Gongkan x Kia งาน Collaboration ที่อยากให้ทุกโมเมนต์ในการเดินทางของชีวิตเต็มไปด้วยแรงบันดาลใจ

หากพูดถึงศิลปินไทยรุ่นใหม่ที่ประสบความสำเร็จ มีผลงานโดดเด่นเป็นที่รู้จักในปัจจุบัน หนึ่งในนั้นต้องมีชื่อของ Gongkan (ก้องกาน) หรือ ก้อง–กันตภณ เมธีกุล รวมอยู่ด้วย

กับสไตล์งานอันเป็นเอกลักษณ์ ด้วยคอนเซ็ปต์ teleport ภาพคนในหลุมดำกำลังวาร์ปไปสู่อีกมิติ ซึ่งเป็น element สำคัญอยู่ในงานศิลปะของเขา 

หลังจบนิทรรศการของเมื่อปีที่แล้ว ช่วงนี้ Gongkan หยุดพักเติมไฟให้พร้อมสำหรับนิทรรศการครั้งใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้นในปีนี้ แต่ในช่วงระหว่างนี้ ศิลปินหนุ่มก็มีโปรเจกต์พิเศษสนุกๆ ให้แฟนๆ ได้ติดตามกันอยู่ตลอด 

หนึ่งในนั้นก็คือโปรเจกต์ที่ทำร่วมกับ Kia ภายใต้คอนเซ็ปต์ Movement that inspires ซึ่งเป็นงานที่เกี่ยวเนื่องกับการ rebranding ของแบรนด์รถยนต์จากเกาหลี และถือเป็นการ collaboration ครั้งแรกระหว่าง Gongkan กับ Kia Thailand  

คอลัมน์ Draft till done ในวันนี้ a day บุกไปถึงสตูดิโอของ Gongkan เพื่อให้เขาเล่าถึงวิธีคิดในการทำงานโปรเจกต์นี้ รวมถึงอธิบายว่า identity ระหว่างงานศิลปะของ Gongkan กับแบรนด์รถยนต์อย่าง Kia นั้น ไปด้วยกันได้อย่างไร

ตอบคำถามในชีวิตผ่านงานศิลปะ  

เฟรมผ้าใบสีขาวขนาดใหญ่จำนวนหนึ่งตั้งพิงผนังอยู่ในสตูดิโอ เบื้องหน้าของเฟรมเหล่านี้คือ Bean bag ตัวใหญ่ที่ศิลปินเจ้าของสตูดิโอมักใช้เอนตัวสบายๆ ระหว่างทำงานในนี้ ไม่มีงานที่วาดค้างไว้ เพราะศิลปินหนุ่มอยู่ในระหว่างช่วงพักจากนิทรรศการครั้งหลังสุดเมื่อตุลาคมปีก่อนที่ปักกิ่ง โดยงานนั้นมีชื่อว่า Inner Place พูดถึงการเข้าไปสำรวจจิตใจและตั้งคำถามต่างๆ เกี่ยวกับชีวิตของตัวเราอีกครั้งหนึ่ง

กับอีกนิทรรศการก่อนหน้านั้นซึ่งจัดที่ฝรั่งเศส ในชื่อ For Someone Who Hates The rainbow พูดถึงความเท่าเทียมทางเพศ LGBTQ+ และสิทธิในความรัก โดยงานก็จะใช้สีรุ้งมาเป็นส่วนประกอบ

“ช่วงนี้ก็ยังไม่ได้ทำงานศิลปะของตัวเองครับ เพราะยังไม่พร้อม เพิ่งจบเอ็กซิบิชั่นไปเมื่อปลายปีที่แล้ว ผมรู้สึกว่าเราต้องพักด้วย เพราะว่าพอได้พัก ไฟเราก็จะกลับขึ้นมาอีก พอเราลุยใหม่ก็เต็มที่กว่า”

ที่จริงเขาก็มีกำหนดการสำหรับนิทรรศการใหม่ที่จะเกิดขึ้นในปีนี้รออยู่แล้ว นั่นคือที่เกาหลีในเดือนพฤษภาคม และที่แอลเอในเดือนกันยายน

“ตอนนี้ก็ยังไม่ได้เริ่ม คือกำลังเริ่มประกอบความคิด ว่าจะเล่าเรื่องอะไร ผมให้ความสำคัญกับตอนพัฒนาความคิดมากกว่าตอนผลิต เพราะว่าถ้าเราคิดมาจบแล้วตอนผลิตก็ง่าย 

“ส่วนใหญ่งานผมจะได้มาตอนที่เกิดคำถามในชีวิต จะได้งานหลายแบบมาก เพราะว่างานเราเหมือนเป็นการแก้ปัญหา หรือเป็นการเยียวยาและตอบคำถามผ่านงานศิลปะ”

ในช่วงระหว่างทางนี้เอง ที่มีโปรเจกต์ collab กับ Kia Thailand เกิดขึ้น ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นไฟในการทำงานชั้นดีให้กับเขา 

Gongkan x Kia การเจอกันของสองแนวคิดเรื่องการเดินทาง

ด้วยความเป็นคนไม่หยุดนิ่ง ปัจจุบันแม้จะเป็นศิลปินที่โฟกัสกับงานศิลปะในแกลเลอรี แต่ด้วยสไตล์งานที่เป็นคอมเมอร์เชียลอาร์ตได้อยู่แล้ว เมื่อได้รับการทาบทามจากทาง Kia ซึ่งอยู่ในช่วงการ rebranding ซึ่งให้อิสระในการสร้างสรรค์งานได้เต็มที่ ก้องกานจึงคิดว่างานนี้น่าสนุกและตอบรับทันที

“เราแค่คุยคอนเซ็ปต์กันในช่วงแรก แต่ในช่วงผลิตงาน เขาค่อนข้างเปิดให้เราทำได้เต็มที่มากๆ Kia เป็นแบรนด์ที่พูดถึงอิสรภาพ สนับสนุนให้คนเดินทาง ไปท่องเที่ยวแบบไม่มีขีดจำกัด ซึ่งงานนี้ค่อนข้างเข้ากับคอนเซ็ปต์งาน teleport ของผมอยู่แล้ว เพราะว่าก็พูดถึงการเดินทางเหมือนกัน งานของผมพูดถึงการไปที่ไหนก็ได้อยู่แล้ว เหมือนมีแกนไอเดียที่ใกล้เคียงกัน เป็นเรื่องของมูฟเมนต์ เขาเป็นรถ เราก็เป็น teleport แล้วพอเป็นการ rebranding ทาง Kia ก็พูดถึงเรื่อง creativity มากขึ้นด้วย เลยรู้สึกว่าถ้าเขา collab กับศิลปิน ก็น่าจะเข้ากับคอนเซ็ปต์ที่เขาวางไว้”

ก้องกานหยิบของพรีเมียมภายใต้คอนเซ็ปต์ Movement that inspires ที่มีทั้ง กระเป๋าผ้า หมอนผ้าห่ม และปฏิทิน มาประกอบการอธิบายกระบวนการถ่ายทอดความคิดออกมาเป็นงานให้เราฟัง 

“ช่วงแรกก็ดูว่า เขาพูดถึงการเดินทาง แล้วเราจะทำยังไงให้มีความสนุกสนาน ดูอิสระ และเป็นงานอาร์ตแต่มีรถด้วย พอคิดถึงการ teleport มันก็เหมือนเป็นการไปได้หลายๆ ที่ และนี่เป็น Kia Thailand ด้วย ผมก็เลยคิดว่า เราเล่าเรื่องตั้งแต่เหนือจรดใต้เลยก็ได้นี่ เราพูดถึงการเดินทางในประเทศไทย ซึ่งเป็นประเทศที่ทุกภาคมีเอกลัษณ์ของตัวเอง มีที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอยู่ทุกภาคอยู่แล้ว 

“โดยข้างบนสุดก็จะเริ่มจากภูเขา ที่เป็นภูมิประเทศของภาคเหนือ แล้วก็มาที่ภาคกลาง มีภาพของเมือง ล่างสุดก็เป็นทะเล สื่อถึงภาคใต้ แล้วบางส่วนเราก็จะมีอะไรที่มันดูเซอร์เรียล ให้มันเป็นสไตล์งานผม มี building อะไรที่ดูไม่ใช่ตึกสมัยนี้ ดูเป็น digital หรือ futuristic ให้รู้สึกว่ามีเรื่องของจินตนาการ มีความสนุกทางด้านความคิดสร้างสรรค์ด้วย 

“คืองานผมจะมีความเป็น surrealistic อยู่แล้ว อาจจะไม่ได้วาดอะไรที่เหมือนเป็นเรื่องจริง แต่ใส่จินตนาการเข้าไปด้วย บางอย่างก็ไม่ได้เกี่ยวกับแบรนด์ แต่ผมรู้สึกว่าก็มีเพื่อ signature ได้ อย่างเช่น สายรุ้ง หรืออะไรที่ดูเหมือนขึ้นไปบนฟ้า แม้กระทั่งเกาะผมก็วาดเป็นผู้หญิงที่มีหัวเป็นต้นไม้ หรือต้นไม้ที่กลับหัว คือไม่จำเป็นต้องเป็น realistic ทั้งหมด เหมือนเป็นอีกโลกหนึ่งที่แปลกออกไป” 

ศิลปินหนุ่มบอกว่า เขารู้สึกสนุกที่ได้ทำงานชิ้นนี้ เพราะห่างจากการ collaboration ไปนาน

“รู้สึกว่าถ้าลูกค้ามีพื้นที่ให้เรา เปิดกว้างให้เราได้นำเสนอในสิ่งที่เป็นเรา ก็เป็นงานที่น่าทำ ซึ่งทาง Kia ก็ให้เกียรติ และชอบผลงานเราอยู่แล้ว แต่แน่นอนว่าก็มีการปรับนิดๆ หน่อยๆ เราก็เข้าใจลูกค้า ไม่ใช่ว่าเปลี่ยนอะไรไม่ได้เลย ซึ่งก็แก้ไม่เยอะ แล้วออกมาก็คือ หนึ่ง เรายังมีความเป็นตัวเองอยู่ ขณะเดียวกันก็ขายของให้ลูกค้าด้วย ซึ่งรู้สึกว่าเป็นคอมบิเนชันที่ดีถ้าทำได้แบบนี้”

สร้างประสบการณ์ เรียนรู้ และเติบโตผ่านกาลเวลา  

Kia กับก้องกานน่าจะยังมีเคมีที่เข้ากันอีกอย่าง ตรงที่ถ้าพูดถึงการเดินทางแล้ว นอกจาก ‘จุดเริ่มต้น’ และ ‘ปลายทาง’ สิ่งที่ทั้ง Kia และก้องกานให้ความสำคัญเหมือนกันก็คือ ‘ระหว่างทาง’ ซึ่งมักเป็นช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยประสบการณ์ใหม่ๆ การเรียนรู้ และการเติบโต

การเดินทางบนเส้นทางสายศิลปะของก้องกาน เริ่มต้นเมื่อประมาณ 5 ปีที่แล้ว จากครีเอทีฟโฆษณาที่ลาออกไปตามฝันการเป็นศิลปินที่นิวยอร์ก สู่การค้นพบคอนเซ็ปต์งาน teleport ซึ่งแจ้งเกิดผลงานศิลปะของศิลปินนาม Gongkan จนได้เดินสายจัดนิทรรศการทั่วโลกนับแต่นั้น

“ตอนเด็กๆ เราขอแค่ได้โชว์งานก็จบแล้ว แต่พอเราได้โชว์งานแล้ว ก็ต้องมีอีกสเต็ปไปเรื่อยๆ เราสามารถมีฝันเพิ่มเติมได้เรื่อยๆ เลยไม่รู้ว่าความพอใจอยู่ตรงไหนเหมือนกัน ไม่ใช่ในเชิงของชื่อเสียงด้วย แต่เป็นในเชิงว่าเราจะพัฒนางานเรายังไงให้ดีขึ้นไปอีก ผมอาจจะไม่ได้มีเป้าหมายใหญ่ๆ แค่รู้สึกว่างานเราก็ต้องโตขึ้นตามเวลา”

ขณะที่แบรนด์รถยนต์อย่าง Kia นั้น เชื่อว่าเวลาคือทรัพยากรที่มีค่าของมนุษย์ทุกคน จึงออกแบบรถให้สามารถตอบสนองทุกความต้องการของผู้บริโภค ทุกไลฟ์สไตล์ ในทุกช่วงเวลาของการเดินทาง รวมถึงสร้างพื้นที่ที่มีความหมาย ผ่านการออกแบบทั้งจากภายนอกและภายใน เพื่อให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นส่วนที่มีความหมายและช่วยสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้คนได้

ทั้งนี้เพราะ Kia ไม่ได้ต้องการเป็นแค่แบรนด์ผลิตรถยนต์ แต่ยังอยากเป็นแรงบันดาลใจให้กับการใช้ชีวิตของทุกคนด้วย

เช่นเดียวกับก้องกานที่ไม่เพียงแต่สร้างผลงานศิลปะให้มีส่วนช่วยในการเยียวยาจิตใจหรือสร้างความสุนทรีย์ให้กับผู้คน แต่เป็นมุมมองการใช้ชีวิตที่มองหาความเป็นไปได้และศักยภาพใหม่ๆ ของตัวเองอยู่เสมอ ที่เป็นแรงบันดาลใจให้ทุกคนสามารถนำไปใช้กับชีวิตของตัวเองได้เช่นเดียวกัน 

เงื่อนไขการแจกของ Premium

  • ปฏิทินเริ่มแจกให้ลูกค้า Kia ที่นำรถมาเข้ารับบริการที่ศูนย์ฯ ตั้งแต่ 23 มกราคม 2566 เป็นต้นไป (จนกว่าสินค้าจะหมด)
  • สำหรับผู้ร่วมงานมอเตอร์โชว์ในเดือนมีนาคมนี้ จะได้รับของพรีเมียมจากคอลเล็กชัน Kia x Gongkan เป็นกระเป๋าผ้าอีกด้วย
  • รอติดตามกิจกรรมทางเพจ Facebook: Kia Thailand สำหรับการแจกหมอนผ้าห่มและกระเป๋าผ้า

AUTHOR

PHOTOGRAPHER

พิชญุตม์ คชารักษ์

ชีวิตหลักๆ นอกจากถ่ายภาพ ชอบชกมวยเป็นชีวิตจิตใจ ฟังเพลงที่ดนตรีฉูดฉาดกับเบียร์เย็นๆ