สีสันที่ใช่เกิดจากคำว่ากล้า โฆษณาที่เชื่อว่าวัยรุ่นมีความสวยงามในตัวเอง

สิ่งที่คนหนุ่มสาวทุกยุคทุกสมัยต้องเจอ คือการหาคำตอบว่าตัวเองอยากเป็นอะไร และอยากมีชีวิตแบบไหน

การรู้จักตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง สิ่งนี้จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อพวกเขาได้ลงมือทำและใช้เวลากับมันอย่างเต็มที่ และแน่นอน แต่ละคนย่อมมีจังหวะเวลาของการค้นพบที่แตกต่างกันออกไป เพราะฉะนั้น ‘ความกล้า’ ที่จะเริ่มต้นคือสิ่งสำคัญที่พวกเขาควรมีเป็นอย่างแรก

เมื่อ ‘การค้นหาตัวตน’ ไม่อาจแยกออกจาก ‘คนรุ่นใหม่’ ได้เลย แคมเปญโฆษณา Break the line to be unique จากแบรนด์ที่ให้ความสำคัญกับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่อย่าง OPPO ได้ชักชวน 3 หนุ่มสาวดาวรุ่งแห่งวงการบันเทิงที่กล้าก้าวออกจากเส้นทางเก่าๆ จนได้ค้นพบเส้นทางเดินที่ใช่ของตัวเอง มาแบ่งปันเรื่องราวและแรงบันดาลใจ รวมทั้งความสวยงามของชีวิตที่พวกเขามองเห็น

ต่อ–ธนภพ ลีรัตนขจร
นักแสดงหนุ่มที่กล้าเปิดใจเรียนรู้บทบาทใหม่ตลอดเวลา

“ผมเชื่อว่าการเป็นตัวของตัวเองคือความสวยงามที่แท้จริงครับ การกล้าที่จะใช้ชีวิตให้แตกต่างคือความสวยงามอย่างหนึ่งของการใช้ชีวิต”

นักแสดงหนุ่มที่โด่งดังจากซีรีส์เรื่อง Hormones วัยว้าวุ่น ภายนอกเราอาจมองว่าเขาเป็นเพียงเด็กหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่ง แต่จริงๆ แล้ว ต่อเป็นเด็กหนุ่มที่หลงใหลศิลปะการแสดงมาก แม้ว่าตัวเองจะไม่ได้เรียนจบด้านนี้มาโดยตรง แต่ทุกๆ บทบาทตัวละครที่เขาได้รับ เขาจะสนุกและเต็มที่กับมันเสมอๆ

“ถ้าให้ผมเทียบสีสันกับบทละครสักเรื่อง การที่ผมได้รู้จักสีสันใหม่ๆ ได้รู้ดีเทลของมันมากขึ้น มันทำให้ผมสนุกมากขึ้นไปเรื่อยๆ คงจะดีถ้าเราทำลายกำแพงทุกอย่างของตัวเองแล้วก้าวมาสู่อะไรใหม่ๆ ได้ สักวันเราจะกลายเป็นศิลปินที่ทำงานศิลปะได้หลายอย่าง

“แค่ลองเปิดใจให้สีสันใหม่ๆ เข้ามาในชีวิตบ้าง บางทีเราอาจจะได้เจอสีสันที่เป็นตัวตนเราจริงๆ ก็ได้” หนุ่มต่อทิ้งท้าย

ทอย–ธันวา บุญสูงเนิน
อดีตเด็กดื้อที่กล้าเลือกทางเดินให้ชีวิตตัวเอง

จากเด็กหนุ่มทายาทนักร้องดังที่ครอบครัวไม่สนับสนุนให้เล่นดนตรีเพราะห่วงว่าเด็กคนนี้จะทนอยู่บนเส้นทางที่ลำบากนี้ไม่ได้ แต่ทอยกลับเลือกเสี่ยงกับเส้นทางนี้ด้วยตัวเองโดยไร้ซึ่งความกังวลใดๆ เขาดั้นด้นเล่นดนตรีและฝึกฝนตัวเองอย่างหนัก จนวันนี้ ทอยกลายเป็นนักดนตรีหนุ่มที่น่าจับตามองมากที่สุดคนหนึ่งในวงการเพลงไทย

“ในทุกๆ เส้นทางที่เราเลือกเดิน มันมีความสวยงามที่แตกต่างกันออกไปครับ สุดท้ายเราขอเลือกเดินในเส้นทางที่เราเดินแล้วมีความสุขที่สุดดีกว่า ตอนนั้นผมตัดสินใจก้าวออกมาจากชีวิตที่ควรจะเป็น ผมไม่รู้ว่าตอนนั้นตัวเองตัดสินใจถูกหรือเปล่า แต่สุดท้ายผมก็คิดว่า ผมไม่เคยตัดสินใจผิดครับ

“ผมเชื่อว่าเวลาในชีวิตของคนเรามีเท่ากัน อยู่ที่เราจะใช้มันยังไงเท่านั้นเอง แต่ถ้าเป็นผม ผมจะเลือกใช้มันกับสิ่งที่ผมรัก สิ่งที่ผมมีความสุข มันคงเป็นการเลือกใช้ชีวิตที่สวยงามที่สุด” การให้ความสำคัญกับเวลาคงจะเป็นอีกหนึ่งตัวแปรสำคัญที่ทำให้ดนตรีพาเขาเดินทางไกลมาจนถึงวันนี้

ญาญ่า–อุรัสยา เสปอร์บันด์
นางเอกสาวที่กล้าเปิดเผยอีกหนึ่งตัวตนที่ซ่อนอยู่ข้างใน

ด้วยอาชีพและชื่อเสียงที่โด่งดัง ญาญ่าจึงกลายเป็นหญิงสาวที่ถูกสื่อและคนทั่วไปจับตามองอยู่ตลอด ทุกคนมีภาพจำของผู้หญิงที่แสนสดใสคนนี้ชัดเจน แต่หากมองตามชีวิตจริง เธอมีไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตอีกหลายรูปแบบที่แฟนละครอย่างเราๆ ไม่เคยรู้ อย่างในโฆษณาเซตนี้ทำให้เราได้รู้ว่าญาญ่าชื่นชอบการวาดภาพและการถ่ายรูปมากๆ เพราะเจ้าตัวหลงรักการเป็นผู้สร้างสรรค์งานศิลปะ พื้นที่ที่ให้เธอได้ปลดปล่อยตัวตนอีกมุมหนึ่งของเธอออกมา

“ทุกคนมีความ unique ของตัวเอง มันทำให้โลกน่าค้นหา สวยงาม และน่าอยู่ ชีวิตคนเรามีหลายมิติเหมือนกับแสงสีที่ผสมกัน บางสีอาจเป็นสีที่เราไม่เคยเห็นมาก่อนก็ได้ และรายละเอียดของการมองโลกที่ต่างกันคืออีกหนึ่งสิ่งที่ญ่าเชื่อว่ามันจะทำให้เราทุกคนเป็นตัวของตัวเองได้อย่างแตกต่าง”

เราเชื่อว่าเรื่องราวของพวกเขานั้นมีพลังมากพอที่จะปลุกคนรุ่นใหม่ให้กล้าพอที่จะเผยความสวยงามของชีวิตในแบบฉบับของตัวเองออกมา แคมเปญ Break the line to be unique จึงอยากบอกให้คนในวัยที่ยังมีโอกาสลองผิดลองถูกกับชีวิตทุกคน กล้าที่จะก้าวออกมาจากคอมฟอร์ตโซนของตัวเอง ออกจากกรอบความคิดเดิมๆ และเริ่มต้นทดลองทำอะไรใหม่ๆ ไม่แน่ว่าพวกเขาอาจจะพบเจอกับตัวตนแบบใหม่ที่หลบซ่อนอยู่

เช่นเดียวกับแบรนด์ OPPO ที่นอกจากพวกเขาจะเชื่อในพลังสร้างสรรค์ของคนหนุ่มสาว พวกเขายังกล้าที่จะคิดต่างจากแบรนด์สมาร์ตโฟนทั่วไป และทดลองอะไรที่สนุกและแปลกใหม่อย่างไม่หยุดยั้ง อย่างสมาร์ตโฟนรุ่นล่าสุด OPPO F9 Starry Purple ที่กล้าออกจากกรอบของการดีไซน์สีสันแบบเดิมๆ แสนน่าเบื่อสู่สีสันรูปแบบใหม่อย่างการไล่เฉดสี Starry Purple (สีม่วงประกายดาว) ที่สวยจับใจอย่างไม่มีใครเหมือน

OPPO F9 Starry Purple ยังใส่ฟังก์ชั่นที่เรียกว่า VOOC Flash Charge ฟังก์ชั่นชาร์จแบตในระยะเวลาอันรวดเร็ว ชาร์จเพียงแค่ 5 นาทีก็สามารถคุยได้นานถึง 2 ชั่วโมง ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์อันเร่งรีบของคนรุ่นใหม่ และให้พวกเขาได้ใช้เวลาไปกับสิ่งที่ตัวเองชอบได้อย่างเต็มที่มากขึ้น

คนบางคนอาจได้คำตอบที่ว่าในระยะเวลาอันรวดเร็วราวกับเดินทางลัด และคนบางคนอาจรู้สึกว่าตัวเองเดินอยู่ในเขาวงกต พานสับสนว่าต้องใช้เวลานานแค่ไหนถึงจะเจอหนทางที่ใช่เสียที ขอเพียงแต่พวกเขาอย่าหยุดเดิน เพราะหลังจากนี้ ความสวยงามของชีวิตจะส่องประกายเรียกให้พวกเขาเดินไปหามันเอง