ตามไปดูและสักบนร่างกายด้วยลายเส้นเอกลักษณ์ของเต้ ภาวิต ในนิทรรศการ Mnus̄ʹychāti

ลายเส้นที่เป็นเอกลักษณ์ของศิลปินจริงๆ แทบจะไม่ต้องใช้ลายเซ็นลงท้ายก็สามารถบอกได้ว่าเป็นผลงานของใคร
ซึ่งนี่แหละคือเอกลักษณ์ที่สร้างความแตกต่างให้กับบรรดานักวาดภาพประกอบ และถ้าพูดถึงลายเส้นที่ดูบิดเบี้ยวเป็นรูปร่างมนุษย์ทำท่าต่างๆ
ในช่วงนี้ก็คงยากที่เราจะไม่นึกถึง เต้-ภาวิต พิเชียรรังสรรค์ ศิลปินหนุ่มที่เพิ่งกลับมาจากออสเตรเลียพร้อมลายเส้นเป็นเอกลักษณ์สุดๆ
หลายคนอาจจะไม่คุ้นกับผลงานของเขา แต่แน่นอนว่าถ้าเห็นแล้วจะต้องมีคนร้อง ‘อ๋อ’
ขึ้นมาแน่นอน ล่าสุดเต้กำลังมีนิทรรศการใหม่จัดแสดงที่ Speedy Grandma ในชื่อ ‘Mnus̄ʹychāti’ (อ่านว่า มนุษยชาติ) ที่เป็นเหตุผลให้เราชวนเขามานั่งคุยกันในวันนี้

ไม่ว่าสิ่งนี้จะอยู่ที่ไหน ไม่ว่าโปรเจกต์นี้จะเป็นของใคร ถ้าหากเรารู้ เราจะตามไปดู

ใคร : เต้-ภาวิต พิเชียรรังสรรค์

ก่อนจะกลับมายังประเทศไทย หนุ่มคนนี้จบการศึกษาด้านกราฟิกดีไซน์จากมหาวิทยาลัยในเมลเบิร์น
ประเทศออสเตรเลีย แต่ระหว่างเรียนด้านออกแบบได้ทำให้เขาค้นพบว่าตัวเองเทใจให้กับความเป็นศิลปินมากกว่าการเป็นนักออกแบบ

“เราเพิ่งรู้ตัวตอนปี 2 ว่าเราไม่ได้อยากทำงานด้านดีไซน์แล้ว
ทันทีที่รู้เลยหันมาสนใจงานด้านไฟน์อาร์ตมากขึ้น อยากวาดอะไรที่เป็นตัวของตัวเองแล้วให้คนมาจ้างที่เราเป็นของเราแบบนั้นมากกว่า
ซึ่งสไตล์งานของเราส่วนมากจะเป็นภาพประกอบ (Illustration)”

หลังจากเรียนจบ
เขากลับมาที่ไทยแล้วเข้าร่วมโครงการ Artist Residency กับ The
Archivist โดยมีกำหนดสัญญาด้วยกันเป็นระยะเวลาหนึ่งปี “เราเลือกที่ The Archivist เพราะว่าผลงานภาพพิมพ์ของเขามีคนเห็นเยอะ
มีศิลปินหลายคนเลือกจะพิมพ์งานกับที่นี่
เลยคิดว่าน่าจะเป็นอีกช่องทางที่ดีที่จะได้รู้จักกับคนในวงการศิลปะไทยบ้าง”

ไม่นานนัก เต้ก็ได้มีนิทรรศการเดี่ยวในชื่อ ‘Awkward Relationship’
จัดขึ้นที่ Jam Cafe BKK เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว
“เนื้อหางานครั้งนั้นจะเกี่ยวกับลายเส้นของเราที่มันมีความ awkward
อยู่ มันจะดูเด๋อถ้าเทียบกับงานไฟน์อาร์ตทั่วไป
ด้วยเส้นที่เหมือนเด็กวาด แล้วบางครั้งมันดูรีบๆ วาดเร็วๆ การที่เรานำรูปแต่ละชิ้นที่วาดมาวางประกอบข้างๆ
กันเยอะๆ มันเลยกลายเป็นความสัมพันธ์ที่ awkward ระหว่างผลงานแต่ละชิ้น”
ซึ่งในระหว่างการจัดนิทรรศการครั้งนั้นเองที่ทำให้เต้รู้จักกับ
ลี-อัญชลี อนันตวัฒน์
ที่ได้ชักชวนเขามาแสดงนิทรรศการเดี่ยวที่
Speedy Grandma
ในปีนี้

ทำอะไรใน Tae Parvit – Mnus̄ʹychāti

นิทรรศการเดี่ยวลำดับที่ 2 ของเต้จัดแสดงที่ Speedy Grandma แม้ว่าคอนเซปต์จะแตกต่างออกไปจากนิทรรศการแรก
แต่สิ่งที่เกี่ยวข้องกันยังเป็นเรื่องความเป็นมนุษย์ที่เขาหยิบมาใช้เป็นตัวกลางในการสื่อความหมายของผลงาน
นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมสุดพิเศษคือการสักลงบนร่างกายของผู้ที่สนใจด้วยลายเส้นที่เขาออกแบบเอง
ผ่านการสักของจิโกะจาก @shopyoyoyo

“ในวันเปิดงาน
นอกจากกิจกรรมดนตรีจากดีเจแล้ว งานนี้เราชวนพี่จิโกะมาเป็นช่างสักให้โดยเราเป็นคนออกแบบลายเส้น
มันสนุกมากๆ เพราะเราไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อน บางคนเขามาสักครั้งแรกก็มี
เราก็เกรงใจแต่เขาบอกว่าให้สักเลย เพราะชอบลายเส้น เราก็รู้สึกดีมากๆ เพราะมันตรงกับคอนเซปต์ของงานเราพอดีที่ตั้งใจจะพูดเรื่องความเป็นคน”

ว่ากันถึงรูปแบบผลงานของเต้ในชุดนี้สร้างความตะลึงให้เราไม่น้อย
เพราะว่างานของเขาในนิทรรศการก่อนหน้าจะใช้วิธีการวาดลงบนกระดาษแล้วแปะลงบนผนัง
แต่งานชุดนี้เขาวาดลงบนผืนผ้าใบขนาดใหญ่ซึ่งทำให้เราสามารถเห็นรายละเอียดส่วนเล็กส่วนน้อยของงานเขาได้ชัดเจน
โดยสีที่เขาเลือกใช้ในการสร้างสรรค์ผลงานคือสีทาบ้าน “ตอนเราอยู่เมลเบิร์น
เรากับเพื่อนๆจะทำงานสตรีทอาร์ตซึ่งใช้สีทาบ้านและสเปรย์เป็นปกติอยู่แล้ว
เรารู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องไปซื้ออุปกรณ์ศิลปะเพื่อมาทำงานศิลปะ
อะไรก็ทำได้ทั้งนั้น”

ทำไมถึงเป็น Mnus̄ʹychāti

หากแปลความหมายของคำว่า ‘มนุษยชาติ’ ตามพจนานุกรมแล้วนั้นก็เปรียบความหมายเท่ากับคำว่า ‘คน’ ซึ่งเป็นคำที่บ่งบอกถึงลักษณะผลงานของเต้ได้เป็นอย่างดีเพราะเขาชอบวาดภาพร่างกายและท่าทางของมนุษย์

“นิทรรศการนี้เราจะพูดเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวและท่าทางต่างๆ
ของคน เราวาดออกมาแล้วก็ตั้งใจให้คนดูได้คิดและพูดคุยกันว่าภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้า ศิลปินตั้งใจจะสื่อสารอะไร
หรือท่าทางของคนที่อยู่ในภาพวาดของเรานั้นกำลังทำท่าทางแบบไหน เหมือนให้คนดูได้มีปฏิสัมพันธ์ระหว่างกัน”

“ไอเดียของงานชุดนี้เริ่มมาจากเราอยากเพนต์ลงบนผ้าใบที่ไม่ได้ขึงเฟรม
เราก็ลองวาดบางภาพเริ่มมาจากเส้นเดียวแล้วนึกภาพในหัวออกเลยเอามาต่อยอดด้วยซ้ำ
ไม่ได้สเก็ตช์มาก่อนก็มี เรื่องสี เราก็ทดลองจนกว่าจะเจอสีที่ทำแล้วรู้สึกลื่นไหล
สุดท้ายเลยกลายมาเป็นสีโทนเขียวกับน้ำเงินแบบที่เราชอบ” โดยเต้ก็ได้คุมโทนงานของเขาชุดนี้ให้เป็นสีโทนเดียวกันทั้งหมด

ทำที่ไหน : Speedy Grandma

แน่นอนว่าลักษณะการติดตั้งของผลงานศิลปะ พื้นที่ก็เป็นเรื่องสำคัญลำดับต้นๆ
การจัดวางงานของเต้ในนิทรรศการนี้อาจจะเปลี่ยนไป ถ้าไม่ใช่ที่ Speedy Grandma

“ตอนแรกที่เรานำงานชุดนี้มาวางไว้ที่นี่
เราเอามาแค่งานบนผ้าใบอย่างเดียว พอลองดูตัวพื้นที่แล้วก็รู้สึกว่าที่นี่ควรจะเล่นอะไรมากกว่าการนำงานมาแขวนไว้เฉยๆ
เราเลยลองปรึกษากับหลายคนแล้วก็เอาของที่ทางแกลเลอรี่มีอยู่แล้ว เช่น เศษไม้ ลวด
คลิป มาเป็นส่วนหนึ่งในการติดตั้ง เป็นการได้รียูสของอีกด้วย จะได้ไม่สิ้นเปลือง
แล้วก็ยังดูสนุกเข้ากับความเป็น Speedy Grandma”

แนะนำให้ตามไปดู

สำหรับผู้ที่สนใจสามารถตามไปดูงานของเต้ได้ที่นิทรรศการ ‘Mnus̄ʹychāti’ จัดแสดงที่ Speedy Grandma จนถึงวันที่ 30 เมษายนนี้ ตั้งแต่เวลา 12.00 – 18.00 น. ซึ่งหากสนใจสักด้วยก็สามารถแจ้งกับทางแกลเลอรี่เพื่อนัดวันได้เลย
นอกจากนี้แล้วยังมีขาย Zine, เสื้อยืดและผลงาน Mini Print
ขนาดเล็กน่าสะสมของเต้ได้ด้วยนะ แต่หากใครไม่สะดวกเดินทางไปชมผลงานในนิทรรศการนี้
สามารถติดตามออนไลน์ได้ทางเฟซบุ๊ก Tae Parvit และ instagram @taeparvit

เต้แอบกระซิบมาว่าภายในปีนี้เขาจะมีโปรเจกต์เซรามิกร่วมกับ ‘ทีละใบ’ และนิทรรศการภาพพิมพ์ร่วมกับ The Archivist ด้วยนะ อดใจรอกันไว้ได้เลย!

Facebook | Speedy Grandma

ภาพ ธนรัช
สิริพิเดช, Speedy Grandma

AUTHOR