ฝนที่ตกทางนั้น หนาวถึงคนทางนี้

วันที่
40

11 ก.ค. 2559

กะทิ
Tips: วันนี้มันเหนื่อยเหลือเกิน’ แม้ว่าวันที่ผ่านมาจะฮาร์ดแค่ไหน
แต่พอร้องเพลง ‘เปิดประตู’ เพียงประโยคนี้ประโยคเดียวด้วยสำเนียงของพี่ต้องตา
วง Plastic Plastic (อดีต
a team junior รุ่น
11) ลงไป
ความรุนแรงที่สะสมมาก็ลดน้อยลงไปบ้างไม่มากก็น้อย ร้องวนไปจ้า
กะทิ / กองบรรณาธิการ

ออกจากออฟฟิศตั้งแต่
4 โมงเย็น รีบไปสนามบินเพราะกลัวรถจะติด จน 6 โมงกว่าพี่ช่อจะถึง
สภาพการจราจรหนาแน่นขนาดนี้
การเดินทางมาสนามบินในเวลากระชั้นชิดมันช่างบีบหัวใจเหลือเกิน
เราก็กลัวว่าพี่ช่อมาไม่ทัน ว่าแล้วก็รีบเช็กอิน ไฟลท์ออก 1 ทุ่ม
กว่าจะถึงภูเก็ตก็ 2 ทุ่มกว่าๆ
เป็นครั้งแรกที่กลับบ้านแล้วเอาของไปน้อยมาก และเป็นครั้งแรกที่กลับบ้านเพื่อทำงาน

ก่อนมาถึงแม่โทรมาบอกว่าที่ใต้ฝนตกมากนะ
ฝนตกทั้งวันเลย พอเครื่องบินถึงสนามบินภูเก็ตเท่านั้นแหละ ฝนตกชุดใหญ่เลยจ้า แหม่
ต้อนรับกันขนาดนี้ เรานี่กุมขมับเลยค่ะ หันไปบอกพี่ช่อที่นั่งข้างๆ ว่า “พรุ่งนี้เราจะถ่ายงานได้ไหมวะ” ได้แต่ภาวนา
ขอให้พรุ่งนี้มันหยุดเถอะนะ กว่าจะถึงบ้านที่พังงาก็ 4 ทุ่มกว่าๆ
ละ เหนื่อยมาก
นุ๊บนิพ
/ กองบรรณาธิการ

ก่อนหน้านี้มีสายจากทางบ้านโทรจิตเข้ามาถามว่า
การเป็นปรู๊ฟทำอะไรบ้าง รู้สึกอยากทำแต่ไม่อยากเสียโอกาสที่จะได้ไปออกกองเลย
ดิฉันจึงได้โทรจิตกลับไปขอร้อง อ้อนวอน และทิ้งตัวลงคุกเข่า
ให้ติดตามอ่านไดอารี่สัปดาห์นี้ แล้วจะรู้ว่า less is
noob, proof is more (มันไม่เกี่ยวกัน มันแค่คล้องจอง อยากเขียน ทำไมคะ)

วันนี้ตอนบ่ายออกไปถ่ายรูปกับปิ่นที่ Think Space B2S ณ เซ็นทรัล อีสต์วิลล์ มันดีมากเลย
ไม่เชื่อก็ไปอ่านดูสิ
เอิง / พิสูจน์อักษร

ตัดวิดีโองาน MAKE A
ZINE ยังไม่ผ่าน ดูรวมๆ แล้วมันยาวย้วยเกินไปซึ่งก็พอจะรู้สึกแต่อับจนหนทาง
รู้สึกเกลียดการเสียดายฟุตเทจของตัวเองมาก เป็นอย่างที่มืออาชีพว่าไว้ไม่มีผิด
มือสมัครเล่นพวกถ่ายเองตัดเองแบบเราส่วนใหญ่มักจะตัดใจไม่ไหว
แต่ก็ต้องตัดทิ้งไปให้ได้ จริงๆ ถ้าเป็นคนอื่นถ่ายมาให้ ภาพไม่ถูกใจนิดหน่อยก็กด Delete แบบฉับไว
แต่นี่เพราะตัวเองถ่ายมากับมือ แล้วมันไม่สวย ก็ได้แต่นั่งถอนหายใจ

กลับไปหมดพลังแต่ก็นอนไม่หลับ นี่ไม่แน่ใจว่ากำลังคิดมาก
หรือความตึงเครียดในช่วงเร่งทำเมนคอร์สของกอง บ.ก. จะแพร่รังสีความเครียดให้เราติดเชื้อกลับมาด้วย
ข่มตายังไงก็ไม่หลับ ราวกับเด็กมัธยมฯ ที่โดนสาวหักอกเป็นครั้งแรก
ข้อดีของการมองงานตัดต่อให้เป็นบทเรียนที่น่าจะใช้ในชีวิตประจำวันได้ง่ายๆ ก็คือ
อะไรไม่ใช่เราก็ต้องตัดทิ้ง เลือกเก็บไว้เฉพาะสิ่งที่ใช่และจำเป็นที่สุด
แล้วเอาสิ่งที่ดีที่สุดที่เราเลือกเองมาเรียงร้อยต่อกัน ก็รู้ แต่มันทำไม่ง่าย
แอบตั้งคำถามกับตัวเองเหมือนกันว่า
หรือเราอาจจะไม่เหมาะกับทั้งการถ่ายและการตัดต่อก็ได้

ป.ล. วันนี้
a team is crying เป็นครั้งแรก หลังจากโดนว่าเรื่องงานไม่เดินตามแผน
แต่เราก็ยังอยู่ข้างกันเสมอ ภาพที่พี่ปูยื่นกล่องทิชชู่ให้นิว
พร้อมมือที่ยื่นมาตบไหล่หลายๆ มือทั้งจากพี่อะทีม และเพื่อนอะทีมจูเนียร์12 เป็นภาพที่เราคงไม่ลืม
พร้อมกับคำพูดของพี่ปูที่ว่า “เอาไปอีกไหม เผื่อมีระหว่างทาง”
เป็นหนึ่ง / วิดีโอครีเอเตอร์

เสียน้ำตาครั้งแรกให้เล่มของตัวเองแฮะ #adaythatchangedmylife ของจริง
ทำงานที่นี่มาจนครบหนึ่งเดือนกว่าๆ ก็คิดนะว่าถึงครึ่งทางแล้วแหละ แต่พี่ๆ
บอกว่ายังไม่ได้เริ่มเล่มตัวเองก็ยังไม่ถึงครึ่งทางหรอก (ฮา) เชื่อแล้วค่ะว่ามันเป็นเรื่องจริง

วันนี้คนเข้าออฟฟิศน้อย เหมือนพลังใจลดต่ำลงไปด้วย
อันที่จริงวันนี้มีกำหนดส่งงานหลายชิ้น แต่เราดันไปเสียเวลากับถกเถียงกันเรื่องเมนคอร์สที่ค่อนข้างวกวน
ย่ำอยู่กับที่จนเป้าหมายงานอื่นที่ตั้งไว้ไม่ลุล่วงซักอย่าง
ประมาณ 5 โมงกำลังจะหนีกลับบ้านเพราะคิดว่าพี่ก้องไม่น่าจะเข้าออฟฟิศแล้ว
เรียกได้ว่าถ้าเป็นหนังก็น่าจะเดาตอนจบได้ไม่ยาก

แต่… พี่ก้องเข้าจ้า

ชาวกองฯ ที่เหลือกันอยู่ 3 คน เรา กะทิ พี่แพรว
ไม่มีใครอยากเผชิญหน้า บวกกับเครียดจากที่คุยเรื่องเมนคอร์สกันมาทั้งวัน เก็บของ
เตรียมเผ่นกันเต็มที่ แล้วประโยคจากพี่ก้องก็เป็นไปตามคาด “วันนี้มีอะไรเสร็จตามที่เราตั้งไว้มั้ยนะ” พี่ก้องพูดพร้อมรอยยิ้มพิมพ์ใจที่ทำเอาพวกหนูขนลุกไปตามๆ
กัน ตอบอย่างไม่อ้อมค้อม “ไม่เสร็จซักอย่างเลยค่ะพี่” คุณพระ
อยากจะเดินออกไปหน้าถนนหน้าออฟฟิศให้รถชนตายให้มันจบๆ ไป (ล้อเล่นนะ) พี่ก้องเลยถามว่าเกิดปัญหาอะไรขึ้นที่ทำให้งานมันไม่เดินไปข้างหน้า
จนเดดไลน์ต้องเลื่อนออกไปเรื่อยๆ

ไม่มีคำแก้ตัวใดๆ เลยค่ะ น้ำตาแตกใส่คุณทรงกลดซะอย่างนั้น ไปๆ มาๆ
พี่แพรวร้องตามจ้า งงไปอีก…

เกิดมาไม่เคยร้องไห้ให้เรื่องงานมาก่อน กดข้ามรายละเอียดไปแล้วกัน
เขียนไปเขียนมาเริ่มเขินตัวเอง รู้สึกแพ้ ทำไมร้องไห้คนแรกในนี้เนี่ย พี่ปู
พี่เบิร์ด พี่นุกนิกเดินออกมาปลอบใจพร้อมพกทิชชู่กล่องใหญ่มาให้ซับน้ำตา
บอกว่าอยากร้องก็ร้องเลย (อ้าว) เรื่องปกติแหละ
จูเนียร์ใครเค้าก็ร้องไห้กัน เสร็จแล้วก็ไปหาของอร่อยๆ กินนะ เดี๋ยวก็ดีขึ้นเอง
เลยแวะกิน Sunrise Taco ก่อนกลับบ้าน อืม ของกินนี่มันช่วยให้อารมณ์ดีขึ้นได้จริงๆ แฮะ
นิว / กองบรรณาธิการ


วันที่
41

12 ก.ค. 2559

รีบปลุกพี่ช่อตั้งแต่
7 โมง เพราะจะไปเก็บภาพเส้นทางวิ่งที่สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ สวนสาธารณะข้างบ้านเราเอง
เรียกได้ว่าโตมากับสวนนี้เลยแหละ ที่นี่เป็นที่นิยมของคนพังงาเลยนะ บรรยากาศดี
มีต้นไม้ร่มรื่นเขียวชอุ่ม มีแอ่งน้ำ ภูเขา ถ้ำลอดยิ่งบรรยากาศหลังฝนตกแบบนี้
ชุ่มฉ่ำมาก มองไปทางไหนก็เขียวสบายตาไปหมด

ปกติเราไม่ค่อยได้กลับบ้าน
กลับมาแต่ละครั้งก็ได้เห็นความเปลี่ยนแปลงของตัวเมืองพังงาอยู่ตลอด สวนสมเด็จฯ
ก็เป็นอีกที่นึงที่พัฒนาขึ้นจากแต่ก่อนมากๆ
เป็นสวนสาธารณะของคนเมืองที่มีทางวิ่งที่สวยงาม
มีทางจักรยานสำหรับนักปั่นเพิ่งสร้างมาไม่นานนี้
และที่เรารู้สึกประทับใจที่สุดคือฟุตปาธข้างทางวิ่งที่ถูกออกแบบมาอย่างใส่ใจธรรมชาติ
ต้นไม้ต้นนี้ยังอยู่ที่เดิมไม่โดนโค่นเอาพื้นที่ไปทำทางเดิน
เราประทับใจมากที่เค้าให้ความสำคัญกับต้นไม้ ตอนเห็นครั้งแรกนี่ไม่คิดว่าจะเจออะไรแบบนี้
อยากพูดขอบคุณแทนต้นไม้ต้นนี้จริงๆ เลย

สายๆ ไปอำเภอท้ายเหมือง ทำคอลัมน์กลับบ้านลง a day เล่มจูเนียร์
สัมภาษณ์คุณปู เจ้าของสวนไผ่อาบู
อดีตวิศวกรอนาคตไกลที่ตัดสินใจกลับมาทำสวนที่บ้านเกิด
เป็นอีกคนที่ได้คุยแล้วไม่ผิดหวัง ได้เรียนรู้อะไรดีๆจากพี่เขาเยอะเลย
ยิ่งคุยยิ่งรู้สึกว่าอยากให้พื้นที่คอลัมน์นี้มากกว่านี้ แต่คงต้องทำใจ
เพราะได้แค่ 2 หน้าเอง
นุ๊บนิพ / กองบรรณาธิการ

แก้คลิปสรุปงาน MAKE A
ZINE เริ่มใหม่ด้วยการแกะบทสัมภาษณ์ก่อน
แล้วนำมาตัดเรียงร้อยให้เป็นเรื่องราว ตามที่พี่เอี่ยวแนะนำมา ตัดไปก็งงไป
เพราะสัมภาษณ์มาหลายคน คนที่อ่านอยู่อาจจะงง ว่า
ทำวิดีโอก็ต้องแกะบทสัมภาษณ์ด้วยเหรอ! จริงๆ แล้ว ถ้ามีการสัมภาษณ์เกิดขึ้นก็ควรเป็นเช่นนั้นครับ
เพราะการแกะบทสัมภาษณ์
จะทำให้เราเห็นรูปประโยคชัดเจนมากขึ้นกว่าการฟังเสียงที่ไหลไปเรื่อยๆ
พอเราเห็นตัวอักษรชัด เราก็เลือกตัดคำไม่จำเป็น คำซ้ำ ฯลฯ
ทำให้เรียงประโยคได้ง่ายก่อนเอามาตัดต่อ

ซึ่งตอนที่เราเรียนมาก็เป็นแบบนั้น โกรธตัวเองที่รู้ดี
แต่ก็ไม่ทำอย่างนั้นตั้งแต่แรก
หลังจากเทศนาให้ตัวเองเสร็จก็เริ่มแกะบทอย่างจริงจัง
แต่ไม่นานนักก็ถูกโจมตีด้วยอาการง่วง จนต้องเดินไปงีบหลับแบบรู้สึกผิดลึกๆ ในใจ
เหมยลี่เป็นพยานได้ว่าหลับไปไม่นาน (คิดว่าไม่นานนะ) รีบตื่นมาล้างหน้าแล้วกระโดดเข้าหางานสุดพลัง
งานคลิปจูเนียร์รายสัปดาห์ก็หายไปหลายสัปดาห์จนต้องถูกทวงถาม รู้สึกผิดไปอีก

คนอื่นทำงานช้าแบบประณีต แต่เราทำงานช้าแล้วงานยังไม่ดีอีก
ไว้อาลัยให้ตัวเองด้วยการเขียนลงไดอารี่ เพื่อตอกและย้ำให้จำฝังใจ
แอบเกิดคำถามกับตัวเองเหมือนกันว่า ถ่ายก็ไม่ดี ตัดก็ช้า จริงๆ
เราเก่งอะไรกันแน่วะ

เรื่องที่น่าดีใจวันนี้คือ เราสังเกตเห็นเสียงหัวเราะและการฮัมเพลงของคนในทีมที่หน้าบูดบึ้งจากเมื่อวานนี้
นี่น่าจะเป็นสัญญาณการเตรียมพร้อมสู้ศึกเมนคอร์สเล่ม 193 อย่างจริงจังและมีความสุขไปด้วยแน่ๆ
เราหวังอย่างนั้น
เป็นหนึ่ง / วิดีโอครีเอเตอร์

เมื่อไหร่ a day 191 – Bangkok’s 100 Hidden Places จะออก
จะเปลี่ยนรูปโปรไฟล์
กะทิ / กองบรรณาธิการ


วันที่
42

13 ก.ค. 2559

วันนี้จำไม่ได้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น
เหมือนไม่มีความทรงจำอยู่หรือสมองกระทบกระเทือนไปแล้วก็ไม่รู้ สิ่งที่จำได้อย่างเดียวของวันพุธคือร้านตัดผมจะปิด
กะทิ / กองบรรณาธิการ

วันนี้ตื่นตี 5 ครึ่ง
ไปทำคอลัมน์ cycling route ฝนตกประมาณช่วงตี
3 แล้วหยุดตอนประมาณตี 4 อากาศวันนี้เลยดีเป็นพิเศษ
แถมเขียวชอุ่มชุ่มฉ่ำไปทั่ว มีหมอกจางๆ ลงหลังฝนตกด้วยวันนี้เป็นการทำงานที่สนุกสุดๆ
คุณน้าทั้ง 2 คนที่พาเราไปก็ใจดีสุดๆ มีการบอกด้วยว่าอยากให้ขับแบบไหนยังไง
ให้ปั่นกี่รอบก็บอกเลย เพื่อให้ได้มุมภาพดีๆ ขอบคุณมากๆ เลยค่ะ

เราสนุกกับการทำงานเป็นพิเศษเมื่อได้ออกนอกสถานที่
ได้ออกไปทำงานต่างจังหวัด ได้ออกจากสภาพแวดล้อมเดิมๆ
รู้สึกเลยว่าพลังชีวิตกลับมาเต็มอีกครั้ง ยิ่งได้อยู่กับธรรมชาติ อากาศเย็นๆ
ยิ่งรู้สึกดี พอถ่ายเสร็จเรากับพี่ช่อก็ไปทานข้าวขาหมูเป็นอาหารเช้า แล้วก็แวะเดินตลาดสดในเมือง ซื้อดอกไม้มาไหว้พระกัน
กลับมาถึงบ้านวันนี้รีบปั่นคอลัมน์นี้ให้เสร็จเลย ฟีลกำลังได้ กำลังอิน
ถ่ายภาพเช้า ค่ำเขียนเสร็จ ส่งเลยจ้า
นุ๊บนิพ
/ กองบรรณาธิการ

เพิ่งกลับมาจากการไปแข่งประสานเสียงที่รัสเซีย 3 วันสุดท้ายได้นอนรวมกันไม่ถึง 8 ชั่วโมง เหนื่อยมาก เจ็ตแล็ก กลับมาเจอเพื่อนๆ
ที่ทำหน้าเครียดกับเมนคอร์สของพวกเราเองกันอยู่
ก็เลยตัดสินใจหลับบนโซฟาที่ออฟฟิศให้เพื่อนๆ ดูซะเลย
เฌอแตม / บรรณาธิการ


วันที่
43

14 ก.ค. 2559

วันนี้กองฯ
นัดกันไปนอกสถานที่เพื่อ (โควตพี่อีฟ) ‘กระทำความอิน’ ดิฉันก็ติดสอยห้อยตามไปด้วย
เป็นวันที่สนุกอีกวัน เพราะได้ไปเปิดตาเปิดใจสัมผัสอีกย่านหนึ่งที่ไม่ค่อยได้ย่างกรายไปในมหานครแห่งนี้
ไม่บอกหรอกว่าที่ไหน เดี๋ยวรู้ มันตลกที่เดินวนกันอยู่ที่เดิมๆ 2 รอบ
ก็ยังบังอาจให้มันมีรอบที่ 3 ได้
อินกันจนหลับตาเขียนแผนที่พร้อมสารานุกรมได้ ขนาดนั้นเลย

ลองไปอ่านคำพูดจากสองสาวผู้ร่วมเดินทางในทริปนี้กันค่ะ…

“ร้อนและกลิ่นเครื่องหอมแรงมาก” เฌอแตม
said

“การไปนอกสถานที่นี้มี
2 แก๊ง คือแก๊งทำงานกับแก๊งทำเป็นทำงาน” ณัฐ
said
เอิง / พิสูจน์อักษร

คงมีคนเล่าเรื่องว่าวันนี้มาออกกองหาข้อมูลที่พาหุรัดกันแล้ว
งั้นเราขอข้ามไปที่เรื่องของกินเลยประชุมกัน
สรุปสิ่งที่ได้จากการลงฟิลด์วันนี้ที่ฟู้ดคอร์ตในห้างขายผ้าห้างหนึ่งในพาหุรัด (ไม่บอกหรอกว่าเป็นไชน่าเวิลด์) สิ่งที่เผื่อใจเอาไว้ก่อนจากรสชาติอาหารที่นี่คือมันต้องไม่อร่อยแน่
แต่เซ็งมากไปกว่านั้นเพราะความเป็นจริงมันไม่อร่อยกว่ายิ่งที่คิดอีก เอาเป็นว่า อยู่เพื่อกิน
กินเพื่ออยู่
…คิดอะไรก็เป็นชื่อคอลัมน์ตอนนี้
กะทิ / กองบรรณาธิการ

เครียดมาก อืม
เฌอแตม / บรรณาธิการ


วันที่
44

15 ก.ค. 2559

วันนี้เข้าออฟฟิศบ่าย
มาชิลล์ๆ เพราะงานเสร็จแล้ว
เหลือแค่คอลัมน์แมวที่ต้องเขียนเพิ่มนิดหน่อย ยังไม่ได้นอนทั้งคืนเลยรู้สึกเบลอๆ นิดหน่อย เลยมานั่งร้องเพลงกอล์ฟ-ไมค์กับนิว
ติ่งที่แท้จริงต้องร้องได้ทุกเพลงนะคะ
นุ๊บนิพ
/ กองบรรณาธิการ

วันนี้ทีมเมนคอร์สนัดประชุมกันที่ TK Park ตอนเช้า
ก่อนจะเข้าไปเสนอโครงเมนคอร์สทั้งหมดพร้อมกันตอนบ่าย

พอได้เปลี่ยนบรรยากาศ หลายคนก็ผุดไอเดียเจ๋งๆ ออกมาได้มากขึ้น
หลายๆ อย่างดูเป็นชิ้นเป็นอันขึ้น รู้สึกมีหวังและเครียดน้อยลง เราต้องทำได้สิ
เราเป็นจูฯ 12 เลยนะ สู้เค้าเพื่อนๆ ทุกคน
เฌอแตม / บรรณาธิการ

ระหว่างที่นั่งทำงานอยู่ก็มีเสียงร้องเพลงดังขึ้น
‘ให้ยืนงงๆ ฉันคงทำใจไม่ได้’ เสียหมด
พี่ปูร้องเพลงเขาเสียหมด! แล้วยังวิจารณ์เพลงเขาอีกว่า
จะมายืนงงอะไร พอรู้ว่าร้องผิดยังบอกอีกว่าตัวเองเป็นคนครีเอทีฟ ดู #ความพี่ปู
สิ จะไม่ให้ชื่นชมได้อย่างไร ป.ล. หลังจากฟังพี่ปูร้องท่อนนี้ไปก็ไม่สามารถฟังที่ขนมจีนร้องได้เหมือนเดิมอีกเลย

สำหรับท่านที่โทรจิตเข้ามาก็คงพอทราบอย่างหอมปากหอมคอแล้วว่า
เป็นปรู๊ฟก็ไม่ใช่จะต้องนั่งอืดอยู่ออฟฟิศทั้งวัน เราสามารถไปเปิดโลกข้างนอกได้
พี่ๆ ไม่ได้ใจร้ายปิดกั้นขนาดนั้น แต่ก็ต้องคำนึงถึงภาระและหน้าที่
ถ้างานเสร็จแล้วก็เชิญตามแต่สถานการณ์อำนวย แต่ถ้ายังไม่เสร็จก็ทำให้มันเสร็จสิ
จะไปยากอะไร
เอิง / พิสูจน์อักษร

สิ่งที่เราคาดหวังสิ่งเดียวจากวันนี้คือวันหยุดยาว
แต่ก็ตรัสรู้ได้ในเสี้ยววินาทีต่อมาว่าสิ่งที่ต้องเจอจริงๆ
ก็แค่การเอางานกลับไปทำที่บ้าน หรือแย่กว่านั้นก็พกคอมไปเที่ยวด้วย
แต่อย่างน้อยก็ยังดีที่ได้กลับบ้าน

สิ่งที่นึกออกจากคำว่า ‘กลับบ้าน’ ไม่ใช่การไปเจอหน้าพ่อแม่
มีครอบครัวที่แสนอบอุ่น แต่เป็นชื่อคอลัมน์ไปแล้ว
กะทิ / กองบรรณาธิการ

ไม่ระบุวันที่

อาทิตย์นี้ไม่รู้จะเขียนอะไร
เพราะกลับถึงบ้านหัวถึงหมอนก็นอนแล้ว จะกลับมาเขียนเรื่องของอาทิตย์นี้ก็ไม่อิน
งั้นเจอกันอาทิตย์หน้าแล้วกันค่ะ สัญญา
หมิว
/ อาร์ตไดเรกเตอร์

AUTHOR