ตามไปดูโชว์สุดสร้างสรรค์ Heineken® Presents Star Venture The Immersive Theatrical Experience

หากเปรียบแบรนด์แบรนด์หนึ่งเป็นบุคคล ไม่น่าแปลกใจที่เขาผู้ผ่านร้อนผ่านหนาวจนเติบใหญ่จะอยากลุกขึ้นมาเล่าประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจของตนเอง แต่คำถามคือจะบอกเล่าด้วยวิธีไหนดีในโลกทุกวันนี้ที่ทุกคนต่างมีเรื่องราวอยากนำเสนอ

แบรนด์เบียร์ระดับโลกอย่าง Heineken® เลือกจะคิดแหวกด้วยการเล่าประวัติศาสตร์ของตัวเองในรูปแบบโชว์ Immersive หรือการแสดงที่จะดึงให้ผู้ชมเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวนั้นๆ ซึมซับประสบการณ์ผ่านความสนุกและเทคโนโลยีอินเตอร์แอคทีฟที่ซ่อนตัวอยู่มากมาย และยังเป็นครั้งแรกของประเทศไทยที่มีการจัดโชว์ลักษณะนี้ด้วย

นี่จึงเป็นโชคดีที่เราได้ตามไปดูงานเล่าเรื่องสุดพิเศษอย่าง Heineken® Presents Star Venture The Immersive Theatrical Experience จัดขึ้นที่อาคารไปรษณีย์กลาง บางรัก ท่ามกลางย่านแห่งความคิดสร้างสรรค์อย่างเจริญกรุง ระหว่างวันที่ 29 มีนาคม – 1 เมษายน 2561

จะเป็นคอเบียร์หรือไม่ใช่ งานนี้เราก็อยากให้ตามไปสนุกด้วยกัน

พีรัท จงอัศญากุล ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ไฮเนเก้น และ ภัททภาณี เอกะหิตานนท์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์ไฮเนเก้น กลุ่มบริษัท ทีเอพี

เตรียมตัวออกเดินทางย้อนเวลา

ในโชว์ครั้งนี้ แบรนด์ไฮเนเก้นได้ออกแบบให้เราย้อนเวลากลับไปสู่ 4 ยุคสำคัญของแบรนด์ ตั้งแต่จุดเริ่มต้นจนเป็นที่รู้จักผ่านห้องโชว์ 4 ห้อง ประหนึ่งให้เราได้เป็นส่วนหนึ่งในบรรยากาศความสำเร็จยุคต่างๆ ทว่าไม่ใช่แค่มารับรู้เรื่องราวของแบรนด์เท่านั้น ผู้ชมยังจะได้ซึมซับความรู้สึกของยุคสมัยนั้นจริงๆ ผ่านฉากตระการตาและนักแสดงฝีมือดี โชว์นี้จึงเปิดรับผู้ชมได้ครั้งละ 25 คนเท่านั้นเพื่อให้ได้เต็มอิ่มกับอรรถรส

เมื่อรับอุปกรณ์เพิ่มความสนุกอย่างพาสปอร์ตสำหรับออกเดินทางและไฟฉาย Traveler Agent ก็พร้อมจะพาเราไปท่องอดีตแล้ว

ห้องที่ 1 ปี 1873 ยุค Amsterdam Start-Up

ห้องแรกเปิดฉากด้วยการจำลองบรรยากาศตรอกถนนข้างโรงหมักเบียร์ไฮเนเก้นให้เราได้เดินเล่น คอยสังเกตบ้านเมืองที่มีผู้คนผ่านไปมา ฟังเพลงจากนักดนตรีริมทาง และที่สำคัญที่สุดคือได้แอบมองความเป็นไปในโรงหมักเบียร์ที่มิสเตอร์ เจอร์ราด อาเดรียน ไฮเนเก้น กำลังคร่ำเคร่งคิดหาสูตรเบียร์ที่ใช่ แต่ความพิเศษไม่ได้จบแค่รายละเอียดเหมือนจริง เพราะเราสามารถพูดคุยกับทุกคนที่อยู่ในนั้นเหมือนได้ย้อนยุคกลับไปจริงๆ ด้วย

“เราพยายามสื่อว่าเราเกิดที่นี่ รายละเอียดทุกอย่างเราจึงให้ความสำคัญมาก นักแสดงคือคนจากยุคนั้นจริงๆ ที่แต่งตัวในชุดนั้น ถามไปถามกลับได้ว่ายุคนั้นมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง ทำไมคุณแต่งตัวแบบนี้ นักแสดงของเราต้องศึกษามาดีมากเพื่อตอบคำถามให้ได้” พีรัท
จงอัศญากุล ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ไฮเนเก้น ผู้พาเราทัวร์ในค่ำคืนนี้เริ่มเล่าเรื่อง

“เราไม่ได้ทำแค่โชว์
แต่เรายังใส่เทคโนโลยี interactive
screen เข้าไปในห้องด้วย อย่างเช่น เมื่อส่องไฟฉายเข้าไปที่ร้านบาร์เบอร์ เราจะเห็นเงาคนกำลังตัดผมอยู่ ทำให้ได้เห็นวิถีชีวิตผู้คนจริงๆ และไฮไลต์ของห้องนี้ก็คือโรงหมักเบียร์ของมิสเตอร์ไฮเนเก้นที่เมื่อส่องไฟฉายไปแล้ว จอภาพในโรงหมักเบียร์จะฉายเรื่องราวประวัติศาสตร์ให้คนได้ชม”

และเมื่อก้าวเข้าไปอีกห้องที่อยู่ติดกัน เราก็ได้เซอร์ไพรส์กับห้องทำงานของมิสเตอร์ไฮเนเก้น (รับบทโดยแมทธิว ดีน!) เขาได้ขอให้ผู้ชมในห้องช่วยหยิบส่วนผสมมาทำการทดลอง ก่อนจะร่วมกันเล่นดนตรีฉลองการค้นพบสูตรเบียร์ลับเฉพาะจากส่วนผสมคือ น้ำ ฮอปส์ บาร์เล่ย์มอลต์ และที่สำคัญที่สุดคือ A-yeast ® ยีสต์สูตรเฉพาะที่ทำให้เบียร์ไฮเนเก้นมีรสชาติเป็นเอกลักษณ์จนวันนี้

ห้องที่ 2 ปี 1889 ยุค Grand Prix Paris

เมื่อผ่านทางเดินทรานสิชั่นจากยุคหนึ่งไปสู่อีกยุคหนึ่ง หลังผ่านเวลาไปกว่า 16 ปี เบียร์ที่ไฮเนเก้นคิดค้นก็ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติ Diplomat Grand Prix Paris ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ทำให้เป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ และผู้ชมอย่างเราก็กำลังเป็นสักขีพยานในห้องนั้นที่มีการตกแต่งอย่างสวยงามและมีผู้ชมอยู่เต็มไปหมด

“เราจำลองงาน World’s Fair ที่มีการประกวดนวัตกรรมหลายประเภทมาให้ชม อย่างเช่นมิสเตอร์เอดิสันที่มานำเสนอหลอดไฟของเขา หรือมิสเตอร์ไอเฟลที่มานำเสนอหอไอเฟล ผู้ชมเดินเข้าไปปฏิสัมพันธ์กับพวกเขาได้เลย ถามว่าคุณคิดหลอดไฟขึ้นมายังไง แรงบันดาลใจของหอไอเฟลเป็นอย่างไร และแน่นอนว่ามุมหนึ่งในนั้นคือมิสเตอร์ไฮเนเก้นที่มาพร้อมเบียร์ซึ่งเป็นนวัตกรรมของเขา และเมื่อผลประกาศออกมา เขาก็ได้รับรางวัลกรังปรีซ์จริงๆ” พีรัทกล่าว

ด้วยความที่แต่ละห้องจะใช้เวลาทัวร์ราว 15 นาที รวม 4 ห้องเป็น 1 ชั่วโมง จึงมีการออกแบบลูกเล่นที่คอยเซอร์ไพรส์ผู้ชมให้ตื่นตาตื่นใจอยู่ตลอด อย่างในห้องนี้ก็คือโชว์การเต้นฉลองชัยชนะจากนักเต้นสาวประจำยุคอย่าง ‘แคนแคน’

“เราพยายามทำให้องค์ประกอบแวดล้อมในแต่ละห้องไม่ดูย้อนยุคมาก เน้นทำให้คนเข้าใจง่าย ผสมความโมเดิร์นและนวัตกรรมลงไป ไม่อยากให้กลายเป็นนิทรรศการย้อนยุคเหมือนที่คนอื่นทำกัน เพราะคาแรกเตอร์ของแบรนด์เราเป็นแบรนด์ที่ progressive ตลอดเวลา แต่สิ่งที่จะเหมือนเดิมเสมอก็คือรสชาติ ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน กี่ยุคกี่สมัย เบียร์ไฮเนเก้นก็คงคุณภาพเช่นเดิม”

เกร็ดประวัติศาสตร์น่ารู้คือ จากชัยชนะครั้งนั้น ปีต่อมาเบียร์ไฮเนเก้นก็ได้รับเกียรติให้เป็นแบรนด์แรกที่ได้ขายบนหอไอเฟลด้วย

ห้องที่ 3 ปี 1950 ยุค Crossing Borders

ปี 1950 เป็นยุคที่เบียร์ไฮเนเก้นได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นสูง จึงเริ่มส่งออกไปยังทวีปต่างๆ จนเป็นที่นิยมกว่า 192 ประเทศในปัจจุบัน ในห้องที่ 3 นี้ เราจึงจะได้ชมว่ากว่าสินค้าจะส่งออกได้ต้องผ่านความลำบากและความพยายามอะไรบ้างเพื่อรักษาให้เบียร์ยังคงคุณภาพดีไว้ได้เสมอ

สมัยก่อนสินค้าต้องเดินทางไกลผ่านทะเล โชว์นี้จึงจำลองหัวเรือขนาดใหญ่ให้เราขึ้นไปยืนอยู่เบื้องหน้าฉากสกรีนที่ทำให้เหมือนลอยอยู่กลางทะเลจริงๆ รายล้อมด้วยบรรดาลูกเรือนิสัยซุกซน กัปตันได้เชิญให้ผู้ชมร่วมกันหาทิศทางการเดินเรือไปส่งสินค้า ก่อนจะอดทนฝ่าพายุไปด้วยกัน

“ความน่าสนใจของการทำ Immersive Theatrical Experience คือผู้ชมจะได้รับข้อมูลจากแต่ละห้องโดยไม่ต้องมาเดินดูดิสเพลย์ที่ตั้งไว้เฉยๆ ถ้าอยากรู้อะไรก็ถามนักแสดงได้เลย นอกจากต้องทำการบ้านเรื่องข้อมูลแล้ว เรายังพยายามปรับการแสดงเพื่อคนไทยจะได้เข้าใจง่ายขึ้น” ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ไฮเนเก้นย้ำให้เราเห็นถึงความละเอียดในการทำงานของพวกเขา

ห้องที่ 4 ปี 1953 ยุค Icons of the Making

ในทุกห้องที่ผ่านมา 4 ยุค 4 สมัย เราได้เห็น ‘เรื่องราว’ ของแบรนด์ในจังหวะที่แตกต่างกันไปผ่านฉลากเบียร์ทั้ง 4 ในยุคที่เป็นโมเมนต์สำคัญต่างๆ ของไฮเนเก้น ห้องสุดท้ายที่เป็นฉากจบอันน่าประทับใจจึงเป็นยุคการกลับมาที่โด่ดเด่นของสัญลักษณ์ดาวแดง อันเป็นสัญลักษณ์ประจำโลโก้ของไฮเนเก้นมาจนทุกวันนี้

แต่ครั้นจะเล่าเรื่องแบรนด์อย่างเดียวคงไม่สนุก ทีมงานเลยม็อกอัพบรรยากาศยุคนั้นที่ป๊อปอาร์ตกำลังเฟื่องฟู เอลวิส เพรสลีย์ และมาริลีน มอนโร กำลังโด่งดัง ผู้ชมจะได้เสพความบันเทิงผ่านการแสดงในแบบฉบับของยุคนั้นภายใต้บรรยากาศแกลเลอรียุค 50s มีภาพวาด มีเพลงป๊อป โดยมุมหนึ่งยังจัดเป็นมุมสร้างงานศิลปะแบบ silk screen รูปโลโก้ไฮเนเก้นให้ผู้ชมนำกลับบ้านได้ด้วย

กลับสู่ปัจจุบันและก้าวสู่อนาคต

จากประสบการณ์ที่เราได้ออกเดินทางวันนี้ เรียกได้ว่าทั้งหมดทั้งมวลของ Heineken® Presents Star Venture The Immersive Theatrical Experience เป็นโชว์ที่ต้องผนึกกำลังทั้งฝั่งนักแสดง นักเต้น โปรดักชั่น ไม่ต่างจากการทำละครเวทีเลยด้วยซ้ำ

“โชว์ในครั้งนี้มีความเอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะเหล่าสาวกไฮเนเก้นเท่านั้น ทางแบรนด์และทีมงานทุกคนจึงตั้งใจอย่างมากและใช้เวลาเตรียมการนานถึง 6 เดือนเพื่อให้องค์ประกอบทุกอย่างออกมาดีที่สุด ทีมงานที่เราร่วมงานด้วยก็เป็นทีมที่เชื่อมือได้ อย่างเช่นทีมกำกับการแสดงอย่าง Ring the bell หรือทีมโปรดักชั่นอย่าง Very Kind Invention แบรนด์เรามีความทันสมัยและความเป็นนานาชาติ เราจึงเลือกทำงานร่วมกับคนที่เคยผ่านงานระดับ international มาแล้ว”

“การทำการตลาดทั่วไปประเภทนี้มักทำเป็นนิทรรศการ แต่ผมคิดว่าถ้าเป็นอย่างนั้นคงไม่มีทางที่คนเขาจะมาอินกับเรา อยากรู้เรื่องราวแบรนด์เรา มันจึงต้องมีโปรดักชั่นหรือมีความบันเทิงให้เขามาสนใจ โชว์ลักษณะนี้เป็นเรื่องใหม่ การทำอะไรใหม่ๆ มันเสี่ยงอยู่แล้ว แต่เราก็ต้องลองดู ถ้าเราอยากให้เขาได้ข้อมูลเต็มที่จริงๆ มันต้องนำเสนอผ่านสื่อแบบนี้ สื่อเก่ามันได้รับข้อมูลทางเดียว แต่นี่คือ two-way communication ให้เราเรียนรู้เรื่องราวของแบรนด์ผ่านประสบการณ์”

“ที่สำคัญคือเราจัดเต็มทุกรอบการแสดง มั่นใจได้เลยว่าทุกคนที่เข้าไปชมจะได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ คุณไม่ได้เดินเข้ามาในนิทรรศการ แต่คุณมาคุยกับคนในยุคนั้นๆ คุณไม่ต้องอ่านประวัติ แต่คุณถามได้เลยว่าแรงบันดาลใจในการทำเบียร์ยุคนั้นคืออะไร และคิดว่าเบียร์ของคุณในอีก 150 ปีข้างหน้ามันน่าจะเป็นยังไง” พีรัท จงอัศญากุล และ ภัททภาณี เอกะหิตานนท์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์ไฮเนเก้น กลุ่มบริษัท ทีเอพี ร่วมกันกล่าวสรุปปิดท้าย

สิ่งที่หลงเหลืออยู่ในห้องนี้ คือเรื่องราวของแบรนด์แบรนด์หนึ่งที่ผ่านความท้าทายและความสำเร็จของทุกยุคสมัย จนกลายเป็นเบียร์ที่ครองใจคนทั่วโลกในปัจจุบัน ทริปย้อนเวลาของเราอาจจบลงแล้ว แต่พวกเขาจะยังรักษาเอกลักษณ์นี้ไว้และออกเดินทางต่อไปยังอนาคตแน่นอน

ถ้าใครอยากสัมผัสประสบการณ์โชว์รูปแบบใหม่ครั้งแรกในประเทศไทยเหมือนเรา พร้อมรู้จักเรื่องราวประวัติศาสตร์ของแบรนด์ไฮเนเก้น ในงาน Heineken® Presents Star Venture The Immersive Theatrical experience ที่จะจัดถึงวันที่ 1 เมษายนนี้ ระหว่างเวลา 16:00 – 22:00 น. ที่ไปรษณีย์กลาง บางรัก

ติดตามรายละเอียดรับสิทธิ์การเข้าชมและรอบการแสดงที่ www.facebook.com/Heineken และ Instagram@heineken_th #StarVenture
#OpenYourWorld

Facebook Event | https://bit.ly/2GS5yaM

#Heineken #StarVunture #OpenYourWorld

ภาพ ชนพัฒน์ เศรษฐโสรัถ และธนวัฒน์ อัศวชุติพงศ์

AUTHOR