30 COLORS PROJECT : พลิกเมืองท่าติดทะเลให้น่าเที่ยวด้วยการเลือกที่เที่ยวจากสีที่ชอบ

เมื่อพูดถึงจังหวัดชิซึโอกะ ภาพของภูเขาไฟฟูจิ แหล่งท่องเที่ยวโคตรฮิตมหาฮอตน่าจะโผล่มาเป็นอันดับแรก ตามด้วยไร่ชาเขียวอันอุดมสมบูรณ์ของน้องหนอนและเอาต์เล็ตที่โกะเทมบะ

ตั้งแต่ญี่ปุ่นยกเลิกวีซ่าให้นักท่องเที่ยวไทย คาบสมุทรอิซึ ย่านพักผ่อนริมทะเลและแหล่งออนเซนแสนสบายในจังหวัดชิซึโอกะก็เริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้น ยิ่งซากุระในเมืองคะวะสึบานก่อนใครเพื่อน ยิ่งหว่านเสน่ห์เรียกนักท่องเที่ยวได้ผลชะงัดนัก น่าสงสารก็แต่เมืองริมทะเลเกือบใต้สุดอย่าง ชิโมะดะ ที่ถูกมองข้ามไปบ่อยๆ เราเองก็เป็นหนึ่งในนั้น เลือกแวะไปนอนที่นั่นเพียงเพื่อเลี่ยงนักท่องเที่ยวมหาศาลในเมืองคะวะสึ

หน่วยงานส่งเสริมการท่องเที่ยวประจำเมืองชิโมะดะจึงแก้เกมด้วยการป้ายสีให้แหล่งท่องเที่ยวในเมืองของตัวเองเพื่อเรียกร้องความสนใจผ่านแคมเปญที่ชื่อว่า ‘30 COLORS PROJECT’ ซะเลย

เล่าให้ฟังก่อนว่า ชิโมะดะเป็นเมืองท่าติดทะเลที่มีภูเขาโอบล้อม มีน้ำเค็มให้เล่น และมีน้ำแร่ออนเซนให้แช่ คุณค่าเชิงวัฒนธรรมก็เข้มข้น นี่คือเมืองที่เป็นจุดสิ้นสุดของการปิดประเทศญี่ปุ่นและเป็นจุดเริ่มต้นของการฟื้นฟูความสัมพันธ์กับอเมริกาสมัยหลังสงครามโลก ที่นี่มีต้นซากุระที่บานสะพรั่งพร้อมๆ กับคะวะสึ อาหารทะเลแสนอร่อยในราคามิตรภาพ และโซนบ้านไม้เก่ากรุบกริบเวรี่วินเทจอย่าง Perry Road ที่มีคาเฟ่ชิคๆ ร้านค้าเก๋ๆ ให้เพลิดเพลินมากมาย

เอาเป็นว่าครบเครื่อง แต่ปัญหาคือ ใครรู้บ้าง?

เจ้าหน้าที่เล่าให้เราฟังว่า คนมักจะรู้จักชิโมะดะแค่มุมเล็กๆ มุมเดียว เช่น ชอบประวัติศาสตร์จึงอยากมาดูรูปปั้นของผู้นำทัพเรือ Matthew C. Perry แต่ก็จะไม่รู้ว่ามีมุมชิคสบายๆ อย่างถนนเพอร์รีโรด ส่วนคนที่มาคาเฟ่เก๋ๆ ก็ไม่รู้ว่าที่นี่มีสวนดอกไม้ขนาดใหญ่บนภูเขาที่มองเห็นวิวเมือง ทะเล และภูเขาสลับสับหว่างกันอย่างสวยงาม

ดังนั้น พวกเขาจึงเลือกสถานที่ท่องเที่ยวและกิจกรรมต่างๆ มาจับคู่สีที่เข้ากับอิมเมจ 30 สี 30 ความสนุก ทำแผ่นพับวางเรียงสีอย่างสวยงามเพิ่มโอกาสแจ้งเกิดให้กับสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ และทำให้น่าสนใจขึ้นด้วยการแบ่งตามตีมเก๋ เช่น คนรักทะเล ตะลุยกินของหวาน เดินเล่นย่านเรโทร เสริมเสน่ห์สตรีวัยใส ศึกษาประวัติศาสตร์ใน 2 ชั่วโมง เขียนน้อยๆ เน้นเล่าให้เข้าใจง่าย เที่ยวตามสะดวก ใครใคร่เที่ยวแบบไหนก็เลือกหยิบไปตามจริตได้เลย โดยหลักๆ จะวางไว้ที่ศูนย์ให้ข้อมูลการท่องเที่ยว โรงแรม เรียวกังต่างๆ

30 ไม่ใช่ตัวเลขที่มีความหมายพิเศษ แต่เป็นจำนวนที่เจ้าหน้าที่มั่นใจว่าทำมาแล้วปัง อุตส่าห์วางแผนเที่ยวมาให้เลือกตั้ง 30 รูปแบบแล้ว มันต้องโดนสักที่แน่นอน

ส่วน 20 คือจำนวนเจ้าหน้าที่การท่องเที่ยวเมืองชิโมะดะในทีมที่ช่วยกันวางแผน ปลูกปั้นโปรเจกต์จนเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา ซึ่งเราว่ามันออกมาสมบูรณ์ กุ๊กกิ๊ก และเป็นกันเองกว่าสื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวทั่วไปเพราะนี่เป็นผลงานจากการร่วมใจของคนในชุมชนด้วย ทั้งความร่วมมือจากนักออกแบบท้องถิ่น ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางและชาวเมืองที่มีความสนใจด้านนั้นๆ มาร่วมออกความเห็นกันเต็มที่ แม้แต่คอร์สแนะนำที่เดินชิลล์ยังระดมขอข้อมูลจากคนที่ชอบพาสัตว์เลี้ยงมาเดินเล่น

3 ปีผ่านไปนับจากที่เริ่มโปรเจกต์ ผลตอบรับเรียกได้ว่าดี ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวประมาณ 2,900,000 คน ต่อปี ทะลุยอดที่ตั้งเป้าไว้ที่ 2,200,000 คนภายในปี 2020 ได้อย่างสวยงาม หลังจากที่จำนวนนักท่องเที่ยวลดลงเรื่อยๆ จากสามล้านกว่าคนเหลือเพียงสองล้านนิดๆ ในปี 2012 ด้วยผลกระทบจากพิษเศรษฐกิจและภัยธรรมชาติต่างๆ

เจ้าหน้าที่บอกเราว่า นักท่องเที่ยวส่วนมากเริ่มหยิบจากสีที่ชอบ ตื่นเต้นกับความคัลเลอร์ฟูลของแผ่นพับจนนำไปสู่การทำความรู้จักแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ ได้จริง (ยกมือ, เราก็เลือกเที่ยวจากสีที่ชอบ)

ตอนนี้เวอร์ชั่นสองใกล้คลอดแล้ว ภายในเดือนเมษายนนี้จะมี 2 คอร์สใหม่ออกมา และทยอยปล่อยที่เหลือเรื่อยๆ

สร้างสรรค์และช่วยเมืองได้จริงขนาดนี้ เราเลยขออนุญาตตั้งชื่อเล่นโปรเจกต์ให้เองเลยว่า 30 Shades (Travel) Harder!

website | www.shimoda-city.info/shimoda/30colors/

AUTHOR