JA’S Home Cooking เสพศิลป์ กินเบอร์เกอร์ คอมมูนิตี้แห่งใหม่ที่มาได้ทุกวัน

 ‘Everyday for Everyone’ คือสโลแกนที่ครอบคลุม JA’S Home Cooking อย่างแท้จริง

 ไม่ว่าใครที่ผ่านไปมาก็ต้องสะดุดตากับบ้านประตูรั้วสีแดงสดใส รายล้อมด้วยต้นไม้ใบเขียว เพียงก้าวเข้าไปบรรยากาศก็ให้ความรู้สึกอบอุ่นเหมือนมาบ้านเพื่อน ภายนอกร้านมีบริเวณ Pet Friendly สำหรับคนที่มากับสัตว์เลี้ยง ร้านโฮมคุกกิ้งแห่งนี้ซ่อนตัวอยู่ในซอยสุขุมวิท 36 ที่เดินจาก BTS ทองหล่อเพียงแค่ 5 นาทีก็ถึงร้าน ที่นี่ไม่ใช่แค่ร้านอาหาร แต่เป็นคอมมูนิตี้ที่ประกอบไปด้วย ผู้คน ไลฟ์สไตล์ ไปจนถึงพื้นที่แสดงงานศิลปะในบ้านหลังเล็กๆ ใจกลางสุขุมวิท

JA’S Home Cooking

JA’S Home Cooking มีจุดเริ่มต้นมาจากเจ้าของร้าน ‘จา-จาฏุพัจน์ มนต์วิเศษ’ อยากจะสร้างคอมมูนิตี้ที่เชื่อมโยงกับผู้คนทั้งชาวสุขุมวิทและละแวกใกล้เคียง สื่อสารโดยใช้สื่อกลางคือ อาหาร เพราะเธอเชื่อว่าอาหารเป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้

“เราตั้งใจอยากให้เป็นร้านที่ทุกคนมาได้ทุกวัน ทำให้ทุกคนรู้สึกว่าทุกครั้งที่เหมือนมาหาเพื่อน ไม่รู้ทานอะไร ไม่ต้องคิดอะไรมาก ไม่ต้องแต่งตัวพิถีพิถัน อยากมานั่งทำงาน นัดเพื่อน หรือหนีรถติดไม่รู้จะไปไหน ก็มานั่งชิลๆ ที่ร้านเราได้

“ร้านเราเลือกใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพ ความพิถีพิถันในการทำ ในราคาที่สมเหตุสมผลและเป็นมิตรต่อคนในชุมชน มีโอกาสไปพบกับเชฟท่านหนึ่งที่มีพรสวรรค์สามารถรังสรรค์รสชาติเบอร์เกอร์ได้แบบหาตัวจับยาก เราชื่นชอบรสชาติและแนวคิดของเขาจนได้มีโอกาสนำฝีมือของเขามาให้แก่ชาวสุขุมวิทได้ลิ้มลองในสไตล์ของเรา จึงเป็นที่มาของ ‘Everyday for Everyone’ Restaurant โดยในอนาคตอยากจะพัฒนาช่องทางอื่นๆ ในการเชื่อมต่อที่นอกเหนือจากอาหาร เพื่อทำให้สเปซของเราสร้างคุณค่าให้แก่ย่านสุขุมวิท 36”

Everyday for Everyone

สาเหตุที่ร้าน JA’S Home Cooking เน้นเมนูหลักคือเบอร์เกอร์ก็มาจากคำถามที่ว่า ทำไมเบอร์เกอร์ถึงถูกมองว่าเป็นอาหารขยะ ? ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว เบอร์เกอร์เป็นอาหารที่ให้สารอาหารครบ 5 หมู่ แถมยังสามารถพกพาไปทานได้ทุกที่ทุกเวลา สะดวกสบาย ทานง่าย ไม่ยุ่งยาก นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้จาอยากจะทำเบอร์เกอร์ดีๆ อร่อยๆ ให้ทุกคนได้ทาน 

นอกจากนี้เธอตั้งใจอยากให้เบอร์เกอร์ของร้านสามารถเข้าถึงผู้หญิงได้ง่ายมากขึ้น ด้วยความที่ตัวเธอมองว่าเบอร์เกอร์ไม่ตอบโจทย์สาวๆ ผู้รักสุขภาพเท่าไหร่ เธอจึงตั้งใจทำเบอร์เกอร์ขนมปังปั้นด้วยมือ ไม่มีไขมันทรานส์ ไม่ใส่สารแปลกปลอมหรือสารปรุงแต่ง เพราะต้องการคงไว้ซึ่งรสชาติดั้งเดิมของวัตถุดิบ ในส่วนของเนื้อมีตัวเลือกที่หลากหลาย ทั้งเนื้อวัว เนื้อวัวดรายเอจ เนื้อหมู รวมถึงเนื้อแพลนต์เบส สำหรับชาววีแกนและมังสวิรัติอีกด้วย 

“เบอร์เกอร์เป็นอาหารที่ได้ครบ 5 หมู่ ที่เราสามารถทานแบบ everyday และทุกคนสามารถเข้าถึงได้ แต่เราอยากทำเบอร์เกอร์ที่มีภาพลักษณ์ใหม่ๆ เบอร์เกอร์ที่ไม่ได้ดู masculine จนผู้หญิงไม่กล้าทาน เพราะส่วนตัวเป็นผู้หญิง แต่ไม่ชอบเข้าร้านเบอร์เกอร์ รวมไปถึงเราอยากทำเบอร์เกอร์ที่ทานแล้ว guilt-free ทานแล้วไม่รู้สึกว่าทำลายสุขภาพ

“เบอร์เกอร์ขนมปังปั้นด้วยมือ ทำให้ขนาดของแต่ละชิ้นอาจจะไม่ได้เป๊ะเหมือนกันทั้งหมด แต่เรารู้สึกว่ามันคือเสน่ห์ รวมไปถึงรสชาติที่แปลกใหม่ เป็นรสชาติที่ comfortable ไม่ค่อยได้พบที่ไหนในบรรดาร้านเบอร์เกอร์ ส่วนเนื้อเราก็จะใช้เนื้อหมักวันต่อวัน ไม่ผสมแป้งและสารกันบูด

“ที่สำคัญคือร้านเราจะแจ้งปริมาณเนื้อกับเมนูทุกเมนูทั้งเบอร์เกอร์และข้าว เผื่อบางคนต้องการคุมแคลอรี เราใส่ใจไปจนถึงตัวผัก เคยมีลูกค้าชมว่าอร่อยแม้กระทั่งมะเขือเทศ มันเป็นดีเทลเล็กๆ ที่บางคนสังเกตเห็น แค่นี้พวกเราก็ดีใจมากแล้วเพราะคือความตั้งใจของเราตั้งแต่วันแรกที่ทำร้าน เราใส่ใจลงไปในอาหารของเราทุกจาน“

Comfort Food 

 นอกจากนี้ที่ร้านยังมีกิมมิกน่ารักๆ คือการตั้งชื่อเมนูเบอร์เกอร์ด้วยชื่อตัวละครจากเรื่อง Star Wars ที่เป็นความชอบส่วนตัวของเจ้าของร้าน และตั้งใจนำคาแรกเตอร์ของวัตถุดิบมาเทียบกับตัวละครเพื่อให้จดจำได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเมนู Yoda, Boba Fett, Anakin, Dart Maul, R2D2 และอีกมากมาย 

แต่สำหรับใครที่เลือกไม่ถูกว่าจะทานเมนูไหนดี ทางร้านก็แนะนำเป็นเมนูอย่าง Ampol (อำพล) ที่อัดแน่นด้วยวัตถุดิบทุกอย่างในร้านแบบจัดเต็ม ทั้งเนื้อแองกัสดรายเอจ ชีส เบคอน หอมทอด ไส้กรอกหมู และแตงกวาดอง ที่วางทับซ้อนกันหลายชั้น ถึงจะทานลำบากหน่อยแต่ขอบอกเลยว่าเมนูนี้อร่อยมากๆ 

“เราตั้งใจให้เบอร์เกอร์ทุกชิ้นรวมไปถึงเมนูใหม่ๆ ที่เรารังสรรค์เป็น comfort food สำหรับทุกคน ฟีดแบ็กลูกค้าส่วนใหญ่ประทับใจขนมปังมาก ซึ่งขนมปังนี้เป็น element ในเมนูทุกเมนู รวมไปถึงขนมปังที่เป็นของหวานของเราด้วย บอกได้เลยว่าทุกตัวคือซิกเนเจอร์ของร้านเรา”

นอกจากเบอร์เกอร์แล้ว ก็ยังมีเมนูโฮมคุ้กกิ้งอย่าง Hayashi Rice ข้าวซอสฮายาชิ หรือเป็น Homemade Curry Rice ข้าวแกงกะหรี่ และอีกหลากหลายเมนูให้ได้เลือกทาน ส่วนเครื่องดื่มก็น่าสนใจไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็น คราฟต์โคล่า คราฟต์โซดา รูตเบียร์ คอมบูชา และซอฟต์ดริงก์อื่นๆ ที่มาช่วยตัดรสชาติให้มื้อนั้นอร่อยมากยิ่งขึ้น

THE MOMENT

JA’S Home Cooking ไม่เพียงแค่ขายอาหารเท่านั้น แต่ยังเป็นสเปซจัดนิทรรศการศิลปะอีกด้วย โดยจะสลับเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ซึ่งนิทรรศการครั้งนี้มีชื่อว่า ‘THE MOMENT’ จัดแสดงผลงานในรูปแบบ Duo Exhibition ของ ‘TURN’ (เทิดธันวา คะนะมะ) และ ‘GUONG’ (ณภพ เชาวนพูนผล) ถ่ายทอดช่วงเวลาดีๆ ทั้งความสุข ความอบอุ่น ความผูกพัน และแรงสนับสนุนที่ได้รับจากคนในครอบครัวผ่านคาแรกเตอร์อันเป็นเอกลักษณ์สุดน่ารัก

จุดเริ่มต้นของนิทรรศการศิลปะมาจากจาที่ตั้งใจอยากจะต่อยอดและพัฒนาพื้นที่ในสุขุมวิท 36 ด้วยความที่เธอชื่นชอบงานศิลปะเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จึงได้ร่วมมือกับ JINJəR team ซึ่งเป็นกลุ่มที่สนิทคุ้นเคยกันมา ช่วยคัดสรรศิลปินที่มีคาแรกเตอร์เหมาะกับร้านเหมือนคอนเซ็ปต์ร้านคือ Everyday for Everyone เพื่อให้ถ่ายทอดความเป็นร้านออกมาได้มากที่สุด ซึ่ง JINJəR team มีแนวคิดจะสนับสนุนศิลปินไทยที่มีความฝันและต้องการหาพื้นที่ในการถ่ายทอดงานศิลปะของตัวเอง 

“ร้านนี้เป็นร้านโฮมคุกกิ้งที่ตั้งใจอยากทำให้คนที่มาทานรู้สึกเหมือนได้กลับมาบ้าน กลับมาทานอาหารกับครอบครัว นิทรรศการนี้ก็เลยเป็นธีมที่พูดถึงความอบอุ่น เมื่อพูดถึงความอบอุ่นส่วนใหญ่ก็จะนึกถึงเพื่อนหรือครอบครัว งานของผมก็เลยพูดแทนตัวละครด้วยครอบครัวของผมที่คอยซัพพอร์ต คอยผลักดันจนผมมีวันนี้ได้ก็เป็นเพราะครอบครัว ด้วยความที่ผมเรียนจบศิลปะไทยมา ตัวละครของผมก็ได้ inspire มาจากจิตรกรรมฝาผนัง ผมเติบโตมากับ subculture และ pop culture ก็เลยผสมผสานตัวละครในแบบที่ชื่นชอบ” TURN เล่าถึงคอนเซ็ปต์และแรงบันดาลใจของนิทรรศการ

“พวกเราต้องการอธิบายถึงช่วงเวลาที่มีความอบอุ่นและความสุขของศิลปินออกมาแสดง งานของผมก็จะเอาช่วงเวลาความทรงจำของครอบครัวที่ผมรู้สึกประทับใจมาแสดงงานเป็นสามช่วงเวลา ส่วนตัวละครมาจากการที่ผมเป็นคนชอบดูสารคดีเกี่ยวกับตัวกินมด ผมก็เลยสร้างคาแรกเตอร์ขึ้นมาให้มันเป็นคาแรกเตอร์ของผม หลักๆ แล้วเทคนิคที่ผมจะชอบใช้คือสีอะคริลิกแคนวาสเป็นส่วนใหญ่” GUONG เล่าเสริม

หากใครกำลังมองหาสถานที่สโลว์ไลฟ์นั่งชิวดูงานศิลปะ หรือแฮงเอาต์พูดคุยกัน ที่นี่เป็นอีกหนึ่งที่พักใจและพักท้องได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะใครที่เป็นสายเบอร์เกอร์ ร้านนี้เป็นอีกร้านในลิสต์ที่ห้ามพลาด

>ภาพ : JA’S Home Cooking

JA’s Home Cooking 

address : ซอยสุขุมวิท 36 ถนนสุขุมวิท แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพฯ (ใช้เวลาเดินจาก BTS ทองหล่อประมาณ 5 นาที) 

hours :  ทุกวัน 10.30 – 20.00 น. 

tel. : 061-226-2462

AUTHOR