วันหยุด… ไม่ได้หยุด

วันอาทิตย์

17 ก.ค. 2559

ถ้าเราทำงานออฟฟิศอื่นคงดีใจไม่น้อยที่รัฐเพิ่มวันหยุดให้เราเยอะขนาดนี้ ตั้งแต่เข้ามาใช้ชีวิตเป็นคนทำหนังสือก็สัมผัสได้ว่าวันหยุดยาวไม่ค่อยโสภากับชีวิตเท่าไหร่นัก นอกจากจะไม่ได้หยุดจริงๆ
เพราะมีงานหลอกหลอนอยู่ทุกวันแล้ว จะติดต่อใครก็ต้องมากังวลว่าเขากำลังพักผ่อนอยู่หรือเปล่าด้วย แผนงานการปิดเล่มสิ้นเดือนก็คงเป็นแค่ฝันไป
แค่นี้เวลางานของเดือนนี้ก็หายไป 4 วันแล้ว ด้วยเหตุนี้ แผนการทำงานในวันหยุดจึงออกมาเป็นเช่นดังนี้

การตั้งเตือนใน Google Calendar นับว่าเป็นเทคโนโลยีใหม่สุดที่ชีวิตอัพเดตในตอนนี้ เหยื่อรายแรกของวันหยุดคือ
แพรว
ณภาง เภสัชกวี
(ที่เพื่อนมันเรียกกัน) ที่ต้องส่งงานคนแรกตอน
10 โมงเช้าแต่รอจนบ่ายก็ไม่เห็นมีอีเมลเข้ามาสักที
ด้วยความที่วันหยุดก็ไม่อยากตื๊อ ก็เลยปล่อยเลยตามเลยสายกว่านี้ค่อยทวงแล้วกัน
แต่ทวงไปแล้วแพรวบอกส่งแล้ว อ้าว ฉันก็ยังไม่ได้อยู่ดี ทำไงล่ะ แพรวก็ยังยืนยันว่าส่งแล้ว
กลับไปเช็กดูอีกทีและพบว่า สมงสมองเบลอไปหมดแล้ว

เชื่อเมลอะถูกแล้ว
แต่แกส่งมา Hotmail มันจะถึงไหมล่ะฉันใช้ Gmail นะ…
ทราย / บรรณาธิการ


วันหยุดชดเชยอาสาฬหบูชา

18 ก.ค. 2559

วันนี้ถึงจะเป็นวันหยุดงาน
แต่ทุกคนก็เริ่มทำงาน มุ่งหน้าสู่เมนคอร์ส สร้างฝันให้เป็นจริงกันอย่างเต็มที่
ดูมีความหวังมากๆ เลยนะขอบอก (พูดทั้งน้ำตา)

วันนี้ได้สติกเกอร์น่ารักๆ
ส่งตรงจากคุณทรงกลดที่อยู่ไกลถึงอังกฤษด้วยล่ะ เขินจัง
เฌอแตม /
บรรณาธิการ

วันหยุดอันขื่นขม
คุยกะแตมมากกว่าแม่อีก
กะทิ / กองบรรณาธิการ


วันอาสาฬหบูชา

19 ก.ค. 2559

วันหยุดอันขมขื่น
คุยกะพี่ก้องมากกว่าพ่ออีก
กะทิ / กองบรรณาธิการ

วันทำงานตอนหยุดยาว

วันนี้วันหยุด ใช่ไงวันนี้ทุกคนได้หยุด ก็ใช่ไงแต่ไม่ใช่เรา-ก็ใช่ไง

หมดไปเท่าไหร่แล้วกับคำว่าวันว่าง วันนี้ตะลุยพาหุรัด จริงๆ ตะลุยมานับครั้งไม่ถ้วนแล้ว เพื่อนและคนใกล้ตัวโฟนอินมาถาม หลายสายเรียกร้องความชอบธรรมว่าทำไมเพื่อนอย่างฉันถึงไม่มีเวลาให้ พร้อมคำถามเด็ดๆ ว่า
ขายวิญญาณให้อะเดย์แล้วเหรอ…ทำงานต่อค่ะ
แพรว / กองบรรณธิการ

รู้สึกว่างานที่นี่
เครียดสลับสนุกไปเรื่อยๆ มาก (แต่รู้สึกว่าเครียดเยอะกว่าสนุกนะ
โดยเฉพาะเวลาเป็นบ.ก.เนี่ย)
เฌอแตม /
บรรณาธิการ


วันที่ 45

20 ก.ค. 2559

วันนี้ทีมเมนคอร์สมาเจอหน้ากัน หลังจากช่วง 4 วันที่หยุดไปต่างก็ไปหาข้อมูลตามคอลัมน์เมนคอร์สที่ตัวเองรับผิดชอบ
บ้างก็เป็นรูปเป็นร่างมาก บ้างก็เป็นรูปเป็นร่างน้อย บ้างก็…
นั่นแหละครับท่านผู้ชม รอดูกันต่อไปว่าจะเสร็จได้ทันเวลาหรือเปล่า
เฌอแตม /
บรรณาธิการ

กะทิ Report 01:

อัพเดตซาวนด์แทร็กประจำชีวิตตอนนี้เป็นเพลง
ลมเปลี่ยนทิศ’ โดยเฉพาะท่อนที่ร้องว่า ‘ชีวิตหนึ่งกำลังเริ่มใหม่
ชีวิตหนึ่งกำลังว่างเปล่า‘ ร้องไปก็ถอนหายใจไปอยู่หน้าคอม เฮ้อออออ
กะทิ / กองบรรณาธิการ


วันที่ 46

21 ก.ค. 2559

วันเกิด เกิดอยากพัก

อะเดย์ไม่มีนโยบายว่าวันเกิดจะได้พัก… วันทำงานเลยได้เจอคนมากมายเช่น ป้าเฟี้ยวๆ ร้านอัดพลีตที่ดูดวงให้เป็นของแถมและตัวละครเอกในวันนี้คือ
ลุงกู้ ลุงร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ทเดย์ให้ด้วย (หน้าจักรเย็บผ้านะไม่ใช่หน้าเค้ก) เลยพบว่าสิ่งเหล่านี้ก็ทำให้วันธรรมดาแบบนี้พิเศษขึ้นเยอะ
แพรว / กองบรรณาธิการ

หลังจากจัดการให้คนอื่นมาตลอด
วันนี้ก็ได้ออกไปหาข้อมูลเองบ้างล่ะ
ได้ไปค้นพบบ้านทอผ้าไหมหลังคลองแสนแสบที่อยู่หลังจิม ทอมป์สัน ไปนิดเดียว
ตื่นเต้นมากๆ (แท้จริงแล้วเป็นการตามรอยพี่แพรวที่ไปทำเรื่องที่นี่มาใน a day ฉบับ 191 : 100 Hidden Places) แล้วก็ได้คุยกับคนเจ๋งๆ ด้วย
แต่บอกไม่ได้ใช่มั้ยว่าเป็นใคร เดี๋ยวก็รู้หมดสิว่าเมนคอร์สเล่ม junior 12 เป็นเรื่องอะไร

แต่ที่แน่ๆ คือวันนี้ได้ลองนัดประชุมเรื่องอาร์ตกันที่กลางสยามพารากอน
ก่อนที่จะต้องเข้าไปพรีเซนต์ให้พี่ๆ เห็นภาพเป็นครั้งแรกในวันพรุ่งนี้
เฌอแตม /
บรรณาธิการ

สเต็ปการทำงานตอนนี้มี
2 คนเป็นไอดอล คนแรกคือ พระมหาชนก ในการนั่งหน้าคอมทำงานไปเรื่อย
ๆ แม้จะไม่รู้ต่อไปข้างหน้าจะเป็นอย่างไร
และหวังเพียงว่าเราจะมีความคิดหรือปิ๊งไอเดียในการเขียนงานส่งก่อนเดดไลน์ในคืนสุดท้ายแบบการตรัสรู้ของ พระอานนท์
กะทิ / กองบรรณาธิการ

ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาเรียกได้ว่าชีวิตจมอยู่กับคอลัมน์สัมภาษณ์ใหญ่ a day with a view งานเดียว เพราะก่อนจะไปคุยกับใครสักคนได้เราต้อง ‘กระทำความอิน’ กันก่อน

เรานั่งดู Final score ย้อนหลัง อ่านบทสัมภาษณ์ พี่เปอร์สุวิกรม อัมระนันทน์ ในทุกสื่อดูทุกรายการที่พี่เปอร์ไปออก
เพื่อทำความรู้จักกันให้ได้มากที่สุดจะได้มีวัตถุดิบในการพูดคุยกันให้นานที่สุดเท่าที่จะนานได้

ตอนที่รับงานนี้ยังบอกพี่เบลล์อยู่เลยว่าไม่เครียดมากแต่พอมาทำจริงแล้วมันวางไม่ลงเลย
เหมือนติดหัวอยู่ตลอดเวลายิ่งเครียดก็ยิ่งคิดไม่ออก มืดแปดด้านกันไปใหญ่แต่ในความเครียดนั้นก็ยังมีแสงสว่างอยู่เพราะโค้ชพี่ก้อง
โค้ชพี่เบลล์ และโค้ชพี่เอี่ยวได้ให้คำปรึกษาที่ดีมากๆ ในการทำงาน ทำให้สุดท้ายเราก็วางความเครียดลงได้และมีสติไปสัมภาษณ์จริงๆ

ขอบพระคุณทุกคำแนะนำค่ะ หนูได้เอาไปใช้ตอนทำงานจริงๆ นะ 🙂
ทราย / บรรณาธิการ


วันที่ 47

22 ก.ค. 2559

ช่วงนี้ตั้งนาฬิกาปลุกเพื่อตื่นมาทำงานตอนเช้า
เเล้วชอบฝันว่าตัวเองทำงานอยู่ คิดว่าต้องเขียนอย่างนี้ๆ นะ เป็นขั้นๆ ไปเรื่อยๆ
เเต่เเท้ที่จริงเเล้วกำลังหลับอยู่เเละตื่นมาก็จำอะไรไม่ได้
วิธีแก้คิดว่าต่อไปควรนอนดีๆ เเละไม่ตั้งนาฬิกาปลุกอีก
นัท / กองบรรณาธิการ

a day 191 ออกแล้วจะเออ… แต่ความรู้สึกที่หลายคนบอกว่าหายเหนื่อยหลังจากงานสำเร็จแล้วนี่ไม่จริงนะ
กะทิ / กองบรรณาธิการ

วันอวดวันว่าง

วันนี้ไม่ต้องลงพื้นที่
หลังที่ลงติดต่อ 5 วันแล้ว (รวมวันหยุด) จะบ้าตาย วันนี้แค่ฝากส่งมาบอกว่าไม่ต้องพื้นที่ค่ะ แต่ต้องส่งงาน แต่ต้องส่งงาน แต่ต้องส่งงาน!
แพรว / กองบรรณธิการ

วันนี้ไปตลาดแต่เช้า
(บอกไม่ได้อีกละว่าตลาดอะไร เดี๋ยวรู้เลยว่าเมนคอร์สเล่มเราเป็นอะไร เฮ้อ
เป็นการเขียนไดอารี่ที่ลำบากจริงๆ)

แล้วตอนบ่ายก็ไปเจอหน้าพี่เหมยลี่
อาร์ตไดฯ ที่วันนี้เป็นตัวแทนผู้กล้าหาญเข้าไปพรีเซนต์งานกับพี่ๆ
พอได้คุยกันแล้ว อาการเครียดก็กลับมาอีก
เพราะรู้สึกว่าช่างมีปัญหาและอุปสรรคมากมายเหลือเกิน
อีก 2 อาทิตย์ก็จะเปิดเทอมแล้ว ตอนแรกอยากจะปิดงานให้ได้ก่อนหน้านั้น แต่ดูๆ
แล้ว… คงไม่ทัน
เฌอแตม / บรรณาธิการ

การได้ตามไปเก็บภาพเบื้องหลังการออกไปสัมภาษณ์พี่เปอร์
สุวิกรม กับ ทราย บ.ก. และ พี่ช่อ ช่างภาพ
ถือว่าเป็นกำไรในการฝึกงานอีกครั้ง เป็นโอกาสดีมากๆ ที่เราจะได้นั่งพูดคุย
และฟังวิธีคิดของเขาอย่างใกล้ชิด เพราะเมื่อก่อนทำได้แค่เพียงนั่งหน้าจอคอมและฟังผ่านหูฟังอย่างห่างเหิน
แต่เราก็พยายามดูและฟังรายการที่เขาเป็นพิธีกร บางเทปก็มีโหลดเก็บไว้ฟังบ้าง

ครั้งนี้น่าจะเป็นครั้งแรกมั้งที่ได้นั่งคุยนั่งฟังทรายแบบจริงจัง
ทรายก็นับว่าเป็นอีกคนที่มีทัศนคติและวิธีคิดในการทำงานที่ดี
หลังจากที่ทดลองสังเกตจากหลายๆ ประโยคที่ทรายพูดในหลายๆเหตุการณ์ที่ผ่านมา
เป็นเกียรติมากที่ได้มาออกกองกับ บ.ก.จูเนียร์ 12 (นี่เริ่มเวอร์อีกละ) คุยกันจนเมื่อยพี่ช่อก็โทรมาบอกว่ารออยู่หน้าร้านที่จะสัมภาษณ์แล้ว
เลยกระโดดขึ้นมอเตอร์ไซค์เพื่อกลับเข้าไปในซอยอีกรอบ
ปรากฏเจอพี่ช่อกินก๋วยเตี๋ยวไก่รออยู่หน้าร้าน
พร้อมบอกว่า
“กินช่วยหน่อยไม่ไหวแล้ว” แล้วก็ไม่มีใครช่วย 5555

การได้นั่งคุยกับพี่เปอร์
ทำให้เรารู้ ได้ฟัง ได้เห็นอะไรหลายอย่างเลย ในตัวตนและความคิดของเขา
ที่ผ่านการหลอมรวมและซึบซับจากผู้คนมากมายที่เขาได้สัมผัสมาในชีวิต
จนตกผลึกเป็นคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าเรา ด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความหวัง
ความเชื่อมั่น และท่าทางที่สงบนิ่ง สุขุม แต่ก็มีรอยยิ้มที่เป็นกันเอง

เราชอบเวลาที่พี่เปอร์พูดคำว่า ‘เราไม่ทำ’ ‘เราไม่ได้สนใจ’ ‘เราไม่ได้แคร์ว่าใครจะมองเรายังไง’ ดูเหมือนเป็นคนที่ดื้อมากๆ แต่เขากลับมองว่านี่คือความชัดเจนและเชื่อมั่นในสิ่งที่คิดมาแล้วอย่างถี่ถ้วน
ด้วยวัยขนาดนี้, สิ่งที่แปลกคือสีหน้าแววตาตอนที่เขาพูดออกมา กลับทำให้เรารู้สึกว่าเขายังเป็นคนเดียวกับเด็กหนุ่ม ม.ปลาย ในภาพยนตร์เรื่อง Final Score อยู่เลยต่อให้กาลเวลาจะพาเขาให้เติบโต แต่บางอย่างยังอยู่ในตัวเขาไม่ได้หายไปไหน

พี่เปอร์เล่าว่า
เขามีความสุขที่ได้ทำให้คนอื่นได้รับอะไรดีๆ จากสิ่งที่เขาทำ
จากเรื่องที่เขาเล่า ด้วยสีหน้าแววตาและน้ำเสียง
ทำให้เรารู้ว่านี่คือวัยรุ่นอีกคนที่อุทิศตนทำงานหนักเพื่อหวังว่าผู้อื่นจะได้รับสิ่งดีๆ
ในสิ่งที่เขาทำ ในแบบที่ตัวเขาเองเชื่ออย่างแท้จริง ไม่ใช่พูดเท่ๆ
แล้วก็จบไป จริงๆ มีประโยคที่เด็ดๆ น่าเอามาเล่าต่ออีกมากแต่เราว่าควรรอติดตามใน a day ฉบับ 193 เล่มของพวกเรา
ชาว a
team junior 12 จะดีกว่า
(พื้นที่โฆษณา)

ป.ล.พี่เปอร์บอกว่า
เห็นน้องสามคนแล้วก็ทำให้นึกถึงตัวเอง ดีใจที่เห็นน้องๆ ทุ่มเทและให้เวลากับงานนี้มากๆ พี่ว่างานต้องออกมาดีแน่ๆ…ได้ฟังก็ใจชื้นขึ้นมาเลย
เป็นหนึ่ง / วิดีโอครีเอเตอร์

วันนี้เป็นวันสำคัญวันหนึ่งในชีวิต
เพราะวันนี้เป็นวันสัมภาษณ์พี่เปอร์-สุวิกรม
อัมระนันทน์ ที่จะลงในคอลัมน์ a day with a view ในฉบับ 193 ของพวกเรา รู้สึกเหมือนเป็นวันที่จะได้ใช้ความสามารถที่มีทั้งชีวิตมาพิสูจน์ตัวเองกันเลยทีเดียว

คิวที่เราได้มาคือ
13.00 – 18.00 น. เพราะพี่เปอร์ยุ่งมาก เราจึงต้องคุยให้จบภายในวันเดียว ในชีวิตนี้ยังไม่เคยคุยกับใครนานขนาดนี้เลย
ทั้งกังวลและตื่นเต้นมาก วิธีการระงับความตื่นเต้นที่ทำประจำคือ ไปก่อนเวลา
ไปหาที่นั่งทำใจสงบสักพักก่อนเริ่มงาน เรากับเป็นหนึ่งและช่อนัดเจอกัน
11.00 น. เพื่อหาโลเคชันถ่ายภาพข้างนอกไปก่อน

คำแนะนำในการสัมภาษณ์ที่ได้มาทั้งหมดค่อยๆ
ถูกหยิบออกมาใช้แก้ไขสถานการณ์ไปได้เรื่อยๆ จนเราผ่านหนึ่งชั่วโมงแรกไปได้
และให้เวลาพี่เปอร์ได้พัก ก่อนกลับมาคุยกันอีกหลายชั่วโมง (ระหว่างนั้นก็คะยั้นคะยอให้กินข้าวตลอดเวลา
แต่พี่เปอร์ติดลมมาก พูด 10 นาทีกินข้าว 1 คำ)

พี่เปอร์กลับเข้ามาให้สัมภาษณ์ต่อด้วยการเข้ามาชมกันแบบดื้อๆ
ทำเอาเรา 3 คนงงกันไปเลย

“พี่ชอบน้อง 3 คนนะ
เพราะน้องให้เวลากับการทำงานอย่างจริงจัง มันทำให้พี่เห็นตัวพี่ในอดีต
หรือแม้กระทั่งเห็นตัวพี่ในปัจจุบัน พี่ชอบคนแบบนี้ ชอบคนทุ่มเท
ชอบคนให้เวลากับหลายๆ สิ่ง หลายๆ อย่าง
ของแต่ละอย่างที่มันจะออกมาดีมันก็ต้องให้เวลา
และพี่เชื่อว่าน้องจะต้องทำนิตยสารเล่มนี้ออกมาดีมาก
เพราะว่าน้องให้เวลากับมัน

“ในชีวิตนี้มีคนมาสัมภาษณ์เราเป็นร้อยแล้วนะ
น้องไม่ใช่คนแรก และเราก็เห็นหมดว่าใครเป็นยังไง
หลายคนเราก็บอกเขาว่าควรจะสัมภาษณ์ยังไง เพราะบางทีรู้สึกว่าเขามาสัมภาษณ์เราทำไม
กับบางคนเรารู้สึกชื่นชม น้องแอม (ไอรดา รื่นภิรมย์ใจ-กองบรรณาธิการ a day) เป็นหนึ่งในนั้น
เราถึงเอามาทำงานด้วยตอนเริ่มทำ perspective ใหม่ๆ
เขาก็เคยมาสัมภาษณ์เราที่นี่แหละ เพราะน้องให้เวลา น้องทุ่มเท
น้องจึงได้มากกว่าคนอื่นเป็นเรื่องธรรมดา หลายๆ เรื่องที่พี่จะเล่าไม่เคยมีใครได้สัมภาษณ์ เพราะไม่ได้ให้เวลาเท่าที่น้องให้
น้องจึงได้วัตถุดิบที่มากกว่า” พี่เปอร์บอก

ได้ฟังแค่นี้เราก็ยิ้มกันหน้าบานแล้ว
ใจชื้นแล้วว่าหลังจากนี้เราจะไม่กลับออฟฟิศกันมือเปล่าแน่นอน แล้วบทสนทนา 3
ชั่วโมงหลังจากนี้ก็คุ้มค่ากับที่เราทุ่มเทเวลาไปจริงๆ ด้วย เป็นครั้งแรกที่มาสัมภาษณ์แล้วถูกคนให้สัมภาษณ์ชม
แล้วรู้สึกกลับบ้านแบบตัวลอย

ขอบคุณช่อที่ไปซื้อยา
ขอบคุณเป็นหนึ่งที่ช่วยทำลายเดดแอร์เวลาเราเอ๋อ และขอบคุณโค้ชทุกคนที่อยู่เบื้องหลังตั้งแต่การเตรียมตัวด้วยค่ะ
ทราย / บรรณาธิการ

AUTHOR