จากตัวอย่างหนังทำให้เราลังเลใจเล็กน้อยเพราะมันดูเป็นภาพยนตร์คอเมดีทั่วไปที่มีสาวแซ่บผมบลอนด์เป็นตัวละครเดินเรื่อง แต่สาวคนนี้คือ เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์ (Jennifer Lawrence) น่ะสิ เลยทำให้เราต้องพิสูจน์กันหน่อยว่าทำไมเธอถึงรับเล่น แถมร่วมเป็นโปรดิวเซอร์อีกด้วย
ก็ต้องบอกว่าคิดไม่ผิดที่เข้าไปดู เพราะตั้งแต่เริ่มจนจบภาพยนตร์ No Hard Feelings สาวแซ่บ…แอ๊บมาอ่อย (2023) ก็ทำให้คนในโรงภาพยนตร์สนุกสนาน หัวเราะกันเอิ๊กอ๊าก เกินความคาดหวังของเราไปมากจริงๆ
ภาพยนตร์คอเมดีเรื่อง No Hard Feelings (2023) เป็นผลงานการกำกับและเขียนบทของ จีน สตุปนิตสกี้ (Gene Stupnitsky) ซึ่งเป็นภาพยนตร์เรื่องยาวเรื่องที่สองหลังจาก Good Boys (2019) ที่ทำรายได้รวมสูงถึงกว่า 100 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ ด้วยทุนสร้างที่ 20 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ ทำให้เขากลายเป็นผู้กำกับและนักเขียนบทภาพยนตร์สายตลกที่น่าจับตามอง
โดยไอเดียในการทำภาพยนตร์เรื่องนี้มาจากประกาศโฆษณาจริงๆ ในเว็บไซต์ Craigslist เมื่อปี 2013 ที่ผู้กำกับ สตุปนิตสกี้ ไปเจอมาแล้วชักชวน เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์ มาร่วมโปรเจกต์นี้ด้วยการเป็นทั้งโปรดิวเซอร์และนักแสดงนำของเรื่อง
เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์ ถือเป็นนักแสดงหญิงที่มีงานแสดงออกมาอย่างสม่ำเสมอ โดยตั้งแต่ปี 2008 ที่ผลงานภาพยนตร์เรื่อง Garden Party ออกฉาย เส้นทางการแสดงของเธอตลอด 15 ปี มีผลงานภาพยนตร์อย่างเดียวรวมแล้วกว่า 28 เรื่อง ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ในสาขานักแสดงนำหญิงและสมทบยอดเยี่ยมถึง 4 ครั้ง และคว้ามาได้ 1 ครั้งจากภาพยนตร์เรื่อง Silver Linings Playbook (2013) ในรุ่นเดียวกัน เธอเป็นดาวเด่นของวงการฮอลวีวูด ซึ่งในปี 2015 และ 2016 เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์ ได้รับการประกาศว่าเป็นนักแสดงหญิงที่มีค่าตัวสูงที่สุดในโลกอีกด้วย
พล็อตในเรื่องที่เล่าถึงการที่พ่อแม่ที่มีฐานะร่ำรวยกลัวว่าลูกชายวัย 19 ปี เพอร์ซี่ (แอนดรูว์ เฟลด์แมน) ที่กำลังจะเข้ามหาวิทยาลัยพรินซ์ตัน (หนึ่งใน Ivy League) จะเข้าสังคมลำบากเพราะความเนิร์ดเก็บตัว สุงสิงแต่กับสัตว์ในศูนย์อุปการะที่เข้าทำงานพาร์ตไทม์จะกลายเป็นปัญหาในอนาคต จึงต้องการหาสาวแซ่บเจนสนามเพื่อมาเป็นคู่เดต (และเปิดช่องให้ร่วมหลับนอนกันได้) เพื่อเปิดโลกให้ลูกชายรู้จักกับความเสียวซ่ากับเขาบ้าง ซึ่งก็ตรงกับคุณสมบัติของ แมดดี้ (เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์) วัย 32 ปีที่กำลังจะเสียรถยนต์และบ้านสมบัติสุดท้ายที่แม่ทิ้งไว้ให้ เพราะไม่ได้จ่ายภาษีตามกำหนด จึงต้องดิ้นรนเฮือกสุดท้ายหาทางทำเงินให้ได้มากที่สุดในระยะเวลาอันสั้น แม้เธออายุจะเกินเกณฑ์ไปสักนิด แต่ความคาวและประสบการณ์ถือได้ว่าไม่เป็นรองใครในเมืองมอนทอก (Montauk) รัฐนิวยอร์ก
ตั้งแต่ปล่อยตัวอย่างภาพยนตร์ออกมา ก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงเนื้อเรื่องที่ชวนให้คิดถึงการพรากผู้เยาว์เอามากๆ ซึ่งบางเสียงกล่าวว่าถ้าสลับเพศกันเป็นชายอายุมากกว่าและเด็กหญิงวัยรุ่น หนังเรื่องนี้คงถูกถล่มเละแน่ๆ ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าเนื้อหาก็ชวนหมิ่นเหม่อยู่ไม่น้อย
อย่างไรก็ตามด้วยสายตาของผู้ชมภาพยนตร์คนหนึ่งหลังจากที่ได้ชมภาพยนตร์ทั้งเรื่องจบแล้ว เราไม่รู้สึกถึงความไม่เหมาะสมจนเกินงามที่จะทำให้ชวนอึดอัดใจ แม้จุดเริ่มต้นจะเป็นการหลอกล่อให้มารักแต่ก็อยู่บนพื้นฐาน Consent ของกันและกัน ก็ต้องให้เครดิตผู้กำกับภาพยนต์และทีมงานที่สร้างออกมาได้พอดิบพอดี แน่ละว่ามีทะลึ่งนิดๆ ชวนจิ้น ชวนเสียวแบบน่ารักๆ แต่แทบทั้งเรื่องไม่ได้มีฉากร่วมรักโจ่งครึ่มแบบที่กังวลกัน สุดท้ายทั้งสองตัวละครก็แยกย้ายกันไปเติบโตตามเส้นทางของตัวเองโดยเหลือเพียงมิตรภาพที่ดีให้แก่กัน
ภาพยนตร์เรื่องนี้ถูกจัดอยู่ในเรต R ซึ่งเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 17 ปีต้องมีผู้ปกครองเข้าไปร่วมชมด้วยเท่านั้น ไม่สามารถชมได้ตามลำพัง เดาว่านั่นก็เพราะฉากแอ็กชันสุดสยิว เปลือยท่อนบนและล่างเตะต่อยเป็นเวลานานหลายนาทีที่ เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์ เล่นเองแบบไม่ง้อตัวแสดงแทน
ถึงจะเป็นภาพยนตร์คอเมดีเน้นขายความตลกเฮฮา แต่ก็ไม่ลืมใส่แบ็กกราวนด์ตัวละครที่มีปมมาจากการกระทำของพ่อแม่ที่ส่งผลต่อลูก ไม่ว่าจะด้วยความตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม เพราะไม่มีใครสามารถสร้างบาดแผลให้คนอื่นโดยที่ตัวเองไม่เคยบาดเจ็บมาก่อน การก่อกำแพงสูงขึ้นและหนาขึ้น ก็เพื่อป้องกันไม่ให้ใครเดินมาสะกิดรอยเดิมหรือสร้างบาดแผลใหม่นั่นเอง การได้มาพบกันของสองตัวละครสุดขั้วแบบ แมดดี้และเพอร์ซี่ จึงกลายเป็นการรักษาได้อย่างถูกที่คันให้แก่กัน
สำหรับแนวพล็อตพ่อแม่รังแกฉันแบบนี้หลายคนคงได้เห็นมาแล้วหลายต่อหลายเรื่อง แม้จะไม่ได้มีเส้นเรื่องแปลกใหม่ แต่ความพิเศษมันอยู่ที่การแสดงและเคมีของสองนักแสดงนำที่ค่อยๆ ทำให้เรารักและเอาใจช่วยให้หลุดพ้นจากบ่วงที่รั้งไม่ให้ก้าวข้ามไปสู่อนาคต
ส่วนใครที่เป็นแฟนคลับการแสดงของ เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์ อยู่แล้วก็ไม่ผิดหวัง เพราะบทบาทสาวสวยผมบลอนด์ที่เล่นเต็มที่อย่างไม่ห่วงสวย ปากคอเราะร้าย ไดอะล็อกเสียดสี ยิ่งทำให้เราหลงรักความเป็นธรรมชาติของเธอ เสน่ห์เฉพาะตัวทั้งความเซ็กซี่และเสียงแหบนิดๆ มันชวนมองและเคลิ้มได้โดยง่ายดาย ถือได้ว่าเป็นทางหนังที่เธอถนัดและเก่งกาจยากจะหาใครแทน
เกร็ดภาพยนตร์
- แอนดรูว์ เฟลด์แมน ที่รับบท เพอร์ซี่ ยอมเลื่อนเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยฮาร์ดเวิร์ด หลังจากทราบว่าตัวเองจะได้แสดงประกบคู่กับ เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์
- การแสดงสมูทเข้ากันดีของ เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์ และ แอนดรูว์ เฟลด์แมน ที่เราได้เห็นเป็นเพราะเคมีที่คลิกกัน โดย แอนดรูว์ กล่าวกับ Variety ว่าทั้งสองแลกเปลี่ยนมุขตลกดาร์กๆ ใส่กันในทันทีที่เจอกันตั้งแต่วันแรก
- เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์ ได้ให้สัมภาษณ์ว่าเรื่องนี้เป็นภาพยนตร์ที่สนุกที่สุดที่เธอเคยได้เล่นมา
- ฉากแอ็กชันริมชายหาดสุดเสียวของ เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์ ใช้เวลาถ่ายทำสองวัน ท่ามกลางนักแสดงและทีมงานทั้งชายและหญิง
ตัวอย่างภาพยนตร์
รับชมภาพยนตร์ No Hard Feelings ได้ที่โรงภาพยนตร์ทั่วประเทศ
