MULTITASKING

วันที่ 16

6 มิ.ย. 2559

วันนี้กอง บ.ก.
อย่างเราได้แอบดูการทำงานของฝ่ายอาร์ตเป็นครั้งแรก การคิดเรฟฯ
ภาพและอาร์ตเวิร์กนี่มันเป็นประมาณนี้นี่เอง โอเค เรียนรู้และจดจำ แล้วก็วันนี้ชาวจูฯ
แต่งตัวธีมอะโลฮ่ากันมาเต็มมาก อย่างกับสงกรานต์

คิดเมนคอร์สต่อล่ะ บาย
เฌอแตม / กองบรรณาธิการ

ดีลกับพี่ก้องได้ว่าจะสัมภาษณ์แม็กซ์ เจนมานะ ลงแดนสนทนา
ประทับใจสุดๆ วันพุธได้คิวสัมภาษณ์จ้าาา
นุ๊บนิพ / กองบรรณาธิการ

นั่งทำบทสัมภาษณ์วง X0809 ของนทเเละพี่เยล พร้อมกับรับรู้ว่าทั้งคู่ติดพูดคำว่า ‘แบบ’ เเละ ‘มัน’
เต็มบทสนทนาไปหมด เลยนึกย้อนไปถึงเหตุการณ์ตอนได้คุยกับทั้งคู่ 2 คนนี้เป็นคนสนุกเเละบ้าเอาการเลย เป็นประสบการณ์ที่ดีที่เราได้คุยกัน
นัท / กองบรรณาธิการ


วันที่ 17

7 มิ.ย. 2559

วันนี้มาถึงออฟฟิศคนแรก
คนแรกจริงๆ แบบไฟทั้งชั้นยังไม่เปิด แต่ด้วยความสว่างของแสงอาทิตย์ที่ทะลุกระจกเข้ามา บวกกับพระเครื่องที่ห้อยอยู่เต็มคอ
ทำให้เรานั่งดูดโกโก้และอ่านหนังสือไปอย่างอุ่นใจ

ชีวิตเริ่มลงตัวแล้ว
เข้างาน > ทำงาน / เข้าคลาส >
ทานข้าว > ทำงาน >
รับออเดอร์
> ไปเซเว่นฯ > ทำงาน >
กลับบ้าน… แฮปปี้นะ
เอิง / พิสูจน์อักษร

พวกเราเริ่มเครียดกันตั้งแต่เมื่อวาน

คุยกันเรื่องเมนคอร์สตลอดทั้งวัน หาไอเดียเพื่อให้ได้เรื่องดีๆ และน่าสนใจ
เสียงคุยเล่นเริ่มน้อยลง ถกกันเรื่องงานมากขึ้น
เห็นได้ชัดว่าทุกคนจริงจังและเริ่มเครียดกันแล้ว

เราชอบมากเวลาได้ถกและพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิด อะไรดีๆ
มักออกมาตอนที่พวกเราคิดไม่เหมือนกันเสมอ
ความเห็นต่างกันมันทำให้งานเราออกมาหลายมุม หลายมิติมากขึ้น
ในทีมควรประกอบด้วยคนที่คิดต่าง (แต่เข้าใจ) กันแบบนี้ มันดีมากๆเลย

ตอนเย็นประชุมงานเรื่องเมนคอร์สเล่มเดือนกรกฎาคม
พวกเราพยายามหาทางทำต่อให้ได้ แต่สุดท้ายหลังจากพิจารณากันมาเป็นชั่วโมงๆ พี่ๆ และพวกเราลงความเห็นกันว่าเปลี่ยนเรื่องไปเลยดีกว่า
น่าจะสนุกและน่าสนใจกว่าเรื่องเดิม บางคนเสียดายที่ไม่ได้ทำต่อ
แต่เราว่าวันนึงอาจได้เอาเรื่องนี้มาทำก็ได้นะ

กว่าจะประชุมเสร็จก็ปาไป 2 ทุ่มกว่าแล้ว ต่างคนต่างแยกย้ายกันกลับบ้าน
แต่เรา กะทิ เหมยลี่ (3 คนแก๊งปิ่นเกล้า) ยังอยู่ออฟฟิศกันต่อ กะว่าจะกลับให้ดึกหน่อย
รถจะได้ไม่ติด ระหว่างรอ ฝนก็ตกลงมาห่าใหญ่ ระหว่างนั้นไม่มีอะไรทำ
เลยคุยกับกะทิเรื่องตารางทำงาน เวลาเหลือไม่มากแล้ว เทียบกับปริมาณงานที่มากพอควร
แต่ละวันหลังจากนี้คงหนักอยู่ไม่น้อยเลย

ก่อนกลับนั่งคุยกับพี่ก้องเรื่องเรียนกับเรื่องงานด้วย งานสาย environment economics สำหรับเรามันน่าสนใจมากๆ
ในประเทศไทยงานสายนี้ค่อนข้างท้าทายพอสมควรเลย มีหลายองค์กรที่เราไม่รู้จัก
งานน่าสนใจและ productive มากๆ อนาคตอยากลองงานสายนี้เหมือนกัน ถ้ามีโอกาสนะ 🙂
นุ๊บนิพ / กองบรรณาธิการ

ชาวจูเนียร์ประชุมเมนคอร์ส ให้โยนความคิดใส่กัน
แล้วเราเป็นคนเขียนขึ้นกระดาษ พี่ๆ ทุกคนเดินผ่านไปผ่านมา เห็นลายมือ
ต่างก็ถามว่าลายมือใคร… เหมือนลายสือไทยขนาดนั้นเลยหรือ
เฌอแตม / กองบรรณาธิการ

มาทำงานตามปกติ มีความสัมผัสได้ถึงความว่างงาน
เหมยลี่ / อาร์ตไดเรกเตอร์

วันหนักสมอง ใช้งานสมองจนไร้สมองไปแล้ว
นัท / กองบรรณาธิการ


วันที่ 18

8 มิ.ย. 2559

วันนี้ลองเปลี่ยนการเดินทางใหม่เล็กน้อยด้วยการเอาสเก็ตบอร์ดติดตัวมาด้วย
สิ่งที่ได้คือไม่ต้องเสียตังค์ค่าพี่วินไปถึง 60 บาท ถึงจะรู้สึกเซฟตังค์แต่ไม่เซฟชีวิตสักเท่าไหร่
เวลาไถสเก็ตบอร์ดต้องระวังรถมอไซค์ที่วิ่งชิดขอบถนน ทำให้คิดว่านานๆ
ทีค่อยใช้วิธีนี้ละกัน ไม่งั้นจะตายเอา
เหมยลี่ / อาร์ตไดเรกเตอร์

ตอนเช้าได้เรียนกับพี่ AE (Account Executive) เเละค้นพบว่าพี่ๆ
เเต่ละคนมีคาเเรกเตอร์การพูดเป็นของตัวเอง แต่มีอย่างหนึ่งที่เหมือนกันคือ ‘ต้องพูดรู้เรื่อง’
ระหว่างที่ทึ่งกับความเก่งกาจในการพูดของพี่ๆ เขาก็อธิบายหน้าที่ของเออีให้ฟัง
ว่าเป็นคนหาโฆษณามาให้นิตยสาร
และเป็นตัวเเทนที่จะสื่อสารสิ่งที่นิตยสารจะทำให้กับลูกค้า ฉะนั้นการถ่ายทอดของเออีจึงสำคัญ
นัท / กองบรรณาธิการ

วันนี้สัมภาษณ์พี่แม็กซ์ตอนเช้า
ตอนบ่ายถึงเย็นกลับมานั่งถอดบทสัมภาษณ์ เหนื่อย แต่สนุก และประทับใจดี
นุ๊บนิพ / กองบรรณาธิการ


วันที่ 19

9 มิ.ย. 2559

เหลือผู้รอดชีวิตอยู่ที่ออฟฟิศน้อยมาก วันนี้เลยเป็นวันเหงาๆ
คอลัมน์ที่ไปถ่ายนทได้ลงเว็บแล้ว มีคนชอบเราก็ดีใจ
บอกกับตัวเองว่างานหน้าต้องดีขึ้น ตั้งใจมากขึ้นในทุกๆ งาน
ปิ่น / ช่างภาพ

2 – 3 วันมานี้ได้มีโอกาสทำงานที่นอกเหนือจากการพิสูจน์อักษร

– เขียน recommend
ลงในเว็บไซต์
adaymagazine.com

– หาข้อมูลสำหรับเมนคอร์สเล่มต่อไป
หาแบบจริงจังกว่าที่ผ่านมา มีสรุปข้อมูล เซฟรูปไว้เปิดให้พี่ดู

– เวลาว่างก็จะคิดเมนคอร์สสำหรับเล่มจูเนียร์

มันเป็นหน้าที่ที่ทุกคนต้องช่วยกันแหละ
แต่ด้วยตำแหน่งที่เข้ามาคือพิสูจน์อักษร เราก็ไม่อยากไปแย่งหน้าที่กองฯ นะ
แต่ก็เห็นว่าเพื่อนๆ งานจมมาก อยากเช็ดน้ำตาแล้วมองกันได้ไหม
ฉันเป็นใครเธอลืมไปแล้วหรือ เรารู้ว่าสกิลการเขียนเราอ่อนด้อยกว่า
แต่ความอยากช่วยมันล้นเอ่อ *คนดีมากๆ*

สุดท้ายก็ได้เขียน
ถึงงานที่ส่งไปจะโดนแก้
แต่เราก็ดีใจนะที่เพื่อนเปิดโอกาสให้เราได้ลองทำอะไรที่นอกจากตำแหน่งเรา
โดยเฉพาะนัทกับกะทิ ขอบคุณที่ช่วยดูงานให้และเป็นติวเตอร์ที่ดี อยากบอกว่า
เราเป็นคนเงียบๆ ไม่ชอบการพูดต่อหน้าคนเยอะๆ
ที่เราทำได้และชอบคือการอยู่เบื้องหลัง
เพราะเหตุผลนี้เวลาเข้าห้องประชุมเราเลยไม่ค่อยพูด

แต่นอกห้องประชุม… รู้กันดี
เอิง / พิสูจน์อักษร

เดบิวต์คอลัมน์แดนสนทนาแล้วจ้า งานเสร็จโล่งไปหนึ่งดอก
จมอยู่กับงาน 2 วันเต็มๆ

ช่วงนี้กำลังอ่านหนังสือ How Adam Smith Can Change Your Life ที่พี่เอี่ยวให้ยืม ยิ่งอ่านก็ยิ่งชอบ
เหมือนได้ค้นหาอะไรบางอย่างที่คุ้นเคยแต่ยังไม่ได้คำตอบที่แน่ชัด เราเห็นด้วยว่าใครหลายคนอาจยังไม่รู้
เศรษฐศาสตร์ไม่ใช่แค่เรื่องเงินๆ ทองๆ แต่มันคือทุกอย่างในชีวิต

‘การเลือกเดินไปตามถนนเส้นหนึ่ง แปลว่าจะไม่ได้เดินถนนอีกเส้นหนึ่ง’ หลายครั้งที่ค่าเสียโอกาสในชีวิตมันสูงเหลือเกิน

ปล. สงสัยมานานแล้วว่าที่พี่ๆ ทำงานกันหนักแบบนี้ เอาเวลาไหนให้แฟนกัน…
นุ๊บนิพ / กองบรรณาธิการ


วันที่ 20

10 มิ.ย. 2559

นี่ก็ปาเข้าไป 3
ทุ่มแล้ว หลายคนยังอยู่ออฟฟิศ กะว่าคืนนี้จะไปเที่ยวต่อ
แต่ไม่รู้ได้ออกกี่โมงแฮะ

เรานั่งอ่านหนังสืออยู่เงียบๆ ในโซนห้องทำงาน ได้ยินเสียงโหวกเหวกดังออกมาจากห้องประชุมไม่ขาดสาย
บ่งบอกว่าทุกคนกำลังสนุกกับบอร์ดเกมกันอยู่ ตั้งใจฟังดูดีๆ
บ้างก็โวยวายสลับกับเสียงหัวเราะ แค่ฟังก็สนุกตามแล้ว แต่เราขออ่านหนังสือเงียบๆ ดีกว่า
ยืมพี่เอี่ยวมาอยากรีบอ่านให้จบ

ทุกครั้งที่ได้อ่านหนังสือ จะรู้สึกเหมือนได้อยู่กับเพื่อนสนิท หนังสือหลายเล่มที่เราไม่อยากอ่านจบ
เพราะรู้สึกมันเหมือนหมดเวลาแล้วที่มีต่อกัน
ถึงคราวต้องจำจากหนังสือเหล่านั้นทีไร ทำใจไม่ค่อยได้ทุกที เพื่อไม่ให้ตัวเองเสียใจจนเกินไป
และเพื่อเป็นการต่อเวลา บางเล่มเราเหลือบทสุดท้ายไว้
บางเล่มเหลือไว้ 3 หน้าสุดท้าย บางเล่มเก็บไว้อ่านทุกครั้งที่นั่งเครื่องบิน
แต่บางเล่มตั้งใจที่จะอ่านไม่จบจริงๆ ก็มี
อย่างน้อยให้ตัวเองรู้สึกว่าความสัมพันธ์ระหว่างเรากับหนังสือเล่มนั้นยังไม่หมดลง แต่ถ้าเล่มไหนอดใจไม่ไหวก็อ่านจบไปเลยแล้วเบิ้ลอีกรอบเอา
เอาจริงก็น้อยมากนะ ส่วนใหญ่รอบเดียวไม่หวนกลับ

แต่ดูแล้วเล่มนี่น่าจะต้องรีบอ่านให้จบจริงๆ เพราะยืมพี่เอี่ยวมานี่สิ
เดาว่าถึงหน้าสุดท้ายเราต้องเสียใจแน่ๆ 🙂
นุ๊บนิพ / กองบรรณาธิการ

อีก 6 นาทีจะเป็นเวลาตี 4 / ยังไม่ได้นอน /
ย้อนกลับไปเล่าตั้งแต่เช้าเลยดีกว่า

เช้า – เสนอเมนคอร์สเล่มจูกับพี่ๆ สรุปได้สั้นๆ ว่า
โหด-มัน-แห้ว

บ่าย – ปรู๊ฟงานในเว็บ
ต่อด้วยพิมพ์งานช่วยทราย-คนดีคนเก่ง ขนมเข่ง 10 บาท

เย็น – ปั่นจักรยานไปเซเว่นฯ กับหมิว-คนใสๆ ข้างในต๊ะติ๊งโหน่ง

ค่ำ – ปรู๊ฟงานในเว็บต่อ
พร้อมกับการเล่นเกมจับหมาป่า แต่อยากตั้งชื่อใหม่เป็น ‘ชี้ตัวคนตอฯ’

ดึก – ไปเลี้ยงวันเกิดปิ่น-เด็กจัมไม หัวใจ 4 ดวง ที่ Brown
Sugar

ดึกมากๆ – ขับรถส่งเพื่อนๆ
ตั้งแต่เขตพระนครย้อนไปปริมณฑล

ดึกสุดๆ – ปรู๊ฟงานในเว็บ ต่อด้วยเขียนไดอารี่

ดึกเกินไปแล้ว – นอนเถอะ
เอิง / พิสูจน์อักษร


วันเสาร์

11 มิ.ย. 2559

วันเสาร์ที่ต้องทำงาน อย่ามองว่าเหนื่อยนะ มันแฮปปี้มากกว่า ได้ไปงานอีเวนต์กับทราย
เปิดโลกตัวเองมากๆ เจอคนเก่งๆ หลายคนเลย สังคมเรายังมีอะไรให้ค้นหาอีกเยอะเลยนะ

วันนี้ทั้งวันในหัวคิดแต่เรื่องเมนคอร์สตั้งแต่ตื่น พยายามหาไอเดีย
ได้หลายเรื่องมาก และมันสนุกมากสำหรับเรา
แต่สุดท้ายก็นึกขึ้นได้ว่า อะไรที่เราคิดได้ คนอื่นเค้าก็คิดได้ ถ้าทำจริงๆ
มันไม่ได้น่าสนใจขนาดนั้นเลย เพราะงั้นทุกเรื่องที่คิดมาวันนี้ reject หมดค่ะ ทิ้งไปก่อน แล้วค่อยหามุมมองใหม่ๆ
ดีกว่า อาจเอาเรื่องเดิมมาต่อยอดก็ได้ เผื่อตอนสมองโล่งอาจจะคิดออก

ระหว่างเดินอยู่ บังเอิญไปเจอคนๆ นึงชวนเราเข้าร้านหนังสือ
เราก็ไปนะ การอยู่ในร้านหนังสือเป็นเวลาชั่วโมงกว่าทำให้เราค้นพบว่า จริงๆ
แล้วเราทุกคนคือส่วนผสมของกันและกัน เราชอบการอยู่คนเดียว
แต่เขาทำให้เรารู้สึกอีกแบบ เราชอบการอยู่กับเค้ามากกว่าแล้ว
คงพอจะเปรียบเปรยได้ว่า เราคงเหมือนสีๆหนึ่ง คนอื่นก็เหมือนอีกสีหนึ่ง
เราอยู่กับใครอีกคน ก็เหมือน 2 สีมันผสมกัน ไม่ใช่ทุกสีจะเข้ากันได้ดี
แต่อย่างน้อยต้องมีสักสีแหละ ที่มันผสมกันแล้วสวยและลงตัว

เราเล่าเรื่องงานและสิ่งที่เรากำลังทำอยู่ให้เค้าฟัง เค้าบอกว่าอยากให้เราวางหนังสือ
แมกกาซีนที่เราชอบลง เพราะเราถูกตีกรอบด้วยผลลัพธ์สุดท้ายจากหนังสือพวกนี้ เราควรไปดูหนังสือหมวดอื่น
หลายๆ หมวด อาจจะได้ไอเดียจากคำหนึ่งคำ จากภาพหนึ่งภาพ จากชื่อนักเขียนหนึ่งคน
หรือจาก content บางอย่างที่แปลกๆ ก็ได้

มันจริง จริงมาก เรายอมโดยดุษ

เราพยายามหา process
ใหม่ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ใหม่ๆ แต่เหมือนกับว่าการที่เราอยู่กับตัวเองคนเดียว
เราไม่เจอทางออก เราอยู่แต่ความคิดเดิมๆ กระบวนการเดิมๆ วิธีคิด วิธีค้นหาแบบเดิมๆ
ของตัวเอง สุดท้ายเราก็ได้คำตอบเดิม แค่ในมุมตัวเอง
ไม่ได้กว้างกว่าเดิม ไม่ได้ลึกกว่านี้ ไม่ได้ส่วนผสมใหม่ๆ
ที่ลงตัวมากขึ้น ถ้าเราไม่เจอเค้าวันนี้ มุมมองหลายอย่างของเราคงไม่เปลี่ยน

นั่นแหละเป็นเหตุผลว่าทำไมเราถึงบอกว่า การที่เราอยู่กับใครสักคน
เหมือนสี 2 สีที่ผสมกัน ได้ผลลัพธ์เป็นสีใหม่ที่หลอมรวมจากคน 2 คน และที่แน่ๆ
มันลงตัวกว่าตอนอยู่คนเดียวเยอะเลย 🙂
นุ๊บนิพ / กองบรรณาธิการ

AUTHOR