ปอย Portrait : นักแต่งเพลงที่เปลี่ยนน้ำตาให้เป็นเนื้อร้อง

เมื่อสิบปีที่แล้ว ปอย-ตะวัน ชวลิตธํารง หรือที่รู้จักกันในนามว่า ปอย Portrait ได้ฝากผลงานเพลงเศร้าชื่อดังอย่าง ขอดาว คนแปลกหน้า หรือ กลับไปไม่รู้จัก ที่ทำให้คนฟังอินจนร้องไห้มาหลายต่อหลายครั้ง เขาเป็นเหมือนผู้ควบคุมน้ำตาของคนให้ไหลได้ตามใจต้องการด้วยการร้องเพลง แต่เขาหายไปจากวงการเพลงนานถึง 8 ปี ก่อนจะกลับมาพร้อมอัลบั้มที่สามอย่าง 4 A.M. ในปี 2015 และล่าสุดซิงเกิล เจ็บจนไม่เข้าใจ ก็คว้าอันดับหนึ่งใน iTunes Store นานหนึ่งสัปดาห์เต็ม

นอกจากแต่งเพลงให้ตัวเองแล้ว เร็วๆ นี้ปอยยังข้ามไปแต่งเพลงให้ศิลปินอื่นในฐานะโปรดิวเซอร์ของค่ายเพลงน้องใหม่อย่าง BOXX MUSIC ผลงานที่น่าจับตาคงหนีไม่พ้นเพลง ขอพร ที่ได้ กันต์ ชุณหวัตร มาเป็นคนถ่ายทอดความเศร้าแบบเหงาๆ ให้

วันนี้เราจะมาถอดสลักฝีมือการแต่งเพลงของเจ้าพ่อแห่งวงการเพลงเศร้าไปพร้อมๆ กัน

จากสมาชิกเว็บพันทิป สู่นักแต่งเพลงอาชีพ

ผมชอบร้องเพลงก่อน ร้องตั้งแต่ตื่นยันหลับเลย เพลงที่ชอบร้องมีแต่เพลงเศร้าๆ อย่างเพลง เวลาไม่ช่วยอะไร ของพี่คริสติน่า อากีล่าร์ ที่จบด้วยประโยคที่ว่า ‘คงจะเป็นเหมือนโดนคำสาปที่สั่งให้ยังรักเธอจนตาย’ตอนนี้ยังจำได้อยู่เลย ผมได้ไปเป็นสมาชิกเว็บพันทิปยุคแรกๆ ซึ่งทำให้ได้รู้จักตัวจี๊ดของวงการเพลงอย่าง นิติพงษ์ ห่อนาค และตรัย ภูมิรัตน ทุกคนรู้จักกันหมดเลย มีน้องคนหนึ่งในพันทิปชวนไปตึกแกรมมี่ เขาจะเอาเพลงที่แต่งไปส่ง แว่น-จักราวุธ แสวงผล เราเลยเข้าไปด้วยครั้งนั้นทำให้ผมได้เห็นวิธีสอนการแต่งเพลง เขาเอาเมโลดี้ที่ใช้จริงในแกรมมี่ตอนนั้นมาให้ลองแต่ง ตรวจเสร็จพี่แว่นบอกให้น้องไปเขียนมาอีกรอบ ผมฟังแล้วสนใจเลยบอกน้องว่าขอก๊อปเมโลดี้หน่อย อยากลองแต่งบ้าง ครั้งหน้าที่น้องไปผมก็เอาไปส่งด้วย ตีหน้ามึนไปเลย แต่พี่แว่นก็ตรวจให้ เขาเลยกลายเป็นครูเพลงคนเดียวที่ผมเคยไปนั่งเรียนด้วย เป็นคนตีกรอบการเขียนเพลงให้ผมก่อนที่ผมจะกระโดดโลดเต้นอยู่ในกรอบนั้น

ประโยคเด็ดต้องมา จินตนาการต้องมี

 

เวลาแต่งเพลงผมจะเริ่มจากประโยคเด็ดที่กระทบใจมากๆ ก่อน แล้วค่อยสร้างทุกอย่างรอบประโยคนั้นอย่างเพลง แค่คิดถึงเธอ ผมเคยเห็นคนตั้งสเตตัสว่า ‘คิดถึงพี่นะ แค่คิดถึงไม่ผิดใช่ไหม’ แค่นี้ผมเอามาแต่งเพลงได้เป็นท่อน ‘แค่คิดถึงเธอ อยู่ดีๆ มองดาวมองฟ้าน้ำตาก็ไหล’ อีกวิธีที่ผมชอบใช้คือสมมติเรื่องให้เพลง ยิ่งเราอินกับเรื่องกับตัวละครเท่าไหร่ เพลงจะยิ่งสมจริงมากขึ้นเท่านั้น ตอนแต่งเพลง ขอดาว ผมก็นึกเป็นผู้หญิงผมหน้าม้าใส่ชุดนอนสีฟ้ายืนอยู่ที่ระเบียงชั้นสอง กำลังมองดาวอยู่

ถอดรหัสนักแต่งเพลงตัวพ่อ

พี่ดี้บอกให้เราลองวิเคราะห์เพลงที่ชอบว่าทำไมถึงชอบแล้วพยายามถอดรหัสว่าทำไมเขาแต่งเพลงแบบนี้ ทำไมฟังแล้วร้องไห้ น้ำตาไหลตรงคำไหน ผมย้อนไปวิเคราะห์เพลงของนักแต่งเพลงเก่งๆ แล้วนั่งย่อยทุกเพลงทีละวรรค ทีละประโยค อย่างเพลงพี่ดี้ ถ้าเห็นเนื้อเพลงแกจะรู้เลยว่าเป็นคนปากจัด สั้นๆ แต่เจ็บ เล่าแค่วรรคแรกคนฟังก็เข้าใจแล้วว่าเพลงจะสื่ออะไร อย่างเพลง ก็เลิกกันแล้ว ที่แต่งให้ เบิร์ด ธงไชย แค่ขึ้นมาประโยคแรกว่า ‘ใครบอกเธอว่าฉันเหงา’ คนฟังก็เข้าใจแล้วว่าเพลงนี้ออกแนวประชดประชัน ส่วนพี่แว่นจะเป็นคนเจ้าสำนวน อย่างเพลง เจ้าช่อมาลี ผมฟังแล้วได้แต่คิดว่าแต่งได้ยังไงวะ พอถอดรหัสพวกนี้ได้ผมก็เอามาปรับใช้กับเพลงตัวเอง

พลังจากความเศร้า

ผมเคยลองแต่งเพลงแนวอื่นก็จริง แต่เพลงส่วนมากที่ผมแต่งแล้วอินคือเพลงเศร้า เพลงแนวอื่นแต่งแล้วไม่รู้สึกเชื่อตาม จบอัลบั้มหนึ่งของ Portrait ผมเลยใช้ความเศร้าเป็นวัตถุดิบหลักในการแต่งเพลง ครั้งหนึ่งผมได้ฟังรายการ Club Friday ที่สัมภาษณ์ อาหนิง-นิรุตติ์ เรื่องภรรยาเสียชีวิต แล้วแกพูดว่าทุกวันตื่นมาเพื่อรอพระอาทิตย์ตก ฟังแล้วอยากเอาไปแต่งเพลงเลย ความรักมีความเศร้าอยู่ รักที่ไม่สมหวังมีสัดส่วนมากกว่ารักที่สมหวังเยอะ ตอนเด็กๆ ผมมีความรักแล้วไม่สมหวัง ผมถามตัวเองว่าทำไม แล้วเริ่มเดินทางหาวิธีมาเอาชนะมันแต่ก็ไม่เคยชนะ จนผมเริ่มสนใจอุปสรรคมากกว่าจุดหมาย

ผู้วิเศษที่ควบคุมคนได้

เพลงมีอำนาจ นักแต่งเพลงเหมือนผู้วิเศษที่ชี้ให้ใครหัวเราะหรือร้องไห้ก็ได้ ผมอยากเป็นนักแต่งเพลงด้วยเหตุผลนี้เลย ผมเคยแต่งเพลงด้วยความรู้สึกแค่ว่าอยากให้คนเศร้าที่สุด เลยออกมาเป็นเพลง เรื่องโกหก ซึ่งทุกวรรคทุกตอนรับใช้ความเศร้าเท่านั้น แต่ตอนจะแต่งเสร็จมีฉุกคิดถึงเพลง Gloomy Sunday ที่เล่ากันมาว่าใครฟังก็ฆ่าตัวตาย ทำให้ผมนึกภาพว่าถ้ามีคนฆ่าตัวตายเพราะฟังเพลง ผมจะติดคุกเปล่าวะ เลยแอบใส่ไปตอนสุดท้ายไว้ว่า ‘อยู่อย่างเดียวดาย ไม่มีใครเคียงข้างกาย นั่นคือสิ่งที่จะต้องเป็น นั่นคือสิ่งที่จะต้องเจอจนวันตาย’ คือจะสื่อว่าคุณเศร้าได้แต่ห้ามฆ่าตัวตายกลางคันนะ ให้แก่ตายไปนั่นแหละดีแล้ว

เพลงของผมไม่ได้ซ้ำเติมคน แต่มีไว้เพื่อเป็นเพื่อนคนเศร้าในวันที่เขาไม่ต้องการให้ใครมาปลอบแล้วบอกว่า “สู้ๆ นะ ลุกขึ้นสิ” เขาไม่ได้อยากฟังคำพวกนั้น เขาอยากจะเศร้าให้ถึงขีดสุดเพื่อที่จะเด้งกลับขึ้นมาเอง เพลงของผมจะประคองเขาไว้ระหว่างนั้น พอเขาหายดีแล้ว เขาจะรู้สึกว่าเพลงของผมได้ช่วยเขาไว้

เพลงที่มาจากเลือดเนื้อ

ผมตั้งใจว่าจะแต่งเพลงเกี่ยวกับพลังของธรรมชาติให้ครบ มีดาวในเพลง ขอดาว ลมในเพลง สายลม พระจันทร์ในเพลง ทุกๆ คืน แล้วก็ฝนในเพลง แค่อีกคืนที่ฝนพรำ คิดภาพไว้ว่าเป็นผู้ชายคนหนึ่งในห้องมืด มีแสงจันทร์ส่องลงมาผ่านสายฝนจนเห็นเป็นเงาฝน ชายคนนั้นเพิ่งถูกทิ้งไปและนั่งอยู่คนเดียวพร้อมบอกกับตัวเองว่าก็แค่อีกคืนที่ฝนพรำ แค่อีกคืนที่ภาพของเขาคนนั้นกลับมา เพลงนี้ตั้งใจแต่งมากแต่ไม่มีใครรู้จักจนถึงทุกวันนี้ เราก็ยังภูมิใจกับมันนะ จริงๆ รักทุกเพลงแหละ ทุกเพลงมาจากเลือดเนื้อของเรา แต่งเอง ร้องเอง

นักแต่งเพลงก็เหมือนช่างตัดเสื้อ

เขียนเพลงให้คนอื่นต่างกับเขียนเพลงให้ตัวเองมาก เขียนเพลงให้ตัวเองก็เหมือนสร้างศิลปะ เราจรรโลงใจ แต่การแต่งเพลงให้คนอื่น เราไม่ใช่คนสร้างศิลปะ เราเป็นช่าง พี่ดี้เคยพูดไว้ว่านักแต่งเพลงเหมือนช่างตัดเสื้อ เราตัดให้คนอื่นใส่ เราต้องรู้สัดส่วนเขา รู้ว่าเขาชอบขาม้าหรือขาเดฟ ไม่เกี่ยวเลยว่าเราจะชอบไหม แค่ตัดให้คนอื่นใส่แล้วเขามีความสุข แต่เราต้องมองให้ออกว่าเขาเป็นคนยังไง ต้องทำความรู้จักกับเขาจริงๆ ถ้านักเลงหน่อย ก็ต้องแต่งให้สั้นๆ ห้วนๆ ถ้าเป็นคนเจ้ากวีมาก ก็ต้องให้พรรณนาเยอะๆ


5 เพลงที่เจ้าพ่อเพลงเศร้าเลือกให้เป็นที่สุด

แค่คิดถึงเธอ

เพลงนี้เป็นเพลงแรกที่ผมทำเองทุกอย่าง ทั้งแต่งเนื้อร้อง แต่งทำนอง มิกซ์เพลง ตอนนั้นผมเล่นดนตรีไม่ค่อยเป็นด้วย ไปเรียนแค่คอร์สทำเพลงสั้นๆ เอง ก็จิ้มๆ คีย์บอร์ดเอา ได้ลองวิชาหลายอย่างเลย จุดบอดก็เยอะเหมือนกัน ปกติแล้วเขาจะเริ่มเพลงด้วยกลองก่อน ตามด้วยเบส เหมือนเป็นการขึ้นโครงกระดูกให้เพลง เพลงนี้กลองกับเบสมั่วสุดๆ แต่ผูกพันมากเพราะจำได้ทุกโน้ต ทุก automation (การทำเพลงโดยใช้เทคโนโลยีเข้าช่วย) ที่เขียนไว้

วันที่หัวใจเคลื่อนไหว

เพลงนี้เกี่ยวกับรักข้างเดียว ผมว่ามันเหมือนชักกะเย่อ เราพยายามดึงเขาเข้ามาในขณะที่เขาก็พยายามผลักเราออกไป ซึ่งจะจบก็ต่อเมื่อมีใครสักคนเคลื่อนไหว อาจจะเป็นเราที่เลิกรักเขา หรือเป็นเขาที่ปฏิเสธก่อน ผมคิดคอนเซปต์ได้แล้วแต่ยังนึกวิธีเล่าไม่ออก เลยขอให้ คุณวิภว์ บูรพาเดชะ (บก. นิตยสาร happening) แต่งให้ บรีฟทุกอย่างให้เรียบร้อย แต่เขาแต่งมาแล้วสิ่งที่ต้องการสื่อเพี้ยนไป ผมก็เกรงใจเพื่อนเลยตัดสินใจใช้เนื้อร้องนั้นอัดไป พอตอนขับรถกลับบ้านกำลังจะไปอัด จู่ๆ เนื้อเพลงก็ไหลเข้ามาในหัวผมไม่หยุด ผมจอดรถแล้วเขียนเลย ไปบอกวิภว์ว่าไม่เอาเพลงนั้นแล้วนะ ไอ้วิภว์งอนไปหลายวัน แต่สุดท้ายเพลงนี้ได้ดั่งใจมาก สื่อทุกอย่างที่ผมต้องการได้เลย ถือว่าหวังสิบได้สิบ

เจ็บจนไม่เข้าใจ

เป็นเพลงที่เขียนตั้งแต่สิบปีที่แล้ว ตั้งใจว่าจะให้เป็นเพลงต่อของ ขอดาว ตัวละครเดียวกัน เราได้ท่อน verse แรกมาแล้วแต่นึกต่อไม่ออก วันหนึ่งผมเลื่อนดูประโยคโดนๆ ที่เซฟไว้แล้วเจอประโยคที่ว่า ‘อ่อนหัดกับความซับซ้อนของคน’ ผมรีบเขียนต่อเลยว่า ‘สับสนกับความซับซ้อนของใจ’ บังเอิญว่าสองประโยคนี้ 8 พยางค์เท่ากับ verse แรกที่เขียนไว้พอดี เลยไปต่อได้ ส่วนฮุกเอามาจากเพลงที่เคยแต่งให้ วี วิโอเลต วอเทียร์ แล้วไม่ได้ใช้ ตอนแรกเนื้อเพลงมาจากหลายที่มากจนไม่เข้ากัน แต่บังเอิญว่าเพลงนี้คอร์ดเหมือนกับเพลง ขอดาว เป๊ะ พอเอาท่อนเสียงประสานของ ขอดาว มาใส่ เพลงก็เข้ากันเลย รอยต่อพวกนั้นหายไปแล้ว แถมได้ยักษ์กับพลมาช่วยทำซาวนด์ให้ ฟังแล้วร่วมสมัยกว่าเพลงเก่าๆ ของ Portrait เยอะ

เธออีกคน

ผมชอบแต่งเพลงแต่ไม่ค่อยแต่งเพราะกลัวว่าจะออกมาไม่ดี แล้วผมก็แก้ด้วยการทำตามคำแนะนำของฝรั่งคนหนึ่งที่ว่า ‘ให้แต่งเพลงโดยสนแค่ปริมาณ ลืมเรื่องคุณภาพไปซะ’ ผมเลยไปท้าเพื่อนอีกคนให้มาแข่งแต่งเพลงกันโดยให้เวลาแค่ชั่วโมงเดียว จนเกิดโปรเจกต์ชื่อ Speed Songwriting ทำไป 10 กว่าเพลง เพลงนี้เป็นเพลงแรกเลย เป็นเพลงที่ไม่ได้ตั้งใจให้คนชอบ รู้สึกแค่ผมมีความสุข แค่เปิดวิทยุฟังแล้วได้ยินว่า I’ll never find another you ก็เอามาแต่งเลย ตอนแต่งก็มองแล้วคิดถึงแค่คำว่า another you ที่หมายถึงเธออีกคน

กลับไปไม่รู้จัก

เพลงนี้ผมเอาความเศร้าตอนอกหักแรงๆ มาแต่ง ตอนนั้นผมผ่านที่ที่เคยไปกับเขาไม่ได้ ร้านที่เคยไปด้วยกันผมก็ไม่เหยียบ เสื้อผ้าก็ซื้อใหม่หมด เห็นอะไรเกี่ยวกับเขาไม่ได้เลย จนอยากขอย้อนไปตอนที่เราไม่รู้จักกันได้ไหม จะได้ไม่ต้องมารัก มาเสียใจแบบนี้ ก่อนเขียนเค้นนานมาก แต่แต่งเสร็จแล้วได้ดั่งใจสุดๆ ก่อนหน้านี้ผมยังเกร็ง ยังไม่มั่นใจกับฝีมือการแต่งเพลงของตัวเอง แต่เพลงนี้ผมได้ทำทุกอย่างที่อยากทำ ได้เล่าทุกอย่างที่อยากเล่า มีลองเปลี่ยนคีย์กลางเพลงครั้งแรกด้วย ผมดัดแปลงมาจากเพลงของวง Roxette ที่ผมชอบฟัง แต่งเสร็จแล้วรู้สึกมือแข็ง ความรู้สึกไม่มั่นคงหายไปเลย

ภาพ ปวริศา สันติวิริยกาญจน์

AUTHOR