Minhwa Painting เรื่องราวของศิลปะพื้นเมืองเพื่อแรงใจและความสงบจากภายในของเกาหลีใต้

สิ่งหนึ่งที่มนุษยชาติขาดไม่ได้คือ ‘กำลังใจ’ 

เวลาที่ต้องการกำลังใจ หลายคนคงทวีตบอกเล่าความรู้สึก บางคนอาจพิมพ์หาเพื่อน แล้วกำลังใจก็ส่งกลับมาหาเราในเสี้ยววินาที 

แต่ในสมัยที่โลกไม่มีเทคโนโลยีเชื่อมต่อเรากับผู้คนรอบข้าง ผู้คนในตอนนั้นเค้าทำอย่างไรกัน?

หนึ่งในนั้นคือ การส่งมอบความรู้สึกดีๆ ด้วยภาพมินฮวา (Minhwa Painting) แบบชาวเกาหลี โดยเฉพาะในช่วงปลายสมัยโชซอน (ค.ศ. 1392-1910) ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ต้องการกำลังใจเพื่อก้าวผ่านความยากลำบาก ภาพวาดมินฮวาช่วยทำหน้าที่ย้ำเตือนความงามของชีวิต และสร้างความรู้สึกดีๆ ให้กับตัวเองและคนรอบข้าง

ภาพวาดมินฮวา คืออะไร?

ความหมายของคำว่า ‘มินฮวา’ คือ ‘ทุกคน’ ภาพวาดมินฮวาจึงหมายถึง ‘ภาพวาดของทุกคน’ ใช้เรียกภาพวาดพื้นบ้านที่แพร่หลายอย่างมากในสมัยโชซอนของเกาหลี ซึ่งสมัยนั้นมีประวัติความเป็นมายาวนาน วิทยาการในด้านต่างๆ ยังเฟื่องฟู ทั้งด้านการแพทย์ รวมไปถึงการศึกษา

ภาพวาดมินฮวามีหลายแบบ แต่ละแบบล้วนเป็นงานศิลปะที่ชาวเกาหลีใต้ภาคภูมิใจ ในช่วงแรกได้รับอิทธิพลมาจากการวาดภาพด้วยพู่กันแบบจีน แต่ภายหลังได้พัฒนาให้มีเอกลักษณ์เฉพาะในแบบเกาหลี ทั้งเรื่องลายเส้น โทนสี และรายละเอียดในภาพ

โทนสีที่ใช้ในศิลปะการวาดภาพมินฮวามักเป็นโทนสีอ่อนไปจนถึงโทนกลางๆ หลายครั้งนิยมใช้โทนสีหวาน เช่น สีชมพู สีฟ้า และสีครีม ไม่ค่อยเลือกใช้แม่สีหรือว่าสีเข้ม

ลายเส้นที่ใช้วาดมักเรียบๆ ไม่คม และไม่เน้นเรื่องแสงเงาหรือน้ำหนักมากนัก และยังไม่ค่อยพบเห็นการใช้เทคนิคตวัดพู่กันแบบที่ใช้ในการวาดภาพของจีน

โดยมากศิลปินมักได้แรงบันดาลใจมาจากสิ่งรอบๆ ตัว และสิ่งที่พบเห็นในชีวิตประจำวัน ส่วนใหญ่มีลักษณะเรียบง่าย แต่มีความหมายที่เป็นมงคล เช่น รูปดอกโบตั๋นสื่อถึงความมั่งมี ครอบครัว และลูกหลาน ปลาคาร์ปหมายถึงความสำเร็จสมหวังดังใจหมาย และรูปเสือที่หมายถึงอำนาจและเกียรติยศ

และเนื่องจากศิลปินผู้วาดภาพมินฮวาส่วนใหญ่เป็นผู้คนธรรมดาๆ ซึ่งต้องการบอกเล่าเรื่องราวความสวยงามในชีวิต หลายครั้งเราจึงไม่พบเห็นการเซ็นชื่อของศิลปินบนภาพวาดชนิดนี้!

เทคนิคเฉพาะของการวาดภาพมินฮวา

การที่จะภาพวาดมินฮวาให้สวยงามดูเป็นธรรมชาติ ต้องใช้เทคนิควิธีเฉพาะของเกาหลีซึ่งแตกต่างจากการวาดภาพของตะวันตกอย่างสิ้นเชิง

ในฐานะที่เราเองก็วาดภาพสีน้ำ ต้องบอกเลยว่าเป็นเทคนิคที่ต้องทำความรู้จักใหม่

ก่อนอื่นต้องใช้กรอบไม้เนื้อดีและกระดาษดั้งเดิมของเกาหลีที่เรียกว่า ‘กระดาษฮันจิ’ แล้วนำมาลอกลายลงบนกระดาษเพื่อให้ทุกคนสามารถวาดภาพมินฮวาได้ จึงค่อยทำการลงสีทีละชั้นๆ อย่างประณีต 

เนื่องจากกระดาษฮันจิมีเนื้อบางมาก ไม่สามารถอุ้มน้ำได้มากเท่ากับกระดาษสีน้ำหลายร้อยแกรมของตะวันตก จึงไม่สามารถวาดด้วยน้ำมากๆ หรือใช้เทคนิคเดียวกันได้ เวลาวาดภาพมินฮวาจึงต้องระวังไม่ให้ปริมาณน้ำเยอะเกินไป ในขณะเดียวกันก็ต้องมากพอที่ให้สียึดติดกระดาษได้ 

แทนที่จะจุ่มพู่กันลงในสีที่ผสมด้วยน้ำเยอะๆ เราต้องผสมสีให้เหลวเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แล้วค่อยใช้พู่กันที่เปียกน้ำแค่หมาดๆ แตะสีสันลงไป จากนั้นก็รอให้สีแห้งสนิท ก่อนที่จะเพิ่มน้ำหนักสีทับลงไปด้วยการใช้พู่กันปาดเบาๆ 

หากวาดด้วยเทคนิคเดียวกับการวาดสีน้ำของตะวันตก กระดาษจะยุ่ยขาดได้ ช่วงแรกๆ ที่ฝึกวาดภาพมินฮวา จึงควรฝึกลงสีบนกระดาษฮันจิบางๆ ให้คล่อง ก่อนที่จะลงมือวาดภาพใหญ่ๆ 

แรงใจ สมาธิ และความสงบใจจากการวาดภาพมินฮวา

การประดับบ้านและที่อยู่อาศัยด้วยภาพมินฮวา เปรียบเสมือนการส่งแรงใจให้ตัวเราในทุกๆ วัน

เวลาที่มองดูภาพมินฮวา จะรู้สึกสบายใจและผ่อนคลายความกดดัน เพราะลายเส้นที่เรียบง่ายไม่ซับซ้อนมีผลทางบวกในเชิงจิตวิทยา แล้วยิ่งเป็นสิ่งที่มีความหมายดีๆ ด้วย แต่ละวันของเราจึงเปี่ยมไปด้วยความสงบ 

สำหรับคุณอี จูยอง ศิลปินภาพวาดมินฮวาชาวเกาหลีใต้ การที่ได้วาดภาพมินฮวาทำให้เธอรู้สึกเหมือนได้ฝึกสมาธิ 

โดยเฉพาะในโลกที่สิ่งต่างๆ เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว การมีโมเมนต์ที่จิตใจสงบจากสิ่งรอบข้าง เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องการ การจดจ่อในสิ่งที่ทำอย่างช้าๆ ค่อยๆ พยายามทีละน้อย แล้วจับพู่กันลงสีทีละชั้นๆ ทำให้เริ่มรู้สึกผ่อนคลายจากโลกที่หมุนเร็วเกินไปในตอนนี้

แต่ละฝีแปรงของการวาดภาพมินฮวาจึงเป็นเหมือนการค่อยๆ วางความหนักบนแขนทั้งสองข้างลง แล้วค่อยๆ เข้าสู่ความสงบนิ่ง

การตอบรับภาพมินฮวาในเมืองไทย

ในตอนนี้ภาพมินฮวาได้รับความสนใจเป็นอย่างมากในสิงคโปร์ ยุโรป และสหรัฐอเมริกา ในฐานะที่เป็นศิลปะพื้นบ้านซึ่งชาวเกาหลีใต้ภาคภูมิใจ แกลเลอรีในหลายประเทศเปิดสอนศิลปะการวาดภาพมินฮวาโดยอาจารย์จากเกาหลีใต้และอาจารย์ชาวต่างชาติที่หลงใหลในงานศิลป์นี้

และในเกาหลีใต้เองก็มีพิพิธภัณฑ์หลายแห่งที่จัดแสดงภาพวาดมินฮวา และยังมีนิทรรศการภาพมินฮวาหมุนเวียนไปในอีกหลายแห่ง สามารถชมได้ที่ National Palace Museum of Korea, Kansong Museum, Rium Museum และ Hoam Art Gallery ในกรุงโซล

ส่วนประเทศไทย ภาพวาดมินฮวาเริ่มเป็นที่พูดถึงในหมู่ผู้รักศิลปะ โดยมีคุณอี จูยอง เป็นสะพานเชื่อมสองวัฒนธรรมเข้าด้วยกันภายใต้ชื่อ Bangkok Minhwa 

คุณอี จูยอง เรียนรู้และฝึกฝนศิลปะการวาดภาพมินฮวามาเป็นเวลานานหลายปี ตอนนี้กำลังคร่ำเคร่งกับการศึกษาเพิ่มเติมในช่องทางออนไลน์ของโรงเรียนเกาหลีมินฮวาในประเทศเกาหลีใต้ 

ภาพวาดมินฮวาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของคุณอี จูยอง ขนาดที่เรียกว่าขาดไม่ได้เลย

นอกจากจะหลงใหลการวาดภาพมินฮวาแล้ว คุณอี จูยอง ยังเปิดเวิร์กช็อปถ่ายทอดเทคนิควิธีการวาดภาพศิลปะพื้นบ้านของเกาหลีใต้ชนิดนี้ด้วย ลูกศิษย์ของคุณอี จูยอง มีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่สนใจ แต่ละคนต่างล้วนมาเวิร์กช็อปด้วยความกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้งานศิลป์ที่สวยงามสบายใจนี้

สำหรับเราเองรู้สึกประทับใจกับการมีสติจดจ่อทำสิ่งที่อยู่ตรงหน้าอย่างช้าๆ พอได้จับพู่กัน ก็สัมผัสได้ถึงความช้าแต่ว่ามั่นคง ความนิ่งแต่มีพลัง

แล้วยิ่งได้เห็นภาพมินฮวาที่วาดเอง ยิ่งรู้สึกเหมือนกับทำบางสิ่งบางอย่างสำเร็จ 

แล้วสิ่งนี้เองนำมาซึ่งความสุขสงบใจ

————

เครดิตภาพ

จินนี่ สาระโกเศศ

AUTHOR