‘ยอมรับโดยดีว่าพี่ 30 แล้ว’ สำรวจเหตุผลของความกลัวเลข 3 และทำอย่างไรให้ยอมรับความสูงวัยอีกขั้น

แต่ละปีเรามักเห็นคอนเทนต์ที่พูดถึงคนที่เกิดในปี พ.ศ. 25XX หรือ ค.ศ. 19XX ที่กำลังจะมีอายุ 30 ปี ในปีนั้นๆ และแน่นอนว่าในปี 2568 นี้ ผู้ที่กำลังก้าวย่างเข้าสู่โลกของเลข 3 คือคนที่เกิดในปี พ.ศ. 2538 หรือ ค.ศ. 1995 นั่นเอง

“ว้าย 30 แล้วเหรอพี่ ทำไมแก่จัง”

“เข้าเลข 3 แล้ว หลังจากนี้เวลาจะผ่านไปเร็วมากนะ”

“ร่างกายจะเริ่มเอาคืนแล้วนะ”

“30 แล้ว มีอะไรเป็นของตัวเองหรือยัง”

อาจพูดได้ว่า เลข 3 มาพร้อมหลากหลายคำพูดและความรู้สึก ซึ่งบางครั้งเป็นในแง่ลบด้วยซ้ำ ทำให้บรรดาผู้ที่กำลังถึงหมุดหมายที่ 30 ของชีวิต ฟังแล้วเกิดความวิตกกังวล

ในความเป็นจริงแล้ว ความกังวลที่คนมีต่ออายุเลข 3 ก็ไม่ใช่เรื่องโอเวอร์ เพราะการมีอายุครบ 30 อาจเป็นก้าวสำคัญในชีวิตของคนคนหนึ่ง ถือเป็นการสิ้นสุดและเริ่มต้นทศวรรษใหม่ จึงไม่แปลกที่มันจะนำมาซึ่งอารมณ์ที่หลากหลาย ตั้งแต่ตื่นเต้นไปจนถึงกลัว

มันเป็นช่วงเวลาที่ ‘ความเยาว์วัย’ ถึงจุดสิ้นสุด ซึ่งมาพร้อมความกดดันในการบรรลุเป้าหมายสำคัญบางอย่างในชีวิต ทั้งเรื่องของการประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน ไปจนถึงความมั่นคงในชีวิต และการสร้างครอบครัว

กล่าวได้ว่า ความรู้สึกที่ท่วมท้นเหล่านี้มีสาเหตุมาจากความคาดหวังส่วนตัว ที่บางคนเริ่มตระหนักว่า เวลาผ่านไปถึง 1 ใน 3 ของชีวิตแล้ว แต่เป้าหมายหรือหมุดหมายที่สำคัญบางอย่างในชีวิตยังไม่บรรลุ ท่ามกลางความคาดหวังของสังคมที่ให้ความสำคัญกับการบรรลุเป้าหมายตามช่วงอายุ เช่น อายุ 20 ต้องสำเร็จการศึกษาและมีงานที่ดี อายุ 30 ต้องแต่งงาน มีครอบครัว ประสบความสำเร็จในการทำงาน ไหนจะต้องต่อสู้กับคนรุ่นใหม่ๆ อีก

เหล่านี้ล้วนเพิ่มความรู้สึกวิตกกังวล ความไม่แน่นอน แล้วเราจะทำอย่างไรดี เพื่อเปลี่ยนความคิดและเผชิญหน้ากับความรู้สึกที่มีต่อเลข 3 ที่มาถึงแล้ว?

หาคำตอบที่แท้จริงว่าทำไมเราถึงกลัวเลข 30

ความกังวลต่ออายุที่มากขึ้นเป็นเรื่องปกติ แต่ความกลัวหรือวิตกกังวลของเราอาจเป็นสิ่งที่เกินเลยจากความเป็นจริง การลองเขียนระบุ ‘สาเหตุ’ ที่ทำให้รู้สึกเช่นนั้น อาจทำให้เราสามารถยอมรับเลข 3 ได้เร็วขึ้น มีไม่น้อยที่คิดว่าเลข 3 คือความแก่ แต่ลองดูดีๆ ด้วยความก้าวหน้าทางการแพทย์ หรือความคิดทางสังคมที่เปลี่ยนไป เลข 3 ไม่ใช่ความแก่อีกต่อไปแล้ว! แต่มันอาจเป็นเลขของความเป็นหนุ่มสาวที่แท้จริงด้วยซ้ำ 

เมื่อลองเขียนความกลัวเกี่ยวกับเลข 3 ออกมาแล้ว สิ่งสำคัญคือมันจะช่วยให้เราตระหนักว่าความกังวลเหล่านี้ ‘ไม่สมเหตุสมผล’ สักหน่อย และทำให้เรายอมรับเลข 3 ด้วยใจระทึกตื่นเต้นแทน

ยอมรับโดยดีว่าพี่อายุ 30 แล้วนะ 

ในมังงะเรื่อง โคนัน มีตอนหนึ่งที่ไฮบาระพูดกับโคนันว่า “ไม่มีใครดึงเวลาให้ย้อนกลับได้หรอก แต่หากยังดื้อดึงให้มันย้อนกลับ คนนั้นแหละจะถูกลงโทษ” แม้อาจจะเป็นคนละบริบทกับเรื่องของอายุ แต่นั่นก็สะท้อนความเป็นจริงว่า ไม่มีใครย้อนเข็มแห่งกาลเวลาได้ ดังนั้น การยอมรับว่าเราอายุ 30 แล้วนะ เสมือนเป็นการปล่อยวางและตระหนักถึงสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งอาจทำให้เรายอมรับเลข 3 ได้ง่ายขึ้น 

นอกจากนี้ ยังมีคำที่บอกว่า ‘30 คือ 20 ครั้งใหม่’ นี่เป็นเทคนิคของวิธีคิดในเชิงพฤติกรรมของการกำหนดกรอบอายุเพื่อลดความรู้สึก ซึ่งจะช่วยให้ยอมรับได้ง่ายขึ้น อีกทั้งถ้าลองคิดดีๆ คนรอบตัวเราที่เป็นรุ่นพี่ เพื่อน หรือพ่อแม่ ทุกคนต่างผ่านอายุ 30 กันมาได้ทั้งนั้น แถมบางคนมีความสุขกว่าตอนอายุเลข 2 เสียอีก

อายุเป็นเพียงตัวเลข

ประโยคคลาสสิก ที่ยังคงใช้ได้เสมอ ยิ่งในยุคสมัยปัจจุบันที่เทคนิคการดูแลร่างกาย ดูแลสุขภาพ และการใช้ชีวิต กำลังเป็นเทรนด์ ทำให้ผู้คนสุขภาพดีและดูอ่อนกว่าวัยกันเต็มไปหมด ยิ่งหากเราออกกำลังกาย กินอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงจากความเครียดที่ไม่จำเป็น เผลอๆ เราอาจดูเด็กและสุขภาพดีกว่าคนวัย 20 ด้วยซ้ำ

หลายครั้งที่สังคมในสื่อมักทำให้ ‘ความสูงวัย’ เป็นเรื่องของความเจ็บปวด ความอ่อนแอ และความเกียจคร้าน แต่ Mark Twain นักเขียนชาวอเมริกันผู้มีชื่อเสียงเคยกล่าวไว้ว่า “อายุเป็นเรื่องของจิตใจ มากกว่าความสำคัญ ถ้าเราไม่สนใจ มันก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญ” ดังนั้น หากเราไม่ไปโฟกัสที่ตัวเลข แต่สนใจว่าในวัยนี้เราทำอะไรได้มากแค่ไหน และเรารู้สึกดีอย่างไร น่าจะเป็นเรื่องที่สำคัญกว่า

ลองคิดถึงความสำเร็จของเราจนถึงตอนเลข 3

แต่ละช่วงทศวรรษของชีวิตล้วนเต็มไปด้วยเรื่องราวและความสำเร็จส่วนตัวของเรา การลองนึกถึงสิ่งที่เราทำสำเร็จไปแล้วในวัยเลข 2 จะช่วยให้เราพร้อมสำหรับทศวรรษแห่งเลข 3 ที่น่าตื่นเต้นมากกว่าความกังวล หรือบางสิ่งที่เราเริ่มต้นมาตั้งแต่ในวัย 20 อาจกำลังเดินทางมาถึงจุดสำคัญของความสำเร็จในช่วงวัย 30 ก็ได้ 

ละทิ้งความคาดหวัง เลี่ยงการเปรียบเทียบ

บางครั้งความกลัวที่มีต่อเลข 3 อาจมีจุดเริ่มต้นจากความคาดหวังที่มีต่อตนเอง การปล่อยวางความคาดหวังที่ไม่สมเหตุสมผล ยอมรับว่าไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบ สามารถช่วยให้เรา ‘สร้าง’ สภาพแวดล้อมเชิงบวกและเริ่มต้นวัย 30 ได้อย่างถูกทาง

นอกจากนี้ แต่ละคนล้วนแตกต่างกัน การเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นสามารถลดความมั่นใจในตนเองได้ โดยเฉพาะในยุคที่สังคมกดดันให้คนต้อง ‘เยาว์วัย’ ถึงจะดี แต่อย่าให้ ‘บรรทัดฐานทางการตลาด’ เข้ามามีอิทธิพลมากเกินไป ดังนั้น การโฟกัสที่ตนเองและไม่เปรียบเทียบกับผู้อื่น ถือเป็นสิ่งสำคัญในการ ‘ยอมรับ’ หมุดหมายของเลข 3 ที่มาถึง

แด่คนที่กำลังเข้าสู่เลข 3 ในปีนี้ (หรือปีต่อๆ ไป) ลองไตร่ตรองดูให้ดีว่าความวิตกกังวลหรือความกลัวที่มี มีจุดเริ่มต้นมาจากไหน และมันสมเหตุสมผลแล้วหรือยังที่จะต้องกลัวขนาดนั้น หรือมันเป็นเพียงสิ่งที่ทำให้เรารู้สึกว่าต้องรับผิดชอบมากขึ้น เป็นผู้ใหญ่มากขึ้น หรือเรายังทำหลายสิ่งไม่สำเร็จก่อนวัยเลข 3

ความกดดันที่ต้องจัดการทุกอย่างให้ได้ก่อนอายุ 30 อาจเป็นเรื่องใหญ่สำหรับหลายคน แต่อย่างไรก็ดี สิ่งสำคัญคือต้องจำไว้ว่า ทุกคนมีหนทางแตกต่างกัน และไม่มีคำว่าถูกหรือผิดในการเข้าสู่ ‘บทใหม่’ ของชีวิต

ยินดีต้อนรับสู่เลข 3

AUTHOR