ตามไปดู Comblind ภารกิจทำอาหารที่คนตาดีและตาบอดต้องออกค้นหาความอร่อยร่วมกัน

ทันทีที่รู้ว่านักการละครผู้ก่อตั้ง The Blind Theatre Thailand จับมือกับ 2 รุ่นใหม่ไฟแรงจากบ้าน HUBBA Thailand ทดลองเปิดพื้นที่ให้คนตาดีและคนตาบอดได้มาทำภารกิจแปลกแต่น่าสนุกเป็นบ้า อย่างการค้นหาวิธีการทำอาหารรูปแบบใหม่ที่ไม่ต้องใช้สายตาก็สามารถสร้างสรรค์เมนูอร่อยเหาะได้ไม่แพ้วิธีการที่คนทั่วไปคุ้นเคย

เพราะไม่เคยได้ยินไอเดียคิดดีแต่กล้าบ้าบิ่นแบบนี้มาก่อน ก็เลยอดตื่นเต้นสงสัยไม่ได้ว่าภารกิจครั้งนี้จะออกมาแบบไหนและหน้าตาเป็นอย่างไร เราจึงกระโดดซ้อนท้ายพี่วินมอเตอร์ไซค์หน้าออฟฟิศ ซิ่งมาร่วมพูดคุยกับพวกเขาที่ HUBBA Thailand อย่างไม่รีรอ

ไม่ว่าสิ่งนี้จะอยู่ที่ไหน
ไม่ว่าโปรเจกต์นี้จะเป็นของใคร ถ้าหากเรารู้ เราจะตามไปดู

ใครริเริ่ม : 1 นักการละคร 1 คนตาบอด 2 ชาว HUBBA Thailand และ 1 โรงเรียนสอนทำอาหาร

หลุยส์-กฤษณ์
สงวนปิยะพันธ์

นักการละครผู้ก่อตั้งThe Blind Theatre Thailand ชายหนุ่มผู้ค้นพบพลังชีวิตจากการออกแบบพื้นที่ในการพาคนตาดีและคนตาบอดมาเจอกันด้วยละครในตอนเริ่มต้น
และไม่หยุดที่จะทดลองวิธีการออกแบบพื้นที่รูปแบบใหม่ๆ ที่ไม่จำกัดแค่การละคร

ท็อฟฟี่-โสภณ ทับกลอง

มองแค่ภายนอก
ท็อฟฟี่คงเป็นเพียงหนุ่มตาบอดที่มีรังสีของความใจดี แต่เมื่อได้พูดคุยทำความรู้จัก
ท็อฟฟี่คือนักแสดงละครหนุ่มไฟแรงในแก๊ง The Blind Theatre Thailand เพื่อนซี้อารมณ์ดีของหลุยส์ เขาไม่กลัวการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ
โดยเฉพาะการทำอาหารที่ต้องเล่นกับไฟและน้ำมัน ท็อฟฟี่บอกเราว่ามันตื่นเต้นท้าทายเพราะเรากะไม่ได้เลยว่ามันจะกระเด็นมาทางไหน
แต่ที่ประทับใจกว่านั้นคือเขาสามารถรับรู้ได้ว่าสาวที่พบเจอในชีวิตประจำวันสวยหรือไม่สวยด้วยพรสวรรค์ที่ไม่อาจอธิบายได้

แพรว-กมลลักษณ์ ศรีสุนทร

ถ้าทุกคนจำสาวน้อยที่ลุกขึ้นมาฉายภาพยนตร์เพื่อจุดแรงบันดาลใจให้คนในวงการสร้างสรรค์คราวก่อนได้ เธอคือสาวน้อยคนนั้น แต่ถ้าจำไม่ได้ไม่เป็นไร
เราจะเล่าให้ฟัง

แพรวเป็นสมาชิก a team junior 9 ปัจจุบันเป็น
Junior Community Evangelist ของ HUBBA หรือที่แปลได้ว่าผู้เผยแพร่ลัทธิ
ตำแหน่งที่ทำหน้าที่ช่วยให้ผู้คนในคอมมูนิตี้เชื่อมต่อกัน ผ่านกิจกรรมรูปแบบต่างๆ

ที่น่าสนใจคือ
แพรวเป็นคนรุ่นใหม่ที่เชื่อในพลังการรวมกลุ่มของผู้คนทั้งในโลกจริงและเสมือนจริง
เพราะหลงใหลในแรงบันดาลใจดีๆ จึงอยากลุกขึ้นมาทำอะไรบางอย่างเพื่อส่งพลังงานบวกนั้นกลับไปสู่ผู้คน แต่คราวนี้เธอได้พาเพื่อนอุดมการณ์ในทีมเดียวกันอย่าง
ปริญญ์-ปริญญ์ เหลาแก้ว
มาร่วมออกแบบกิจกรรมด้วย

แก๊งครูผู้เชี่ยวชาญการปรุงอาหารไทยจาก ‘Go!’ Thai Cooking
Class

โรงเรียนสอนทำอาหารไทยสุดฮอตในหมู่ชาวต่างชาติแฝงตัวอยู่ในตลาดสดเก่าแก่ย่านเจริญกรุง-บางรัก ที่ตกปากรับคำชวนของแพรว ปริญญ์ หลุยส์ และท็อฟฟี่อย่างไม่รีรอ จะมาช่วยดูแลการเรียนการสอนให้สนุกและลื่นไหล ซึ่งเขาได้ส่งคุณครูสายพิน ยะทา มาเป็นคนนำสอนในครั้งนี้

ทำอะไร : ภารกิจทำอาหารสุดมันที่คนตาดีกับคนตาบอดจะเข้าครัวไปด้วยกัน

นี่ไม่ใช่งานการกุศลหรือการทำบุญ
แต่เป็นกิจกรรมทำอาหารรูปแบบใหม่ที่เปิดพื้นที่ให้คนตาดี และคนตาบอดที่อยากเรียนทำอาหารไทยมาเข้าครัวไปด้วยกัน

ในช่วงแรกทุกคนจะมีโอกาสได้ฟังประสบการณ์การเข้าครัวและโลกของอาหารในมุมมองคนตาบอดจากท็อฟฟี่และเดอะแก๊ง แล้วลงมือทำก๋วยเตี๋ยวลุยสวนและบัวลอยหอมหวาน

แต่ที่น่าสนใจคือ
นี่ไม่ใช่การเรียนกึ่งสำเร็จรูปที่คุณครูเตรียมส่วนผสม ตวงปริมาณ มาให้เสร็จสรรพ มาถึงก็พร้อมโยนใส่
แต่ผู้เรียนทุกคนจะต้องเริ่มเรียนรู้ตั้งแต่วิธีการเลือกวัตถุดิบ
โดยคนตาดีจะต้องปิดตาแล้วใช้สัมผัสคัดสรรว่าอันไหนคือของสด อันไหนคือของไม่สด

“การทำอาหารเป็นสิ่งที่ทำให้คนตาบอดเท่าเทียมกับคนตาดี
อันนี้คิดเองนะ แล้วมันก็จริง เพราะว่าระบบสัมผัสเขาสามารถทดแทนได้ เรามองว่ากิจกรรมอื่นๆ ในสังคมส่วนใหญ่คนตาดีก็ยังต้องเป็นผู้นำ
แต่การเข้าครัวทำอาหารน่าจะเท่าเทียมกันได้ แล้วแน่นอนว่าเรื่องกินมันก็เป็นเรื่องพื้นฐานของคน
เราก็เลยส่งไอเดียนี้ไปให้พี่หลุยส์พิจารณา” แพรวเล่าถึงจุดเริ่มต้นไอเดียสนุก

“อย่างที่แพรวบอกว่าอาหารมันเป็นเรื่องของชีวิตประจำวัน เรารู้สึกว่านี่คือพื้นฐานที่มนุษย์หนีไม่ได้ คุณอาจจะหนีการทำละครได้
คุณอาจจะหนีหลายๆ อย่างได้
แต่คุณหนีเรื่องการกินข้าวไม่ได้

คนทุกคนก็อยากกินอาหารที่ดีขึ้น
มีอาหารที่รสชาติดีขึ้น คนตาบอดก็เช่นกัน เขารู้ว่าโลกของอาหารตอนนี้มันกว้างและมีอะไรดีๆ ให้ทานเยอะมาก เขาอยากทำอาหารดีๆ แต่ตัวเลือกเขาถูกจำกัด
เพราะทุกอย่างถูกออกแบบมาเพื่อคนตาดี

เวลาเขาจะไปร้านอาหารดีๆ อร่อยๆ คุณมีเมนูให้เขาไหม
มีพนักงานคนไหนจะอ่านให้เขาฟังไหม ถ้าคุณรู้ว่าเขาใช้เครื่องอ่านเสียงเวลาเล่นอินเทอร์เน็ตได้
มีร้านไหนคิดจะทำเมนูให้อ่านเสียงก่อนที่เขาจะไป เขาจะได้เลือกตั้งแต่ที่บ้านก็จบแล้ว
แต่เราไม่ได้สื่อสารกันเลยไม่รู้ว่าคนตาบอดเขาเล่นอินเทอร์เน็ตได้ ถ้าพูดถึงความเท่าเทียม
เขามีสิทธิ์ที่จะรู้ว่าร้านนั้นมีเมนูอะไรนะ” หลุยส์บอกเราอย่างนั้น

ส่วนครูคิม ตัวแทนจาก ‘Go!’ Thai Cooking Class บอกเราว่าการทำอาหารให้อร่อยไม่จำเป็นต้องใช้ตามองกะวัดตวงให้ได้ส่วนผสมตามตำราเป๊ะๆ
บางครั้งเซนส์สัมผัส การดม การชิม จะตอบเราได้ดีที่สุดว่าสิ่งนี้ลงตัวหรือยัง และน่าจะเป็นเรื่องดีไม่น้อยถ้าคลาสนี้จะได้ลองใช้สัมผัสทำอาหารแทนการใช้ตาดู

ทำที่ไหน : HUBBA Thailand ศูนย์รวม
Startup บ้าพลัง

Co-working Space รุ่นเก๋าเมืองกรุง ขุมพลังคนที่พร้อมจะเปลี่ยนความฝันให้กลายเป็นจริง
ตั้งอยู่กลางเอกมัยซอย 4
งานนี้เขายกห้องเรือนกระจกน่ารักๆ ให้ชาว Comblind แปลงร่างเป็นห้องครัวเฉพาะกิจเต็มที่!

ทำทำไม
: เปิดพื้นที่ให้คนตาดีตาบอดมาเจอกัน
และค้นหาวิธีการทำอาหารรูปแบบเฉพาะตัวที่ไม่ต้องพึ่งสายตา

ในยุคสมัยที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจที่ไร้ผู้คนจะสร้างสะพานเชื่อมต่อไปสู่การลงมือทำจริง
หลุยส์บอกเราว่าเขาต้องการออกแบบกิจกรรมนี้ให้กลายเป็นพื้นที่ที่เปิดกว้างให้คนตาดีกับคนตาบอดได้เจอกัน อยู่ร่วมกัน และพยายามลบภาพการกุศลคนตาบอดที่สังคมเคยทำ เพราะการทำอาหารกับคนตาบอดไม่ใช่เรื่องการช่วยเหลือ
แต่นั่นคือการออกแบบความรู้ใหม่ต่างหาก

“เราอยู่ในยุคแห่งความฝัน แรงบันดาลใจ มาประมาณ
3 – 4 ปี
และมันหนักมากขึ้นเรื่อยๆ บางครั้งต้องจัดการให้เกิดการโคจร
ชวนคนที่มีฝันมาเจอพื้นที่ มาเจอสถานการณ์จริง ได้พูดคุยกัน มันสำคัญมากนะ เพราะว่าวันนี้มีหลายๆ
อย่างที่ถูกออกแบบมาจากการไม่ได้พูดคุย
คุณแค่คิดว่าคุณอยากสร้างสิ่งนี้ให้ลูกของคุณ
แต่คุณไม่ได้ถามลูกว่าอยากได้ไหม เช่นเดียวกัน เรามีการออกแบบสร้างบางสิ่งให้กับคนตาบอดโดยไม่ได้ถามเขาว่าต้องการไหม หรือออกแบบขึ้นจากความต้องการของเขาเมื่อสิบปีก่อน วันนี้เขาต้องการอย่างอื่นแต่เราไม่เคยไปถาม

การได้มาเจอตัวจริงๆ มันคือชีวิต
คุณจะเห็นภาพรวมว่าเขาต้องการอะไรกันแน่ และการกลับไปครั้งนี้ของคุณจะกลับไปสร้างการออกแบบที่ดีขึ้น ช่วยให้คุณมีแรงบันดาลใจที่กลมขึ้น ไม่ใช่แรงบันดาลใจจากแค่มุมเดียว

และจะเป็นเรื่องดีมากเลยถ้าสุดท้ายแล้วการออกแบบนี้เราเจอวิธีการสอนให้คนตาบอดทำอาหารได้
เท่ากับว่าความหมายคือมนุษย์เจอวิธีการทำอาหารอีกแบบหนึ่งแค่นั้นเอง
ไม่ได้เป็นเรื่องของตาบอดไม่บอด เพราะว่าคุณก็มีมือเหมือนกัน คนตาบอดเราสอนผ่านความรู้สึก ผ่านการสัมผัส สุดท้ายถ้าเราออกแบบสำเร็จ ใครได้ประโยชน์ ไม่ใช่แค่คนตาบอดอย่างเดียวนะเว้ย ตาดีก็ได้อีกวิธีการหนึ่ง”

เพราะกิจกรรมนี้มีคนตาบอดเป็นคนร่วมออกแบบกิจกรรม
เราจึงอยากฟังความเห็นของท็อฟฟี่ก่อนจาก “เราว่าการที่เราจะเข้าครัวทำอาหาร เปอร์เซ็นต์มันค่อนข้างน้อยนะถ้าไม่มีวิธีการ
จริงๆ คนตาบอดที่อยากทำอาหารเขาไม่ได้ต้องการแค่การทำกึ่งสำเร็จรูป แค่จับเครื่องปรุงที่คนเตรียมไว้โยนใส่ๆ
จบ แต่คนตาบอดก็อยากจับทุกอย่างในครัว อยากทำทุกขั้นตอนเหมือนทุกคนนั่นแหละ”

แนะนำให้ตามไปดู

สำหรับคนตาดีที่รักการทำอาหาร
งานนี้เขารับจำนวนจำกัดแค่ 15 คนเท่านั้น มีค่าร่วมกิจกรรม 550 บาท
ลงทะเบียนที่ eventpop.me/e/2128 โดยภารกิจ Comblind นี้จะเริ่มเวลาบ่ายโมงตรง วันอาทิตย์ที่
6 สิงหาคมนี้ ที่ HUBBA เอกมัย

ภาพ ดวงสุดา กิตติวัฒนานนท์

AUTHOR