ทำไมกันนะ ชีวิตของเรามันเรียบๆ ไม่มีอะไรหวือหวาเลย
ทำไมกันนะ ชีวิตของคนรอบข้างต่างประสบความสำเร็จ แต่ชีวิตเรายังไปไม่ถึงไหน
ทำไมกันนะ ชีวิตเราเองยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจริงๆ แล้วควรเดินต่อไปในทิศทางไหน เราเดินมาถูกทางไหม นี่เรากำลังทำสิ่งที่ไม่มีประโยชน์อยู่รึเปล่า แต่สิ่งที่รู้แน่ๆ คือ ตัวเราในตอนนี้ยังไม่ใช่เวอร์ชันที่เราอยากเป็น
ความคิดเหล่านี้ทำให้เรากลับมากดดันตัวเองอยู่เสมอ ทั้งที่ในใจเราก็ยินดีกับความสำเร็จของทุกๆ คน แต่ลึกๆ ก็อดคิดกับตัวเองไม่ได้ว่า ‘ทำไมกันนะ คนนั้นถึงไม่เป็นเราบ้าง’ ‘คนรอบข้างจะมองว่าเราเป็น Loser รึเปล่า’ และสิ่งนี้เรียกว่า Social Pressure หรือแรงกดดันจากสังคม ซึ่งเราเชื่อว่าหลายคนคงเคยเผชิญและรับมือกับมัน อาจจะรู้ตัวหรือไม่รู้ตัวก็ตาม
แต่เราอยากจะบอกว่า ‘ไม่เป็นไรนะ’ เราทุกคนต่างมีจังหวะชีวิตเป็นของตัวเอง บางคนอาจจะก้าวเร็ว เพราะชีวิตไร้สิ่งกีดขวาง หรือบางคนอาจจะก้าวช้า เพราะกำลังดื่มด่ำกับบรรยากาศรอบตัวอยู่ก็ได้
แต่ถ้าอยากทำความเข้าใจตัวเองและอยากรู้ว่าจังหวะชีวิตตัวเองตอนนี้เป็นแบบไหน มีหนึ่งแคมเปญที่น่าสนใจเพิ่งปล่อยออกมา นั่นคือ แคมเปญ #พอดีไม่เหมือนกัน ของนันยาง ที่อยากจะเป็นสื่อกลางในการสื่อสารเรื่องความเมตตากรุณาต่อตนเองในวัยรุ่น นันยางมีแบบสำรวจใจให้เพื่อนๆ ได้ลองทำกันผ่านทางเว็บไซต์ ซึ่งเป็นแบบทดสอบจากงานวิจัยจากมหาวิทยาลัยมหิดลที่อยากส่งเสริมให้ทุกคนเข้ามาเล่นกัน โดยข้อมูลส่วนหนึ่งมหาวิทยาลัยมหิดลจะเอาไปพัฒนาการดูแลสุขภาพจิตเด็กต่อไปอีกด้วย
ความน่าสนใจของแบบทดสอบคือเราจะได้ทำแบบสอบถามเกี่ยวกับความพอใจในชีวิต เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ว่าตอนนี้แต่ละก้าวเดินของเราเป็นจังหวะแบบไหน เหนื่อยไหม สนุกไหม มีทั้งหมด 17 คำถาม โดยต้องเลือกข้อที่ตรงกับตัวเองที่สุด ผลลัพธ์แบบสอบถามของแต่ละคนจะออกมาเป็นคาแรกเตอร์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ดินโคลนเหนียวหนึบ เปลือกกล้วยขี้แกล้ง หมากฝรั่งติดใต้เท้า และไอศกรีมละลายเก่ง เป็นต้น ซึ่งคาแรกเตอร์เหล่านี้บ่งบอกถึงระดับความใจดีต่อตนเอง คอยเตือนว่าเราใจดีกับตัวเองมากน้อยแค่ไหน อีกทั้งยังมีคำปลอบใจ ให้กำลังใจอีกด้วย
“ถ้าไม่สะดุด ล้ม ลุก บ้าง ก็ไม่รู้เลยว่าเราเคยเดินออกไปไหนมาบ้าง” นี่คือประโยคในแบบทดสอบที่สะกิดใจเรา
ระหว่างที่ทำแบบสำรวจ ทำให้เราตกตะกอนหรือกลับมาตั้งคำถามกับตัวเองอีกครั้งว่า เรามาผ่านอะไรมามากมายขนาดนี้เลยเหรอ เราเก่งจังที่ผ่านมันมาได้ และที่ผ่านมาเราได้ให้กำลังใจตัวเองบ้างไหมนะ ได้พาตัวเองออกไปข้างนอก ไปกินอะไรที่อร่อยๆ บ้างไหม หรือได้ให้รางวัลกับตัวเองแล้วหรือยัง
สุดท้ายเราอยากให้ทุกคนได้หันกลับไปดูรอยเท้าที่พาเราก้าวข้ามผ่านดิน โคลน หญ้า ฝน พายุ หรืออุปสรรคมามากมาย เพราะมันคือหลักฐานว่าเราได้ใช้ชีวิต เมื่อรู้สึกเหนื่อยหรือท้อใจ การได้หยุดคุยกับตัวเองบ้างก็เป็นอะไรที่ดีมากแล้ว ที่สำคัญคืออย่าลืมขอบคุณตัวเองด้วยนะ
มาสำรวจจังหวะชีวิตของตัวเองได้ที่ https://nanyangpordee.com/share-your-story
เพื่อนๆ มีจังหวะชีวิตแบบไหนกัน ลองมาแชร์กันได้นะ 🙂