หลีกหนีความเจ็บปวดสู่การผจญภัยโลกแฟนตาซีผ่านคาแรกเตอร์เด็กผู้หญิง ‘Khajon’

ศิลปะ Surrealism นอกจากจะตัดความสมจริงออกไปแล้ว ก็ยังเปิดโอกาสให้เราได้สำรวจสภาวะจิตใจและความคิดของศิลปินผ่านผลงานสร้างสรรค์ ที่มักหยิบเอาองค์ประกอบซึ่งไม่มีความเกี่ยวข้องกันนำมาผสมผสาน จัดวางบนภาพทำให้ ความเหนือจริงเหล่านั้นเข้าไปทำงานกับจิตใจผู้ชมได้ดี ขณะเดียวกัน ก็ยังสะท้อนให้เห็นถึงความเป็นอิสระที่ทำให้ศิลปินสามารถปลดปล่อยจินตนาการได้อย่างไร้ขีดจำกัด

ด้วยเหตุผลนี้ ‘มะตูม-เยาวลักษณ์ กันอูป’ ศิลปินนักวาดภาพประกอบที่ชื่นชอบเรื่องตำนาน เทพปกรณัม ความเชื่อเกี่ยวกับพระเจ้าและภาพยนตร์ตะวันตกยุคเก่าเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เลยหยิบสิ่งเหล่านี้มาเป็นแรงบันดาลใจต่อการวาดภาพสีน้ำมันสไตล์ Pop Surrealism ในไวบ์เวทมนตร์ แฟนตาซีชวนฝันเพื่อนำเสนอเรื่องราวในแบบฉบับของเธอ

ผลงานของมะตูมเล่าผ่านคาแรกเตอร์เด็กผู้หญิงชื่อ ‘ขจร’ (Khajon) กับการผจญภัยในโลกเหนือจินตนาการเพื่อวิ่งไล่คว้าดวงดาวไปตามเส้นทาง แม้จะดูเป็นเส้นเรื่องที่กะทัดรัด แต่เรื่องราวเหล่านั้นกลับอิงประสบการณ์จริง ที่ศิลปินต้องฝ่าฟันมาตั้งแต่เด็ก เพราะแต่ไหนแต่ไร ศิลปะของมะตูมมักมีการผสมผสานความเหนือจินตนาการอยู่เสมอ เช่น การวาดภาพครึ่งคนครึ่งสัตว์ การวาดสัดส่วนของสิ่งต่างๆ ที่ไม่สมจริง แต่เพราะผลงานของเธอมักถูกคนรอบข้างมองว่าแปลก เธอเคยตัดสินใจเดินหนีสิ่งที่ชอบเพื่อหันมาวาดภาพในแบบที่พวกเขายอมรับ ความสับสนและการไม่กล้าเป็นตัวเองทำให้มะตูมรู้สึกแปลกแยกและโดดเดี่ยว

“แต่เรายังเชื่อในตัวเอง และเชื่อว่าสไตล์งานของเราไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน หลังเรียนจบเราเลยเริ่มสร้างโลกเล็กๆ ขึ้นมาเพื่อหลีกหนีความเจ็บปวด หรือก็คือการวาดรูปในแบบของตัวเองอย่างจริงจังเพื่อที่เมื่อย้อนกลับมาดู เราจะภูมิใจและมีความสุขไปกับมัน การทำงานศิลปะนับตั้งแต่นั้นช่วยบำบัดจิตใจเราให้ดีขึ้น เรายังได้มุมมองใหม่ๆ ทั้งกับคนอื่น และที่สำคัญเลยคือกับตัวเองด้วย นั่นก็คือ ความล้มเหลวและความผิดพลาดที่พบเจอระหว่างวาดภาพ เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ปกติและมันจะเป็นจุดเริ่มต้นของความสำเร็จเสมอ มันเลยทำให้เรา พยายามที่จะไม่กดดันตัวเอง”

ดวงดาวที่เธอวาดจึงเปรียบเสมือนแสงสว่างแห่งความเชื่อ ความหวัง และความสุข ที่น้องขจร จะพบเจอได้เรื่อยๆ ในระหว่างการเดินทาง “มันก็จะเป็นเหมือนสิ่งที่เราจะคว้าได้ง่ายๆ จากเรื่องเล็กๆ รอบตัว อย่างการได้กินอาหารที่ชอบ ทำสิ่งที่รัก มันก็จะให้ความสุข ให้ความหวัง และความเชื่อกับเราไปด้วย ดังนั้น ไม่ว่าใครที่กำลังอยู่ในเส้นทางไหน ในระหว่างทางคงไม่มีใครไม่เคยผิดพลาด แต่เราจะยอมรับมันได้แล้วพร้อมที่จะเริ่มต้นใหม่ได้อีกครั้งเอง”

“ผลงานแต่ละชิ้นมันก็คือแพชชันที่จะสะท้อนตัวตนที่เราอยากจะรักตัวเองให้มากๆ แล้วก็อยากส่งต่อความรักนั้นให้คนอื่นด้วย” นอกจากนี้ศิลปินก็ยังหยิบวรรณคดีไทยมาตีความเล่าใหม่ผ่านภาพสีน้ำมันแบบเซอร์เรียลด้วยนะ ถ้าอยากรู้ว่าเป็นอย่างไร ติดตามผลงานของมะตูมได้ทาง Instagram: Khajon.mty21

AUTHOR