Edinburgh : เมื่อมักเกิ้ลสาวพาเที่ยวนครต้องมนตร์

เอดินเบอระเป็นเมืองหลวงของประเทศสกอตแลนด์
สหราชอาณาจักร แวบแรกที่ได้ทำความรู้จักเมืองนี้ผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์ เรานึกภาพว่าที่นี่ช่างเหมาะจะเป็นฉากหลังของนิยายรักโรแมนติก
แต่พอได้ก้าวเท้าผ่านอาคารบ้านเรือน
ได้ฟังชาวเมืองเล่าเรื่องลึกลับและน่าสะพรึงกลัวของที่นี่
ความคิดที่เรามีต่อเมืองนี้ก็เปลี่ยนไปทันที

นี่มันโลกเวทมนตร์จากหนังสือแฮร์รี่ พอตเตอร์ชัดๆ

ก่อนที่หนังสือขายดีตลอดกาลชุดนี้จะถือกำเนิดขึ้นจากปลายปากกาของ
J.K. Rowling
เมื่อ 23 ปีก่อน
เธอตัดสินใจย้ายมาอยู่ที่เอดินเบอระกับญาติ เจ.เค. เล่าว่านั่นคือช่วงเวลาที่เธอรู้สึกว่าชีวิตล้มเหลว
เธอหย่ากับสามี ต้องเลี้ยงลูกสาวด้วยตัวคนเดียว แถมยังไม่มีงานทำ
แต่นั่นก็ทำให้เธอมีเวลาทุ่มเทกับงานเขียนหนังสือที่เธอรัก
และในช่วงเวลาแห่งความยากลำบากนี้เอง เธอก็เริิ่มหยิบจับวัตถุดิบต่างๆ
ในเมืองมาเสกเป็นวรรณกรรมที่เปลี่ยนชีวิตเธอและคนทั่วโลกในเวลาต่อมา

เอดินเบอระคล้ายเป็นเมืองที่ถูกหยุดเวลาไว้ที่ยุคกลาง (ราวคริสต์ศตวรรศที่ 15 – 17) อาคารในยุคนั้นสร้างจากอิฐและหินหนาหนัก
หน้าต่างเล็กแคบทำให้มีเพียงลำแสงสลัวลอดผ่านเข้ามาในห้อง
แค่ได้เดินผ่านตึกรามบ้านช่องและโบสถ์ในเมือง
เราก็รู้สึกเหมือนกำลังอยู่ในหมู่บ้านฮอกส์มี้ดและตรอกไดแอกอน
ยิ่งพอเดินไปจนสุดถนน ก็ได้เจอกับปราสาทเอดินเบอระที่มีอัฒจันทร์ขนาดใหญ่ตั้งอยู่ด้านหน้า
ทำให้รู้สึกเหมือนได้มาเจอโรงเรียนฮอกวอตส์และสนามควิดดิชอย่างไรอย่างนั้น

ไม่ใช่เพียงสถาปัตยกรรม
แต่ประวัติศาสตร์ของเมืองนี้ยังผูกพันกับเรื่องราวของเวทมนตร์ ไสยศาสตร์ และผีสาง
เพราะในช่วงเวลานั้นยุโรปอยู่ในยุคมืด ยุคที่คริสตจักรใช้ความเชื่อทางศาสนาครอบงำประเทศ
เอดินเบอระในตอนนั้นเป็นเมืองที่ผู้คนอยู่อย่างแออัด เต็มไปด้วยคนยากไร้
อาชญากรรม และโรคระบาด และทุกครั้งที่เกิดเรื่องร้ายอย่างไม่มีสาเหตุ
หญิงชราในเมืองจะถูกป้ายความผิดว่าเป็นแม่มดที่บูชาซาตาน
พวกเธอจะถูกสอบสวนอย่างไม่เป็นธรรม และถูกฆ่าอย่างเลือดเย็น

สกอตแลนด์เป็นประเทศที่มีการล่าแม่มดครั้งใหญ่ถึง 5 ครั้งในยุคมืด
วิธีการเฉพาะตัวที่ใช้ทดสอบว่าใครเป็นแม่มดในเมืองนี้คือจับผู้ต้องสงสัยโยนลงไปในทะเลสาบ Nor Loch แหล่งน้ำที่ทำหน้าที่เป็นคูเมืองและที่ทิ้งของเสีย
ถ้าผู้ต้องสงสัยลอยแปลว่าเป็นแม่มด ซึ่งจากนั้นจะถูกนำไปทรมานและประหารชีวิต
แต่ถ้าจมน้ำ แปลว่าคนคนนั้นบริสุทธิ์
แต่กว่าจะช่วยขึ้นมาจากน้ำที่เน่าเสียได้ หญิงที่โชคร้ายก็หมดลมหายใจไปนานแล้ว

สรุปง่ายๆ ว่ายังไงผู้ต้องสงสัยก็ต้องตายอยู่ดี

ช่วงที่เจ.เค. กำลังมองหาแรงบันดาลใจสำหรับวรรณกรรมเรื่องใหม่
เธอได้ตระเวนไปนั่งเขียนหนังสือในคาเฟ่หลายแห่งทั่วเมือง และหนึ่งในนั้นคือร้าน The Elephant House คาเฟ่ที่มีวิวมองออกไปเห็นโรงเรียนประจำ
George Heriot’s
School ซึ่งเป็นอาคารเก่าแก่ที่มี 4 หอคอย
และเมื่อรวมเรื่องราวของแม่มด ทะเลสาบ โรงเรียนประจำ และปราสาท ก็บรึ๊้มมม…กลายเป็นโรงเรียนคาถาพ่อมดแม่มดและเวทมนตร์ศาสตร์ฮอกวอตส์!

อีกจุดท่องเที่ยวห้ามพลาดสำหรับแฟนแฮร์รี่ พอตเตอร์ ตัวจริง คือ Greyfriars Kirkyard สุสานที่เจ.เค. หยิบยืมหลายชื่อบนป้ายหลุมศพมาตั้งเป็นชื่อตัวละครในเรื่อง
อย่างศาสตราจารย์มักกอนนากัล อาจารย์ประจำบ้านกริฟฟินดอร์ และโทมัส ริดเดิล ผู้ซึ่งภายหลังกลายเป็นคนที่คุณก็รู้ว่าใคร

เราแนะนำให้เดินเล่นในเมืองจนถึงเวลาโพล้เพล้
บรรยากาศในเอดินเบอระจะยิ่งเปี่ยมมนต์ขลัง เพราะปราสาทและห้างร้านต่างๆ
จะพร้อมใจกันเปิดไฟเป็นแสงสีเหลืองอมส้มมลังเมลือง ในตอนนั้นลองสังเกตคนรอบข้างดูดีๆ

ไม่แน่ มักเกิ้ลอย่างเราอาจเห็นคนในเสื้อคลุมสีดำเดินหายวับเข้าไปในกำแพงก็ได้

Edinburgh Castle

Address: Castlehill, Edinburgh EH1 2NG, United Kingdom
Hours: เปิดทุกวัน (ยกเว้นวันที่ 25 – 26
ธันวาคม) ฤดูร้อนตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน – 30 กันยายน เปิด 09:30 – 18.00 น., ฤดูหนาวตั้งแต่วันที่
1 ตุลาคม – 31 มีนาคม เปิด 09:30 – 17.00 น.

Ticket Price: ผู้ใหญ่ 16.5
ปอนด์, เด็กอายุ
5 – 15 ปี 9.9
ปอนด์, ผู้ใหญ่อายุ
60 ปีขึ้นไปและผู้ว่างงาน 13.2 ปอนด์

www.edinburghcastle.gov.uk

สุสาน Greyfriars Kirkyard

Address: Candlemaker Row, Edinburgh EH1 2QQ, United Kingdom
Hours: เปิดทุกวัน 24
ชั่วโมง

โรงเรียน George Heriot’s School

Address: Lauriston Pl, Edinburgh EH3 9EQ, United Kingdom (ติดสุสาน Greyfriars Kirkyard) บุคคลภายนอกอย่างเราห้ามเข้า
ทำได้แค่ยืนเกาะรั้วมองอาคารนะ

ใครอยากส่งเรื่องที่น่าเที่ยวมาลงเว็บไซต์ a day online คลิกที่นี่เลย

AUTHOR