​Saving Banksy : Saving or Vandalizing

ถ้าพูดถึง Banksy เราคิดว่าหลายๆ คนคงรู้จักว่าเขาคือใคร

แต่สำหรับใครที่ไม่รู้จัก Banksy คือ ศิลปินแนวกราฟฟิตี้ชาวอังกฤษ ผลงานของเขาส่วนใหญ่จะเป็นแนวเสียดสีสังคม การเมือง และการต่อต้านสงคราม สอดแทรกด้วยคำคมที่ตลกร้าย โดยใช้เทคนิคการวาดแบบสเตนซิลผสมกับฟรีแฮนด์ที่โดดเด่น ซึ่งผลงานของเขาได้ปรากฎตามถนน ผนัง และสะพานต่างๆ ทั่วอังกฤษ และตลอดจนทั่วทุกมุมโลก

Saving Banksy เป็นสารคดีที่พูดถึงนักสะสมภาพศิลปะ Brian Greif ผู้พยายามรักษางานของ Banksy ที่ชื่อ Haight Street Rat งานชิ้นนี้อยู่บนอาคารหลังหนึ่งในเมือง San Francisco ไบรอันอยากปกป้องงานนี้ก่อนที่จะถูกทำลายหรือนำภาพออกไปขาย/ประมูลโดยนักค้างานศิลปะ

ปัญหาคือตัว Banksy เองไม่ได้อนุญาตและเขาก็ไม่ได้รับเงินส่วนแบ่งใดๆ โดย Banksy เองก็ออกมาประณามคนเหล่านี้อย่างรุนแรงว่าเป็นพวกฉวยโอกาส

ไบรอันได้พยายามเจรจากับเจ้าของตึกที่ Banksy วาด เพื่อขนย้ายชิ้นงาน เจ้าของตึกไม่พอใจและโกรธมากที่ Banksy ทำให้ตึกของเธอเสียหาย และเธอจะไม่ยอมให้มีการขนย้ายรูปนี้เพราะกลัวว่าโครงสร้างตึกจะเสียหาย แต่สุดท้ายเจ้าของตึกก็ยินยอมภายหลังการเจรจายืดเยื้อมานาน

การถอดและขนย้ายชิ้นงานก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจากฝาไม้เหล่านี้มีอายุร่วมร้อยปีและต้องถอดไม้ออกมาเป็นชิ้นๆ ต้องทำอย่างระวังไม่ให้ภาพเกิดความเสียหายด้วย

หลังจากเคลื่อนย้ายแล้ว ชิ้นงานถูกห่อด้วยผ้าและเก็บไว้ในอพาร์ตเมนต์ของไบรอันเพื่อจะหาพิพิธภัณฑ์ต่อไป ซึ่งก็ไม่ง่ายอีกเพราะทางพิพิธภัณฑ์เองก็มีเงื่อนไขในการรับงานศิลปะว่า หากไม่มีการเซ็นรับรองผลงานจากตัวศิลปิน พิพิธภัณฑ์ก็รับชิ้นงานศิลปะไว้ไม่ได้เช่นกัน

ด้วยเงื่อนไขนี้ ทำให้ไบรอันหมดหวัง ข้อแรกคือ Banksy ไม่เซ็นรับรองผลงานกราฟฟิตี้ของเขาเอง เนื่องจากถ้าเขาเซ็นก็จะมีนักค้าภาพเขียนผู้ฉวยโอกาสนำผลงานเขาออกไปขายหรือประมูลในราคาที่สูงลิ่ว อีกเหตุผลหนึ่งเป็นเหตุผลทางกฎหมาย ถ้าเขาเซ็นรับรองผลงานนั่นแปลว่าเขายอมรับผิด เพราะ Banksy ไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของตึกในการวาดภาพนี้

ในมุมมองของเจ้าหน้าที่รัฐ ก็เป็นเหตุผลว่า งานกราฟฟิตี้เหล่านี้ถูกวาดบนพื้นที่สาธารณะต่างๆ โดยไม่ได้รับอนุญาต ศิลปินเหล่านี้ถูกมองว่าเป็นพวกชอบทำลายทรัพย์สินสาธารณะ (Vandalism) และมันก็ผิดกฎหมายในบางพื้นที่หรือในบางประเทศด้วย

ท้ายที่สุด ภาพหนูนี้ได้ถูกนำไปบูรณะและเก็บรักษาในโกดังงานศิลปะส่วนบุคคลที่ซานฟรานซิสโก

เขาก็ได้รับการติดต่อซื้อภาพโดยให้ราคาสูงสุดถึง 700,000 ดอลลาร์สหรัฐ แต่เขาไม่ยอมขายเนื่องจากยังไม่เห็นว่ามีผู้ใดเหมาะสมที่จะได้ภาพนี้ไป

เราชอบที่หนังค่อยๆ อธิบายงานศิลปะแบบกราฟฟิตี้ในภาพรวม แล้วกระชับเข้ามาหาประเด็นที่ต้องการจะสื่อโดยไม่รู้สึกสะดุด ส่วนความสนุกของ Saving Banksy คือ การที่ตัวสารคดีมีความขัดแย้งกันตลอดเวลาในแง่ของความคิด จริยธรรม ความถูกต้อง ในด้านงานภาพส่วนใหญ่จะเป็นการสัมภาษณ์ความคิด ความรู้สึก ของผู้คนที่เกี่ยวข้องกับประเด็นนี้ แต่บอกได้เลยว่า มีการเล่นกับ visual แบบกราฟฟิตี้ และเราชอบที่บางฉากมีการตัดต่อให้เหมือนมีการถกเถียงกันแบบคำต่อคำด้วย

ในที่สุดแล้ว ผู้กำกับยังคงรักษาเส้นแบ่งเบลอๆ ระหว่างคุณค่าของงานกราฟฟิตี้ ในฐานะงานศิลปะที่ควรถูกเก็บรักษาไว้ หรือเป็นเพียงผลผลิตจากคนมือบอนที่ควรถูกทำลาย แม้ภาพยนตร์สารคดีจะจบลง สิ่งนี้ก็ได้ส่งเป็นคำถามปลายเปิดให้สังคมคิดและถกเถียงกันต่อไปไม่รู้จบ

AUTHOR