูอื่นๆ ที่คุณจะต้องติดใจจนกลับมาลองอีกครั้งแน่นอน

เพราะที่นี่เปรียบเสมือนบ้านเพื่อน

ชั้นที่ 3 เป็นโซนที่ครึกครื้นที่สุด เพราะมีคนกลุ่มต่างๆ มาจองห้องเพื่อจัดเลี้ยงสังสรรค์ บางคนมาจองห้อง เพราะอยากกินเมนูแกงของทางร้านโดยเฉพาะก็มีเหมือนกัน

“เด็กเดี๋ยวนี้ไม่ค่อยกินแกงกันแล้ว เขาชอบกินของทอด เราเลยปรับเมนูให้มีเฟรนช์ฟรายส์ ไก่ทอด ข้อไก่ ซึ่งหากย้อนกลับไปสมัยก่อน แกงส้มชะอมกุ้งคือเมนูฮิตที่คนชอบกันมาก จนถึงตอนนี้คนก็ยังถามหากันอยู่ แม้เราจะถอดออกไปจากเมนูแล้ว” พี่อาร์มเล่า

เรารู้สึกได้เลยว่าในทุกขั้นตอนของการทำร้านแห่งนี้ ทุกคนล้วนใส่ใจในรายละเอียด ไม่ว่าคุณจะมาที่นี่คนเดียวหรือเป็นกลุ่ม คุณจะได้รับการต้อนรับราวกับว่าที่นี่คือบ้านเพื่อน ที่จะดูแลคุณด้วยความรู้สึกสบายๆ

Rooftop ที่แรกๆ ในประเทศไทย

ชั้นที่ 4 ถือเป็นโซนที่เหมาะสำหรับสายดื่มอย่างแท้จริง ด้วยบรรยากาศสบายๆ เห็นวิววัดภูเขาทอง หากลองคิดว่าร้านนี้เปิดมา 26 ปี แล้วการที่มี Rooftop ให้คนขึ้นมาดื่มด่ำบรรยากาศคงจะแปลกแหวกเฮี้ยวน่าดูในยุคสมัยนั้น 

“เมื่อก่อนชั้นดาดฟ้าเคยเป็นที่ล้างจานของตึกเก่า พอเรามาทำร้านเลยทำเป็น Rooftop เพราะรู้สึกว่าวิวมันเเจ๋วดี เห็นวิววัดภูเขาทอง เห็นวิวเมือง ตอนนั้นยังเถียงกันอยู่เลยว่าใครจะขึ้นไปกินเพราะมันสูง แต่กลายเป็นว่าปัจจุบันเป็นที่นิยมสำหรับคนที่มาใช้บริการ ฮิตมากในตอนนั้น” พี่สยามเล่าให้ฟังด้วยสีหน้าเปื้อนยิ้ม

เราจะอยู่ต่อไปเพื่อเป็นสถานที่ที่ซึ่งสัมพันธ์ทางความรู้สึกให้คุณ

ปี ค.ศ. 2004 – 2005 ถือเป็นช่วงเวลาทองของพระนครบาร์ และไม่ใช่แค่เพียงร้านเดียว เพราะในยุคนั้นซอยนี้หรือถนนเส้นนี้ คนเดินเที่ยวกันสนุกทั้งซอย เมื่อเวลาผ่านไปร้านรวงมีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ คนรุ่นใหม่ๆ ก็สร้างอะไรขึ้นมามากมาย ผู้คนจึงกระจายตัวกันไปตามหนแห่งที่เขารู้สึกสัมพันธ์ด้วย ส่วนผู้คนที่เคยโลดเเล่นกันอยู่ในที่แห่งนี้ก็มีล้มหายตายจากกันไปแล้ว

“ร้านนี้เป็นร้านเดนตายนะ เจออะไรมาเยอะมาก ไม่ใช่เเค่โควิด เพราะมันตั้งอยู่บนถนนราชดำเนิน มีทั้งเรื่องการเมือง คนมาชุมนุม ทุกยุคทุกสมัย แต่พี่ก็ไม่ได้ซีเรียส กลับมองตามความเป็นจริง ปรับตัวอยู่ให้ได้ แม้ทุกวันนี้โลกจะเปลี่ยน แต่เราเองก็โชคดีที่มีน้องๆ รุ่นใหม่เเนะนำเรื่องโลกสมัยใหม่ว่ามันเป็นอย่างไรเเล้ว เราเองก็ไม่อยากให้ร้านหายไป พอมีพี่ๆ น้องๆ มาช่วยกัน เราก็รู้สึกว่า เฮ้ย ร้านมันมีศักยภาพนะ บรรยากาศก็ดี อาหารก็อร่อย คนเป็นกันเอง และมันอยู่มา 26 ปีแล้ว คิดว่าไปต่อดีกว่า ไปถึง 120 ก็พอ (หัวเราะ)” อาร์มเล่าด้วยอารมณ์ขันแต่แฝงไปด้วยความเอาจริงเอาจัง

หลังจากที่กินอาหารจนอิ่มท้อง พูดคุยกับพี่สยามและพี่อาร์มจนอิ่มใจแล้ว อาจสรุปได้เล็กๆ ในฐานะคนเจเนอเรชันใหม่อย่างเรามองว่า แม้กาลเวลาจะผันผ่านไป ผู้คนเปลี่ยน โลกเปลี่ยนไปมากแค่ไหน แต่สิ่งที่เป็นนิรันดร์คือไม่ว่าเราจะเกิดในทศวรรษไหน เราก็ยังต้องการสถานที่ที่ให้ความเป็นกันเองให้เราได้นั่งหย่อนใจในวันเซ็งๆ ได้ทักทายเล็กๆ กับใครบางคน กินอาหารอร่อยและเครื่องดื่มอย่างใส่ใจ ‘พระนครบาร์แอนด์แกลเลอรี่’ อาจคือสิ่งเหล่านี้ 

เราไม่อาจยืนยันเรื่องนี้ได้อย่างหนักแน่น จึงอยากชวนทุกคนลองแวะไปพิสูจน์ว่าสิ่งที่เราเขียนมาทั้งหมดทั้งมวลเป็นเรื่องจริง 

เราเชื่อว่าคุณอาจจะได้เจอกับสถานที่ที่ซึ่งสัมพันธ์ในทางความรู้สึกกับตัวเองไม่ทางใดก็ทางหนึ่งอย่างที่เราสัมผัสมา

อ้างอิงรูปภาพ : พระนครบาร์แอนด์แกลเลอรี่

AUTHOR