วันอาทิตย์
26 มิ.ย.
2559
ใครๆ ก็ทำงานวันอาทิตย์เป็นเรื่องปกติโดยเฉพาะชาวอะเดย์
นอกจากวันปิดเล่มแล้ว วันหยุดในปฏิทินก็ไม่เคยสำคัญอีกต่อไป
วันนี้พี่ก้องคิดถึง (งานของพวกเรา)
ก็ต้องเข้าออฟฟิศมาพบกันหน่อยหลังจากแยกย้ายไปเที่ยวกรุงเทพฯ
กันมาอย่างเต็มที่ วันนี้จะเป็นวันวัดผลว่าใครไปเที่ยวแล้วได้งานกลับมาครบถ้วนที่สุด
เขียนกันเพลินๆ ทำงานกันชิลล์ๆ จากเดิมที่ตั้งไว้ว่า 4 โมงจะได้กลับก็ดูเหมือนจะไม่เป็นอย่างนั้น
กว่าจะผ่านไปได้แต่ละที่ช่างยากเย็นเลือเกิน
นับถือในความใจเย็นและความอดทนของพี่ก้องในการสอนพวกเรามากๆ ถ้าเรียนในมหา’ลัยอาจารย์คงให้
F เราไปแล้วเพราะเขียนเท่าไหร่ก็ไม่ผ่านสักที
แต่พี่ก้องก็ยังพยายามทำความเข้าใจพวกเราไปเรื่อยๆ จนกว่าเราจะเขียนด้วยตัวเองได้
เรายังคงจมอยู่กับร้านกุนเชียง กะทิหลอนอยู่กับวงเวียนเล็ก
นัทก็ร้องแบะแบะต่อไป พี่ก้องเลยปลอบใจคืนวันอาทิตย์อันหงอยเหงาของพวกเราด้วยพิซซ่า
แต่พอกินเสร็จแล้วเราก็เพิ่งมาคิดได้ว่าความคาดหวังในคุณภาพงานน่าจะเพิ่มขึ้น (ฮ่าๆ)
เป็นคลาสเรียนที่กระอักกันทั้งจูเนียร์ทั้ง บ.ก. จาก 4 โมงลากยาวไปจน 4 ทุ่ม
มาซ้อมปิดเล่มกันเบาๆ ไปก่อนนะวันนี้ สุดท้ายเราก็ปิดจ๊อบไปได้ด้วยงานทั้งหมด 51 ชิ้น (พี่ภูมิใจในตัวน้องๆ จริงๆ : พี่ก้อง, 2016)
ป.ล. ดีใจมากที่ถุงนอนที่เตรียมมาไม่ได้ใช้
ทราย /
กองบรรณาธิการ
วันที่
30
27 มิ.ย.
2559
วันนี้ต้องเขียนเรื่องรถราง เลยเปิดคลิปใน YouTube ดูไปเจอคลิปรถรางวันสุดท้ายในกรุงเทพมหานคร
พ.ศ. 2511 เวลาแค่ 2 นาทีกว่าแต่ทำให้เด็กในยุค
’59 อย่างเราประทับใจมาก ไม่ใช่แค่ตัวภาพและเพลงประกอบ
แต่เป็นเพราะการบรรยายอันน่ารักของคุณแท้ ประกาศวุฒิสาร ศิลปินแห่งชาติ
การใช้คำของคุณแท้ทุกประโยคกินใจเด็กอย่างเรามาก ฟังไปก็อมยิ้มไป
สร้างความคิดถึงความหลังของกรุงเทพฯ สมัยก่อน ตอนนั้นเรายังไม่เกิดเลย เขาใช้คำพูดบรรยายสิ่งที่อยู่
ณ เวลานั้นด้วยถ้อยคำน่ารักและจริงใจ ประโยคง่ายๆ ไม่ซับซ้อน ไม่ต้องคิดมาก
ดูกันเพลินๆ ไป
ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยดูคลิปไหนที่ใช้วิธีบรรยายแบบนี้มาก่อน เช่นประโยคที่พูดว่า “คนขับรถรางแกโบกมือกับช่างภาพเป็นการอำลา” พร้อมกับภาพที่รถรางเลี้ยวเข้ามาทางกล้องแล้วคนขับโบกมืออย่างนั้นจริงๆ
คลิปนี้ไม่ได้ตั้งใจให้เราย้อนถึงวันเก่า แต่ดูแล้วก็อดคิดถึงไม่ได้แม้จะเกิดไม่ทันก็ตาม
ถ้ากรุงเทพฯ เป็นแบบนั้นในตอนนี้ก็คงดีนะ
นุ๊บนิพ /
กองบรรณาธิการ
หลังจากที่ทำตัวเป็นคนดีอยู่นานในที่สุดวันนี้ก็มงลงแล้วค่ะ
คุ้มแล้ว (เหรอ) สำหรับการหอบขาหมูมาซื้อเสียงทุกคน
ขอบคุณทุกคนที่วางใจใช้งานให้เป็น บ.ก. ค่ะ เราจะก้าวข้ามการปิดเล่มในครั้งนี้ไปให้จงได้
ทราย /
บรรณาธิการ
วันที่
31
28 มิ.ย.
2559
วันแห่งการปั่นงาน แก้งาน และตรวจเช็กงาน เวลาปิดเล่มคืบคลานใกล้เข้ามา
ทุกคนงานล้นมือจนเวลามีงานใหม่มาแล้วไม่รู้จะแจกไปให้ใครดีเลย
การอ่านไดอารี่ของคนอื่นในจูเนียร์ ทำให้พบว่าการมีตำแหน่งกอง บ.ก. ไม่ได้แปลว่าเขียนเก่งกว่าช่างภาพ
อาร์ตไดฯ พิสูจน์อักษร หรือวิดีโอครีเอเตอร์เลย เพราะหลายคนเขียนสนุกและน่าสนใจกว่าเราเยอะมาก
ส่วนทางกอง บ.ก. ก็นั่งแก้เทกซ์กันอยู่งกๆ
แก้ยังไงก็ไม่ลงตัวสักทีจนสงสัยแล้วว่ามันยากหรือเรากากเอง ฮือ
เฌอแตม /
บรรณาธิการ
รับอีดิตงานค่ะ ส่งมาเลย ส่งมาเลยค่ะพรุ่งนี้จะปิดเล่มแล้วค่ะ กำลังปั่นงานกันสนุก
(รึเปล่า)ใครไม่ไหวบอก ใครอยากให้ช่วยบอกนิพพร้อมเสมอ #เขียนวนไปค่ะ
นุ๊บนิพ /
กองบรรณาธิการ
ไปมาบุญครองเพื่อซื้อสเตดี้แคม
รีบเดินรีบซื้อรีบกลับไปทำงานในวันเร่งรีบ โชคดีที่ได้ปิ่น
ช่างภาพสาวเจ้าถิ่นพาไปด้วย เพราะปิ่นก็ลืมเมมฯ กล้อง ต้องกลับไปเอามาส่งงาน
แต่ละคนเริ่มมีอาการหลงๆ ลืมๆ ให้เห็นได้ชัดขึ้นแล้วในระยะหลัง…
เป็นหนึ่ง / วิดีโอครีเอเตอร์
วันที่
32
29 มิ.ย.
2559
“ไปเซเว่นฯ
นะครับ”
“ตาย
มึงตาย”
“ม๊อบ
เอากุญแจรถพี่ไป”
บ่งบอกถึงการกักตุนอาหารในช่วงปิดเล่มได้ดี
เอิง / พิสูจน์อักษร
วันปิดเล่ม บอกเลยว่า ‘เดือด’… ถ้าน้ำซุปเดือดแล้วจะเปิดฝาหม้อตอนไหนบอกด้วย!
วันนี้พวกเราทำสุกี้กินกันที่ห้องอาหารชั้นล่าง บรรยากาศเฮฮา
แย่งกันกินแบบสนุกสนาน เสียงหัวเราะดังลั่นไปทั้งห้องอาหาร ทั้งพี่ๆ อะทีม
และน้องๆ จูเนียร์อย่างเรา และแล้วน้ำจิ้มสุกี้ฟรีที่ได้มาจากการประกวดโฆษณาก็ได้หมดลงไปในค่ำคืนนี้
เราเก็บภาพได้นิดเดียว
ก่อนจะกระโจนเข้าไปเบียดยื้อแย่งชิ้นเนื้อด้วยความหิวโหยแบบทนไม่ไหวแล้วโวย
ไม่ถ่ายละ ขอลาออกจากตำแหน่งแบบชั่วคราวสักครึ่งชั่วโมง พอกินเสร็จ
ทุกคนก็แยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตัวเองอย่างรวดเร็ว
ตอนตี 5 ลงลิฟต์มาทิ้งทำลายหลักฐานการกิน
ก็เจอทีมงานถ่ายโฆษณาที่มาบล็อกช็อตเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว
เขาถามว่าทำไมมาเช้ากันจังเลยครับ แต่ในดวงตาคู่นั้นของพี่คนที่ถาม
ก็พอจะเดาออกว่าพวกมึงยังไม่ได้นอนแน่ๆ
เราเก็บฟุตเทจต่อเนื่องจนเพื่อนบ่นว่า ถ่ายไรเยอะแยะ
ใครสักคนพูดขึ้นแทนเราว่า “ก็พี่เขาเลือกมาถ่ายนี่น่า” ช่วยไม่ได้ทุกคนในจูฯ 12 ถูกเราเก็บภาพเบื้องหลังการฝึกงานอย่างจริงๆ
จังๆ และเล่นๆ หลุดๆ เอาไว้หมดแล้ว
แอบหลับไปตอนตี 3 สัญญากับตัวเองว่าชั่วโมงเดียวพอ ตั้งนาฬิกาปลุก
วางแผนว่าจะตื่นมาถ่ายต่อ สรุปตื่นมาอีกทีก็พบว่าข้าพเจ้าได้ผิดสัญญาที่ให้ไว้กับตัวเองเรียบร้อยแล้วครับ
มันตี 5 แล้วเว้ย รีบออกไปดูเพื่อนกอง บ.ก. ที่ขันแข็งแก้งานอยู่ ก็โดนมันว่าอีกครั้ง
“ตอนพวกกูทำงานในสภาพซอมบี้ ทำไมไม่มาถ่าย!!” – โอเคครับ
เราผิดไปแล้ว
เป็นหนึ่ง / วิดีโอครีเอเตอร์
ครั้งแรกในชีวิตที่ได้สัมผัสกับวันปิดเล่มอยู่ที่นี่ไม่มีคำว่าดึกอีกต่อไป
วันนี้เรามีปาร์ตี้สุกี้แสนสุขที่หมูอาจไม่สุก เขียนงานเหนื่อยๆ
เจออะไรแบบนี้ก็โล่งใจ เราชอบเวลาแบบนี้ ที่มีทุกคนอยู่ด้วยกันมากๆ
ศึกช่วงชิงสุกี้ครั้งนี้ไม่มีใครยอมแพ้ใคร อาวุธพร้อมครบครัน รอหม้อเปิด เราก็จ้วงกันสุดชีวิต
สังเกตเห็นพี่เอี่ยวยืนมองอยู่นอกวงตาปริบๆ มองหาจังหวะไหนที่จะแทรกได้
กินเสร็จก็ขึ้นมาเขียนงานต่อ เขียนไปเรื่อยๆ รู้สึกง่วง
งงกับตัวเองนิดนึงว่าทำไมง่วง พอหันไปดูเวลาเท่านั้นแหละ อ้าว
เที่ยงคืนกว่าแล้วค่าา ว่าแล้วก็ขอให้พี่หมีชงกาแฟให้เพื่อต่อชีวิตให้ตัวเองกินไปเที่ยงคืนกว่ารอบนึง
ประมาณตี 3 อีกรอบนึง ทุกคนดูยุ่ง เครียด เหนื่อย แต่ยังยิ้มให้กันได้
บางเรื่องหัวเราะไม่ออก แต่เราก็พยายามยิ้มออกมา
แล้วบอกกับตัวเองว่าเดี๋ยวก็จะผ่านไป เดี๋ยวเราก็ทำได้
เกือบๆ ตี 4 กำลังฟุบนอนพี่ก้องถามว่า “นิพพลังชีวิตเหลือแค่ไหน ช่วยเขียนตรงนี้ให้หน่อย” เราไม่รู้ว่าพลังเหลือแค่ไหน มันเหนื่อยนะ แต่ถ้ายังไม่หลับ
ก็เท่ากับว่ายังพอทำงานได้ สมองอาจคิดไม่ค่อยออกเท่าไหร่ เขียนไม่ค่อยโดนเท่าไหร่
ไม่เป็นไร เดี๋ยวคงมีใครสักคนช่วยแล้วเราจะผ่านมันไปได้ด้วยรอบยิ้ม เสียงหัวเราะของเพื่อนๆ และพี่ๆ
ทุกคน
พี่เบิร์ดก็เปิดเพลงทาทา ยังมาเป็นระยะๆ ง่วงๆ มากหน่อย
เราก็ลุกมาเต้นให้หายง่วงแล้วก็ไปเขียนต่อ กำลังทำงานเพลินๆ หันไปมองนอกหน้าต่างฟ้าสว่างแล้วว่ะ…
ป.ล. วันนี้พบแล้วว่าเวลาที่ต้องทำงานหนัก
ให้ดื่มน้ำเยอะๆ สมองตื้อจริงๆ ให้ออกไปเดิน
นุ๊บนิพ
/ กองบรรณาธิการ
ปิดเล่มเป็นคำที่น่ากลัว ได้ยินทีไรหัวใจก็หวิวเลยค่ะ
มีลางสังหรณ์ว่าจะได้นอนออฟฟิศทุกที
วันนี้ก่อนออกจากบ้านทุกคนเลยพกถุงนอนกันมาเต็มที่กลัวพลาดบรรยากาศการนอนออฟฟิศพร้อมกันครั้งแรก
หารู้ไม่ว่ามีอะไรรอเราอยู่บ้าง
เช้านี้เริ่มต้นด้วยการเช็กงานเพื่อนๆ
ที่ค้างมาตั้งแต่เมื่อคืน หลังจากมีวันนี้เพราะพี่และเพื่อนให้มาแล้ว
ก็ต้องทำหน้าที่ บ.ก. กันเลย
ตื่นเต้นจนบอกไม่ถูกเลยค่ะ เพิ่งได้ตำแหน่งมาเมื่อวาน
วันนี้ก็ได้อีดิตงานทุกคนก่อนลงเล่มแล้ว ปฏิบัติหน้าที่เร็วประหนึ่งนางงาม
คิดไม่ออกเลยว่าถุงนอนที่เอามาจะได้ใช้ตอนไหน
เวลาผ่านไปเร็วมาก
เผลอแป๊บเดียวก็บ่ายแล้ว แต่งานที่ต้องอีดิตยังเป็นภูเขาเลากา ไม่ลงมันแล้วชั้น 1 กินข้าวมันข้างคอมนี่แหละ ข้าวมันไก่รสชาติฝืดคอมาก
กินไปคิดเรื่องงานไป บรรยากาศในออฟฟิศคึกคักเป็นพิเศษ เหมือนวันนี้มีงานอะไรกัน
ใช่
เย็นนี้มีเล่มให้ปิด แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือมีปาร์ตี้สุกี้ ชาวปรู๊ฟและชาวอาร์ตไดฯ
ผู้รองานจากชาวกองอยู่จึงออกไปช้อปปิ้งเตรียมของไว้ให้
เรายังคงก้มหน้าก้มตาปั่นต่อไป บางเรื่องเขียนไม่ดีก็ต้องเขียนใหม่ พยายามเอาคำที่พี่ก้องบอกมาใช้บ่อยๆ
คือ ต้องเขียนด้วยใจ ถ้าเราไม่สนุก คนอ่านก็ไม่มีทางสนุกไปกับเราด้วย
สิ่งที่ยากมากๆ ในตอนนั้นคือ เราสนุกมา 20
ชิ้นแล้ว
อีก 20 ชิ้นที่เหลือก็ยังคงต้องรักษาระดับความสนุกนี้ไว้ให้ได้
เขียนไม่ดีก็แก้ใหม่ วนลูปแบบนี้ไปเรื่อยๆ
ช่วงเวลาที่หม้อสุกี้มาคือช่วงเวลาพักผ่อนสมอง
ไม่มีใครยอมใครอย่างเห็นได้ชัด อาวุธพร้อม กายพร้อม ใจพร้อม แล้วก็ลุย
กินกันจนเกือบลืมงานไปเลย
กลับขึ้นมายังเจอพี่ก้องนั่งอยู่ที่เดิม
บ.ก.ใหญ่ยังทำงาน บ.ก.จูเนียร์ก็ควรหยุดคิดถึงหม้อสุกี้แล้วเริ่มทำงานได้แล้ว
ระหว่างนี้เฌอแตม
บ.ก.กะกลางวันได้สละเรือกลับบ้านไปแล้ว
กะกลางคืนผู้ไม่เคยทำงานโต้รุ่งอย่างเราจะเป็นอย่างไรต่อไป
จะผ่านคืนนี้ไปโดยไม่ตายได้หรือไม่ก็ยังไม่มีใครรู้ แล้วก็วนกลับเข้ามาที่ลูปเดิม
เขียนไป แก้ไป ทำหน้าเหมือนใกล้ตายตลอดเวลา จนพี่ก้องต้องเดินมาตบบ่า (หรือตบให้ตื่นก็ไม่แน่ใจ)
จากที่หน้าแน่นๆ
มาเมื่อเช้าเมกอัพก็เริ่มเลือน จนกะทิถามว่าไปล้างหน้ามาแล้วเหรอ โถ่
คิ้วฉันก็จางหายไปพร้อมกับปริมาณงานนั่นแหละ ใกล้แล้วโว้ยยยย อีกนิดเดียวก็รอดแล้ว
หันไปอีกทีกะทิที่หาทำเลเหมาะๆ ได้แล้วก็ลงหลักปักถุงนอนแล้วชิงหลับไปก่อน
เหลือนิพ แพรว นิว นัท และเรา ที่นั่งหาวไปทำไป แต่เอิงไม่มีทีท่าว่าจะยอมแพ้ง่ายๆ
นั่งปรู๊ฟอย่างไหลลื่นดูไม่ง่วงเลยสักนิด
สภาพห้องอะเดย์ตอนนี้มีความเหมือนโรงงานขนมปัง เขียนเสร็จปุ๊บเลปั๊บ ทำกันร้อนๆ
เหมือนอบขนมปังฟาร์มเฮ้าส์
หันไปอีกทีฟ้าที่เคยเป็นสีดำก็เริ่มมีแสงสว่างแล้ว
หลายคนจับจองพื้นที่ในออฟฟิศ และสอดตัวลงไปในถุงนอนเรียบร้อย
พี่ก้องยังดูไม่ง่วงเหมือเดิม การเป็น บ.ก.
ต้องอึดขนาดนี้เลยสินะ
แต่ตอนนี้ บ.ก.จูเนียร์ไม่ไหวแล้วค่ะ
หาวจนน้ำตาไหลไปไม่รู้กี่รอบแล้วค่ะ กว่าจะหมดเวรหมดกรรมก็ 06.30 น.
ถุงนอนถุงนี้ก็ไม่มีความหมาย
รอกลับไปนอนบ้านทีเดียวเลยดีกว่า
ขอบคุณเพื่อนๆ
ที่พยายามช่วยเหลือให้เราตื่นอยู่ตลอดเวลา ทั้งหาของกินให้ และช่วยแก้งานไปด้วยกัน
เล่มหน้าเสร็จเร็วๆ แล้วเอาเวลาไปนอนกันเถอะ!
ทราย
/ บรรณาธิการ
วันที่
33
30 มิ.ย.
2559
กลับจากออฟฟิศมาถึงหอตอน 9 โมง นอนทั้งวันจริงๆ
นุ๊บนิพ
/ กองบรรณาธิการ
อยู่จนสว่าง
แอบกลับไปอาบน้ำแล้วมาเก็บฟุตเทจต่อเลย พร้อมกับแอบสอดส่องด้อมๆ มองๆ พี่ๆ
ทีมโปรดักชันที่มาถ่ายโฆษณากันในออฟฟิศของเรา
เพิ่งเคยได้ใกล้ชิดกับอุปกรณ์และทีมงานของจริงๆ แบบนี้เป็นครั้งแรกเลยตื่นเต้นเป็นพิเศษ
ด้วยความที่สนใจงานในวงการโฆษณามานานแล้ว แต่หาโอกาสแบบนี้ยากมาก
เลยต้องแอบเปิดประตูออกไปดูบ่อยๆ เดินไปเดินมา ตั้งแต่หน้าเซ็ต
ไปจนถึงหลังมอนิเตอร์ ข้างหลังผู้กำกับ พานเอาพลังหมดเกลี้ยง
แอบสลบไปตอนบ่ายในท่านั่งพิงผนังมุมห้องหลังโต๊ะพี่ฝ่ายอาร์ต แถมหมิวคนใสๆ
ยังตามมารังควานด้วย เพราะหมิวมีความสามารถพิเศษคือ การกรนแบบไม่ต้องหลับ… ใสใส
เป็นหนึ่ง
/ วิดีโอครีเอเตอร์
วันที่
34
1 ก.ค.
2559
นี่เข้าเดือนกรกฎาแล้วเหรอ ครึ่งหลังของปีนี้แล้วสิ วันนี้กลับมาใช้ชีวิตแบบสบายๆ
อีกครั้งหนึ่ง คุยเรื่องเมนคอร์ส เถียงๆ กันก็สนุกดี คนเรามีความคิดหลากหลายจริงๆ นะ และนี่แหละคือเสน่ห์ของการทำงานเป็นทีม ขอแค่อย่าตบกันเป็นพอละค่ะ
วันนี้ทรายถามว่า คิดว่าตัวเองมีปัญหาอะไรมั้ย? ตอบไปแบบไม่ต้องคิดเลยว่า ปัญหาสุขภาพค่ะ 555
นุ๊บนิพ
/ กองบรรณาธิการ
วันนี้ออกไปเซเว่นฯ
คนเดียว
เป็นประสบการณ์ชีวิตที่ทำให้รู้ขีดความสามารถของพละกำลังในการแบกของในตัวเอง
ไม่มีอะไรมากนอกจากคับแค้นใจ เพราะกลับมาไม่ได้กินของที่ตัวเองซื้อไว้
ใครคือผู้โชคดีที่ได้หมูของฉันไป หรือแท้จริงแล้วหมูทอดขีดนั้นไม่เคยมีอยู่เลยเพราะแม่ค้าลืมหยิบให้ใช่ไหม
ฉันสูญเสีย 45 บาทไปอย่างไร
สุดท้ายเลยได้กัดกินเพียงข้าวเหนียวสะโพกไก่มูลค่า 25
บาทเท่านั้น
คืนนี้อยู่ออฟฟิศ
ช่วยกันตัดสติกเกอร์สำหรับงาน MAKE A ZINE
2 ที่จะถึงในวันรุ่งขึ้น
พี่ๆ เรียกกันว่าโรงงานนรก แต่เรากลับมีความสุขอย่างประหลาดกับการทำงานเป็นระบบหมุนเวียน
ที่พอคนนึงทำหน้าที่ตัวเองเสร็จ ก็ยื่นให้คนอื่นทำหน้าของตัวเองต่อ
เราอาจจะเหมาะกับการเป็นสาวโรงงาน หรือทุกวันนี้เราก็ทำงานเป็นระบบอยู่แล้ว
แค่เราไม่ทันได้ชื่นชมความสวยงามของมันเท่านั้นเอง
เอิง / พิสูจน์อักษร
ตกเย็น ตัดสินใจนั่งเรือแสนแสบ ไปดูหนังเรื่อง สวรรค์บ้านนา
ก่อนกลับมาเตรียมของที่ออฟฟิศ ตัดและพับซีนช่วยพี่เบลล์ และก็เป็นจูเนียร์ที่กลับคนสุดท้าย ทิ้งพี่เบลล์ไว้เพียงลำพัง
พรุ่งนี้ต้องถ่ายวิดีโองานซีน โคตรตื่นเต้นว่าฝนจะตกไหมวะเนี่ย จะมีคนมาเยอะไหม
จะได้เจอใครบ้าง จะถ่ายดีรึเปล่า และเขาจะกลัวเราที่ถือกล้องเดินถ่ายหรือเปล่าวะ
เครียดให้พอประมาณแล้วก็บอกตัวเองว่า อยู่กับปัจจุบันเถอะ
ควรไปนอนได้แล้ว พรุ่งนี้คือพรุ่งนี้ ธรรมะสวัสดี
เป็นหนึ่ง / วิดีโอครีเอเตอร์
วันเสาร์
2 ก.ค.
2559
งาน MAKE A ZINE 2 เป็นงานที่ดีมากกกกกกก พระเจ้าช่วยไม่ต้องทอดกล้วยแล้ว
ทอดน่องมากันเถอะปีหน้าห้ามพลาดเด็ดขาด เพราะเราเองก็รู้สึกพลาดมาก
ตอนแรกตั้งใจจะทำซีนมาแลก แต่ด้วยความอ่อนหัด อ่อนด้อย จึงไม่ได้ลงมือทำ
เอาแต่คิดๆ แย่ๆ สมควรแล้วที่ต้องมานั่งพิมพ์บอกว่าเสียดาย
มันเหมือนกับว่า เป็นโอกาสที่ดีมากๆ
ที่เราจะมีหนังสือเป็นของตัวเอง ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นความฝันของนักอ่านหลายๆ คน
ที่สำคัญ มันไม่ต้องผ่านใครตรวจว่าผ่านไม่ผ่าน ชอบไม่ชอบ
มันต้องผ่านเราซึ่งเป็นคนทำล้วนๆ ไม่มีกรอบตัดสินถูกผิด ดีเลว
ไม่จำกัดวิธีการเล่าเรื่อง อยากใส่ขนม โปสการ์ด ใส่อะไรก็ได้ลงไปในซีน มันอิสระมากๆ
เราได้สัมภาษณ์น้อง ม.ต้น
คนนึงที่ดั้นด้นอดทนปวดก้น นั่งรถมาไกลจากเชียงใหม่ถึงกรุงเทพฯ เพื่อมาแลกซีน โอ้โห้ววววววว
ปีหน้าถ้าเราไม่ทำนี่ถือว่าให้อภัยตัวเองไม่ได้เด็ดขาด เพราะเราอยากแลกเปลี่ยนซีน
แลกเปลี่ยนมุมหนึ่งของโลกส่วนตัวที่แต่ละคนสนใจอยากเล่าออกมาบ้าง
ระหว่างเดินไปทั่วงานเพื่อเก็บภาพกิจกรรมและนำไปตัดเป็นคลิปสรุปงานตามหน้าที่ ความโชคดีคือการได้พูดคุยเรื่องน่าตื่นเต้นมากๆ
กับพี่เบ๊น – ธนชาติ ศิริภัทราชัยเป็นเรื่องที่บอกได้เพียงว่า
มันตื่นเต้นมากที่สุดในฐานะเด็กฝึกงานคนหนึ่งเลย!
เป็นหนึ่ง
/ วิดีโอครีเอเตอร์